รีวิว Melo Movie (หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู) ซีรีส์ดราม่าเคล้าน้ำตาจากเกาหลี ชีวิตรักหม่นๆ ของคนในแวดวงหนัง บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! เรื่องย่อ Melo Movie (หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู) ติดตามเรื่องราวของ โกกยอม (รับบทโดย ชเวอูชิก) ชายหนุ่มผู้หลงไหลในภาพยนตร์มาตั้งแต่เด็กๆ เขามีความฝันที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในวงการภาพยนตร์จึงได้ตัดสินใจไปสมัครเป็นนักแสดงประกอบ และได้พบกับ คิมมูบี (รับบทโดย พัคโบยอง) ซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้กำกับอยู่ในกองถ่ายหนังที่เขาแสดง เขาตกหลุมรักเธอในทันทีและเริ่มตามตีสนิทกับเธอ แต่ดูเหมือนว่ามูบีผู้เย็นชาจะไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไร ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะเป็นแบบไหน ทุกคนคงต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง ตัวอย่าง Melo Movie (หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู) รีวิว Melo Movie (หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู) จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้ก็คือบทที่เขียนออกมาค่อนข้างสมจริง ตัวละครทุกตัวในเรื่องดูเป็นคนจริงๆ ที่มีชีวิตทั้งสุขและทุกข์ปะปนกันไป ซึ่งความน่าสนใจก็คือเขาจะพาเราไปดูความสัมพันธ์ของคู่รักที่ไม่ควรจะมาลงเอยกันระหว่างพระเอกที่เป็นนักวิจารณ์หนังชื่อดังกับนางเอกที่เป็นผู้กำกับดาวรุ่ง 2 อาชีพที่เป็นเหมือนศัตรูตลอดกาลแต่ดันมาตกหลุมรักกัน และการที่เขาเลือกจะถ่ายทอดเรื่องราวของคนในแวดวงภาพยนตร์ก็ยิ่งทำให้ผมหลงรักซีรีส์เรื่องนี้มากขึ้นไปอีก เพราะผมเองก็เป็นหนึ่งในคนที่รักการดูหนังมากๆ เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์เมโลดราม่าที่ทำมาเพื่อคนรักหนังโดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ เพราะตัวละครทุกตัวในเรื่องล้วนอยู่ในแวดวงนี้ทั้งนั้น เพื่อนพระเอกเองก็เป็นคนทำเพลงกับคนเขียนบท แถมเขาก็เขียนบทของทุกตัวละครออกมาดีมากๆ ทุกตัวละครมีปมปัญหาและเป้าหมายเป็นของตัวเอง สิ่งนี้แหละที่มันช่วยให้ภาพรวมของซีรีส์มันออกมาดูสมจริงและสามารถรีเลทกับคนดูได้ ไม่แปลกใจเลยที่หลายคนบอกว่าดูแล้วร้องไห้จนเหนื่อย เพราะตัวละครมันเข้าถึงได้แถมเขายังบิ้วอารมณ์คนดูเก่งมากๆ อีกด้วย เสน่ห์ของซีรีส์เรื่องนี้คือเขาจะดำเนินเรื่องไปแบบเรื่อยๆ แต่ไม่น่าเบื่อ ไม่ได้ดำเนินแบบรวดเร็วหวือหวา หรือมีปมปัญหาใหญ่ๆ ให้ติดตามอะไรเป็นพิเศษ แต่มันจะเป็นการเล่าเรื่องแบบให้เราค่อยๆ เดินทางไปพร้อมกับตัวละครในเรื่องผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายที่พวกเขาประสบพบเจอ ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการของตัวละครในอนาคตอีกด้วย โทนเรื่องมันจะมาแบบหน่วงๆ จริงจัง สมจริง แต่ไม่ได้ถึงกับหม่น และออกจะเป็นโทนสดใสด้วยซ้ำ อารมณ์แบบหวานอมขมกลืน ย้อนสีภาพด้วยโทนสีสดๆ ทำให้เรารู้สึกยังมีหวังแม้ว่าตัวละครจะต้องเจอกับปัญหา จะเรียกว่าเป็นซีรีส์ฟีลกู๊ดก็คงจะไม่ผิดนัก เพราะตอนจบก็จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง ดังนั้น ไม่ต้องกลัวตับพังครับ เรื่องนี้เขาไม่ได้บิ้วให้คนดูร้องไห้เพราะเศร้า แต่จะเป็นร้องไห้เพราะซึ้งเสียมากกว่า ต้องยอมรับว่าเขาเขียนบทมาดีจริงๆ แม้ว่าเรื่องราวในเรื่องจะดูธรรมดาทั่วไป แต่มันก็เป็นความธรรมดาที่แสนพิเศษ นับว่าเป็นซีรีส์ที่ดีมากเรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำให้ทุกคนได้ดู มันดูเป็นงานคราฟที่ละเอียดละออเหลือเกิน คือดูแล้วรู้สึกได้เลยว่าเขาตั้งใจทำมากๆ เก็บรายละเอียดได้ดีทุกเม็ดจริงๆ ส่วนต่อมาที่อยากพูดถึงก็คงเป็นเรื่องการแสดง สำหรับส่วนนี้ถือว่าทำออกมาได้ดีตามมาตรฐานทั่วไปของซีรีส์เกาหลี แม้ว่าผมจะชอบพระเอกคนนี้เป็นการส่วนตัว แต่ก็ต้องยอมรับว่าการแสดงของเขาก็ยังไม่ถึงกับโดดเด่นอะไรเป็นพิเศษ ไม่ใช่เขาเล่นไม่ดีนะครับ เขาเล่นดีเป็นธรรมชาติเพียงแต่ซีนดราม่าผมยังรู้สึกว่าเขายังทำได้ไม่สุดเท่าไหร่ รวมถึงนางเอกเองก็เหมือนกัน อาจจะเล่นดีกว่าพระเอกนิดหน่อย แต่ซีนดราม่าก็ยังเศร้าได้ไม่สุด กลับกลายเป็นว่าคนที่โดดเด่นที่สุดดันเป็นพี่พระเอกที่พี่แกแสดงแบบหน้าตายมาได้ดีมากๆ ตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งมันไม่ได้เล่นง่ายนะบทแบบนี้ แต่ความเจ๋งคือพอถึงซีนดราม่าที่ต้องร้องไห้พี่แกก็ทำได้เหมือนกัน แถมยังทำได้ดีมากด้วย แกเล่นซีนดราม่าได้โคตรเศร้าจริงๆ ซีนนี้ผมมั่นใจเลยว่าต้องมีหลายคนเสียน้ำตาแน่ๆ ส่วนสุดท้ายที่อยากพูดถึงคงเป็นเรื่องงานภาพ ส่วนนี้เองก็ทำได้ดีมากเช่นกัน มุมกล้องดี โทนสีภาพสวย และดูเหมือนผู้กำกับภาพจะชอบถ่ายจากมุมสูงเป็นพิเศษ มีหลายฉากมากๆ ที่เขาถ่ายจากมุมสูง เขาใช้เยอะจนกลายเป็นจุดเด่นที่ผมจำได้ไปเลย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องแย่นะ เพราะเขาถ่ายออกมาดี เอาเป็นว่าทุกคนไปดูกันด้วยตาตัวเองดีกว่าครับจะได้รู้ว่ามันดีจริงอย่างที่ผมบอกหรือเปล่า อย่าเชื่อทั้งหมดที่ผมรีวิว เพราะรสนิยมของคนเราไม่เหมือนกัน ผมชอบคุณอาจจะไม่ชอบก็ได้ แต่ที่แน่ๆ คือคุณจะไม่รู้สึกเสียเวลาเปล่าแน่ๆ เพราะซีรีส์เรื่องนี้มีดีหลายอย่างที่คุ้มค่าแก่การสละเวลาดู ฝากกดแชร์ และกดติดตามเพื่อจะได้เห็นบทความใหม่ๆ ของผมในอนาคตด้วยนะครับ ช่องทางในการติดตาม กลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก บทความอื่นๆของ ละเลงหนัง : รีวิว Captain America: Brave New World (กัปตัน อเมริกา: ศึกฮีโร่จักรวาลใหม่) การเปิดตัวกัปตันคนใหม่ที่พอถูไถ ดูได้สนุกเพลินๆ แต่ยังไม่ดีพอจนน่าจดจำ รีวิว Cassandra คาสซานดร้า ซีรีส์บ้านอัจริยะสุดหลอนชวนขนลุก ทำมาดีเกือบหมดแต่ดันสะดุดช่วงท้ายเรื่อง รีวิว ธี่หยด 2 (2024) การกลับมาล่าผีของพี่ยักษ์ ภาคต่อที่ทำออกมาได้สนุกและกลมกล่อมมากกว่าเดิม รีวิว Bogota: City of the Lost (โบโกตา: เมืองคนหลง) หนังแอ็กชันอาชญากรรมเรื่องใหม่ของ "ซงจุงกิ" ที่พอดูแก้เบื่อได้สนุกเพลินๆ รีวิว Kinda Pregnant (สตรีมีคัน) สาวเพี้ยนแกล้งเป็นคนท้อง หนังตลกห่ามฮาที่พอดูได้แต่ไม่ถึงกับดี รีวิว Companion (คอมแพเนียน) หนังไซไฟระทึกขวัญรสชาติจัดจ้าน ผลงานน้ิำดีตั้งแต่ต้นปีที่ทุกคนไม่ควรพลาด รีวิว The Trauma Codes: Heroes on Call (ชั่วโมงโกงความตาย) ซีรีส์ตีแผ่ชีวิตหมอห้องฉุกเฉินที่ดูโคตรเพลินแถมยังได้ความรู้ [มีพากย์ไทย] รีวิว Apple Cider Vinegar (ไอดอลแอปเปิ้ลไซเดอร์) ซีรีส์จากเรื่องจริงของหญิงสาวที่โกหกว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ผลงานน้ำดีเรื่องใหม่ ที่ทุกคนไม่ควรพลาด ความรู้สึกหลังดู Newtopia (2025) [2 ตอนแรก] ซีรีส์ซอมบี้สายฮาเรื่องใหม่ของ "จีซู BLACKPINK" แหล่งที่มาจาก netflixth, NetflixMY ภาพปก: 1 ภาพประกอบ: 1 / 2 / 3 / 4 วิดีโอ: หัวใจตึกตัก หนังรักใจฟู (Melo Movie) | ตัวอย่างซีรีส์อย่างเป็นทางการ จาก Youtube: Netflix Thailand เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !