คำกล่าวที่ว่า "เราเลือกเกิดไม่ได้" คงเหมาะสมมากที่สุดที่จะนำมาให้นิยามชีวิตของชายหนุ่มที่ชื่อ "ศรีกานต์ บอลลา" เมื่อโชคชะตาลิขิตให้เขาเกิดมาเป็นคนตาบอด อย่างไรก็ดี ถึงแม้เราจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร เรื่องราวของเขาถูกเล่าผ่านหนังอินเดียในชื่อ "Shrikanth"ศรีกานต์ชายหนุ่มที่ไม่เคยย่อท้อต่อชะตาชีวิตของตัวเอง เขาเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน แต่ด้วยความช่วยเหลือจากครูเดวี ครูสาวใจดีที่คอยดูแลศรีกานต์มาโดยตลอด ทำให้เขาได้มีโอกาสเรียนหนังสือเหมือนเด็กคนอื่นๆ ศรีกานต์เป็นเด็กหัวดีและให้ความสำคัญกับการเรียนเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนระบบการศึกษาของอินเดียจะไม่เข้าข้างเขา เพราะถึงแม้เขาจะสามารถสอบเข้าเรียนในสายวิทย์ได้ แต่ทางมหาวิทยาลัยกลับไม่ให้เขาเรียน เนื่องจากเขาเป็นคนตาบอดจึงไม่สามารถเรียนสายวิทย์ได้ แต่ศรีกานต์ก็ต่อสู้จนได้เรียนในสายวิทย์และท้ายที่สุดก็ได้ทุนไปเรียนต่อยังต่างประเทศ เมื่อเรียนจบเขาก็ได้ร่วมมือกับพี่ชายคนสนิทอย่างราวี เพื่อร่วมกันก่อตั้งโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ทำมาจากขยะรีไซเคิล จนกลายเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียงในอินเดีย หนังเล่าเรื่องของศรีกานต์ที่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ตลอดทั้งเรื่องเราจะเห็นว่าศรีกานต์ไม่เคยยอมแพ้เลย ถามว่าเพราะอะไร เป็นเพราะเขาเก่ง หรือเป็นเพราะว่าเขาเข้มแข็ง แต่เปล่าเลย ที่เขาต้องสู้ยิบตาเป็นเพราะว่า คนอื่นเมื่อเจออันตรายก็เลือกที่จะวิ่งหนี แต่สำหรับคนตาบอดอย่างเขาล่ะ ถ้าจะหนีแล้วจะหนีไปทางไหน ประโยคง่ายๆ ที่ศรีกานต์พูดน่าจะสะท้อนให้เห็นชีวิตของคนหลายคนที่อาจไม่ได้มีทางเลือกในชีวิตมากนัก พวกเขาจึงทำได้เพียงอดทนและสู้ต่อไป หนังยังจิกกัดสังคมอินเดียในแง่การให้โอกาสกับผู้พิการ เราจะเห็นได้ว่าศรีกานต์เป็นคนเก่งและมีความสามารถคนหนึ่ง แต่หลายๆ ครั้งชีวิตของเขาต้องพลาดโอกาสดีๆไป เพียงเพราะเป็นผู้พิการทางสายตา หลายคนอาจคิดว่าหนังเรื่องนี้ต้องเป็นหนังแนวดราม่าหนักหน่วงเรียกน้ำตา ชนิดที่ว่าตับไตพังกันเลยทีเดียว แต่ช้าก่อนค่ะ ถึงแม้หนังจะแทรกความดราม่าและอาจมีบางฉากที่เรียกน้ำตา แต่หนังก็ไม่ได้เล่นกับจิตใจคนดูขนาดนั้น ถึงแม้ว่าจะสร้างมาจากเรื่องจริง หนังก็ไม่ได้เล่าเรื่องราวของศรีกานต์ให้ออกมาน่ารันทดขนาดนั้น ในทางตรงกันข้าม หนังแสดงให้เห็นว่า ศรีกานต์ตาบอดก็จริง แต่ก็ได้รับความอบอุ่นจากครอบครัวและครูเดวี อีกทั้งศรีกานต์ยังมีแฟนสาวที่ชื่อว่าสวาธิที่คอยอยู่เคียงข้างกันเสมอ หนังก็เลยออกมาแนวอบอุ่นและเน้นสร้างกำลังใจ มากกว่าจะมาตีแผ่ชีวิตอันแสนรันทดของศรีกานต์สำหรับใครที่ชอบหนังแนวดราม่าที่ไม่ได้หนักหน่วงมาก คิดว่าหนังเรื่องนี้น่าจะตอบโจทย์ค่ะ อีกเรื่องหนึ่งคือ ตั้งแต่เริ่มเรื่องมา หนังค่อยๆ เล่าเรื่องและพาเราเข้าไปทำความรู้จักกับตัวละครศรีกานต์ การเล่าเรื่องตรงนี้ถือว่าทำออกมาได้ดี แต่แอบเสียดายตอนจบ ที่ดูเหมือนจะดำเนินเรื่องรวบรัดไปหน่อย แต่เมื่อพูดถึงภาพรวมของหนังแล้ว ก็เป็นหนังที่เล่าเรื่องชีวิตของคนๆหนึ่ง ได้ครบในทุกพาทของชีวิต ทั้งชีวิตวัยเด็ก วัยเรียน วัยทำงาน เรื่องครอบครัว และรวมไปถึงเรื่องความรัก อย่างไม่ตกหล่น นอกจากนี้หนังยังให้แง่คิดต่างๆ มากมาย อีกทั้งทำให้เราเรียนรู้ที่จะเข้าใจคนอื่นมากขึ้น และเป็นคนที่ไม่มองอะไรแค่เพียงมุมเดียวขอบคุณภาพประกอบจากเครดิต ภาพหน้าปก จาก Instargram rajkummar_raoภาพที่ 1 จาก Instargram tseriesfilmsภาพที่ 2 จาก Instargram netflix_inภาพที่ 3 จาก Instargram sharadkelkarภาพที่ 4 จาก Instargram sumitkadelofficial จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !