ญาติสุดเศร้า จัดพิธีศพอดีตดารา 'เจ ไพลิน' น้องสาวเผย เพิ่งรู้ว่าป่วยไม่นานนี้
ญาติสุดเศร้า จัดพิธีศพอดีตดารา ‘เจ ไพลิน’ น้องสาวเผย เพิ่งรู้ว่าป่วยไม่นานนี้
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 27 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงานสวดพระอภิธรรมศพ อดีตดาราชื่อดังขวัญใจวัยรุ่น น.ส.ไพลิน หรือ เจ พิจิตอำพล อายุ 37 ปี ที่เสียชีวิตลงด้วยโรคตับก่อนวัยอันควร ท่ามกลางความโศกเศร้าของบรรดาญาติมิตรและน้องสาว โดยมีคนรู้จักในวงการส่งพวงหรีดร่วมอาลัย ที่ศาลา 2 วัดใหญ่สว่างอารมณ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งมีการฌาปณกิจในวันที่ 1 สิงหาคม 2564 เวลา 16.00น.
สำหรับ เจ ไพลิน นั้น เคยเป็นนักแสดงในสังกัดอาร์เอส มีผลงานภาพยนตร์แจ้งเกิดจากเรื่อง มือปืนโลกพระจันทร์ ในปี พ.ศ. 2544 โดยรับบทเป็น จันทรา นางเอกของเรื่อง รวมถึงรับบทเป็นตัวละครชื่อ “เจ” ในงานละครวัยรุ่นอย่าง วัยร้ายเฟรชชี่ ด้วย ก่อนที่จะเฟดตัวออกจากวงการไปพร้อมบินไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างประเทศ ก่อนเพิ่งเดินทางกลับมาอยู่เมืองไทยได้ไม่กี่ปี
นางดวงใจ พิจิตอำพล หรือจ๋า (น้องสาว) เปิดเผยว่า เพิ่งทราบว่าเขาเป็นโรคตับเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง แต่ว่าที่เป็นหนักๆ เลย ที่เข้า ICU ก็ประมาณเดือนกว่าเกือบ 2 เดือน ที่คุยกันครั้งสุดท้าย ก็คือ เขาบอกว่าเขาอยากเจอทุกคน เพราะว่าเขาอยู่ในห้อง ICU แล้วโควิดมันระบาด เขาก็เลยให้งดเยี่ยมทั้งประเทศ ทุกโรงพยาบาล ที่นี้คือพอเขาเข้าห้องไอซียูไป ก็งดเยี่ยมหลังจากนั้นมาตลอด ไม่ได้เจอหน้ากันอีกเลย
“จริงๆตอนแรกเขาหมดสติไปแล้ว แต่ว่าคุณหมอก็ช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมาอีกครั้งได้ หลังจากเข้าโรงพยาบาลได้ 10 กว่าวัน เพราะฟื้นขึ้นมาเขาก็เขียนใส่กระดาษบอกพยาบาลให้บอกทุกคนและบอก (จ๋า น้องสาว) ว่าแบบ เขาอยากย้ายโรงพยาบาล เพราะว่าเขาคิดถึงทุกคน ก็อยากเจอทุกคน เหมือนเขาก็คงคิดถึง อยากเจออยู่”
จ๋า เล่าต่อว่า ก่อนหน้าพี่สาว ก็ไม่ได้ไม่ได้รักษาตัวที่โรงพยาบาล คือก็อยู่บ้านกับคอนโดสลับกัน แต่ว่าล่าสุดก็คือเขาอยู่ที่คอนโด ปกติคุณแม่จะโทรหา ทุกเช้า แล้วก็ทำกับข้าวส่งไปให้ แต่ว่าวันนั้น เป็นวันที่โทรไปยังไงเขาก็ไม่รับโทรศัพท์มา 2 วันแล้ว คุณแม่ก็เลยแบบเป็นห่วง ก็เลยไปหาที่คอนโด แล้วก็เจอว่าเขาหมดสติอยู่ที่คอนโดที่พระนั่งเกล้า
ทั้งยังเล่าถึงผลงานการแสดงว่า ผลงานการแสดงก็เคยเล่นหนังเรื่องมือปืนโลกพระจันทร์ แล้วก็ละครอื่นๆ วัยร้ายเฟรชชี่ แล้วก็มาดามยี่หุบยุค 90 มีถ่ายโฆษณา ก็ทำใจลำบากนิดนึง ตั้งแต่ตอนที่อยู่โรงพยาบาลแล้วแบบไม่สามารถเยี่ยมได้ ไม่สามารถเห็นหน้าได้ คืออุตส่าห์ฟื้นขึ้นมาแล้วก็ยังไม่มีโอกาสได้เห็นหน้ากัน ยันวินาทีสุดท้าย ในวันที่ลากัน ก็ทำได้เต็มที่ที่สุดก็คือแค่แบบได้โทรบอกลากัน เท่าที่ทราบป่วยเป็นโรคตับ มาไม่กี่เดือนนี้เอง ไม่ใช่เป็นมะเร็ง เพิ่งรู้ว่าเขาไปเมื่อไม่กี่เดือนนี้เอง
“ขอขอบคุณหมอ แล้วก็พี่ๆที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า ช่วยกันเต็มที่มากๆ ทุกคนเต็มที่สุดๆ จ๋าจะหาโอกาสกลับไปช่วยเหลือโรงพยาบาลแล้วก็ผู้ป่วยที่เหลืออย่างแน่นอนแล้วก็ขอบคุณเพจหลายๆ เพจ แล้วก็ลูกเพจหลายๆท่านที่ช่วยกันมาบริจาคเลือดช่วยยื้อชีวิตให้กับเจ ได้แบบพื้นกับขึ้นมาอีกครั้ง ได้ตื่นขึ้นมาแบบเห็นคลิปวีดีโอครอบครัวอีกครั้งนึงแล้วก็ได้พูดคุย กับเขาพูดไม่ได้เพราะเขาใส่เครื่องช่วยหายใจ แต่ว่าก็ยังอยากได้ฟังครอบครัวได้พูดกับเขาอีกครั้งนึงก่อนที่เขาจะไป ขอขอบพระคุณทุกท่านมากจริงๆ”