รีวิว Sex Education 4 (เพศศึกษา หลักสูตรเร่งรัก ซีซัน 4) ภาคต่อที่ดีเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตอนจบอันหวานอมขมกลืน บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่าเรื่องย่อ Sex Education 4 (เพศศึกษา หลักสูตรเร่งรัก ซีซัน 4)สำหรับซีซันที่ 4 นี้จะเป็นซีซันสุดท้ายของซีรีส์เรื่องนี้ ซึ่งจะยังคงติดตามเรื่องราวของ Otis Milburn (รับบทโดย Asa Butterfield) หลังจากที่เขาและ Maeve Wiley (รับบทโดย Emma Mackey) ได้สารภาพความในใจต่อกันในซีซันที่ 3 ในซีซันนี้ทั้งคู่ก็ได้เริ่มพูดคุยทำความรู้จักกันอย่างจริงจัง ติดเพียงอย่างเดียวคือ Maeve ได้ทุนไปเรียนต่อที่อเมริกา ทำให้ทั้งคู่ต้องอยู่ห่างกัน ซึ่งในด้านของ Otis เองเขาก็ต้องย้ายไปอยู่ในโรงเรียนใหม่ที่ไม่คุ้นเคย โดยเขามีจุดมุ่งหมายที่จะเปิดคลีนิคให้คำปรึกษาเรื่องเพศขึ้นมาอีกครั้งในโรงเรียนใหม่แห่งนี้ ทว่าเขากับต้องเจอกับคู่แข่งอย่าง O (รับบทโดย Thaddea Graham) นักเรียนเก่าที่เปิดคลีนิคอยู่ก่อนแล้ว งานนี้ Otis จึงต้องแข่งกับเธอเพื่อหาคนเป็นที่ 1 นอกจากนี้ก็จะยังเล่าเรื่องของตัวละครอื่นร่วมด้วย ทั้งเพื่อนสนิทของ Otis อย่าง Eric Effiong (รับบทโดย Ncuti Gatwa) ที่อยากจะกลับไปเข้าโบสถ์อีกครั้ง, Adam Groff (รับบทโดย Connor Swindells) ที่ตัดสินใจไม่เรียนต่อและเริ่มหางานทำ ไปจนถึง Jean Milburn (รับบทโดย Gillian Anderson) แม่ของ Otis ที่เพิ่งคลอดลูกสาวออกมาโดยที่ไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อเด็ก ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเรื่องราววายป่วงในครั้งนี้จะจบลงอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง Sex Education 4 (เพศศึกษา หลักสูตรเร่งรัก ซีซัน 4) สามารถรับชมได้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflixตัวอย่าง Sex Education 4 (เพศศึกษา หลักสูตรเร่งรัก ซีซัน 4)รีวิว Sex Education 4 (เพศศึกษา หลักสูตรเร่งรัก ซีซัน 4) สำหรับซีซันนี้ต้องยอมรับตามตรงว่าผมตั้งตารอมานานมากๆ เพราะส่วนตัวเป็นแฟนตัวยงของซีรีส์เรื่องนี้อยู่แล้ว ซึ่งพอได้ดูจนจบก็บอกได้คำเดียวเลยว่า "ไม่ผิดหวัง" ส่วนตัวคือชอบมากๆ ในทุกๆ ด้าน เริ่มจากบทก่อนเลย บทในภาคนี้เขียนมาได้ดีมาก ทั้งที่มาถึงซีซันที่ 4 แล้ว แต่บทก็ยังไม่แผ่วลงเลย สนุกน่าติดตามและไม่น่าเบื่อ บทเขียนออกมาไม่ได้ล้ำลึกหรือซับซ้อนอะไร แต่มันเป็นความธรรมดาที่เข้าถึงหัวจิตหัวใจคนดู มีประเด็นใหม่ๆ มาให้เราได้ติดตามตลอด สิ่งที่เจ๋งคือเราได้เห็นการเติบโตของตัวละครหลักจากซีซันเก่าๆ อย่างชัดเจน มันยิ่งทำให้รู้สึกอินและรักตัวละครมากขึ้นไปอีก ทุกอย่างมันลงตัวไปหมด ทั้งเรื่องความรักของวัยรุ่น ความหลากหลายเรื่องเพศที่ใส่เข้ามากับตัวละครใหม่หลายตัว ไปจนถึงความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงระหว่าง Otis และ Eric และที่สำคัญคือพาร์ทครอบครัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในซีซันนี้เลย เพราะเขานำเสนอความสัมพันธ์ของหลายครอบครัว ให้เราได้เห็นหลายมุมมอง และผมก็มั่นใจว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวของคนดูหลายๆ คนก็อาจจะตรงกับในเรื่องบ้างอยู่เหมือนกันอย่างที่บอกว่านี่เป็นบทสรุป บทในซีซันนี้มันจึงสุกงอมเต็มที่ เราได้เห็น Otis ที่มีปัญหาทั้งกับสาวที่ชอบอย่าง Maeve ไปจนถึงปัญหาความสัมพันธ์กับแม่ที่กำลังจิตตกหลังคลอด, Adam และพ่อที่พยายามปรับตัวเข้าหากันหลังจากวางท่าใส่กันมานาน, Jackson ที่อยากรู้ความจริงว่าใครเป็นพ่อของเขา, Aimee ที่พยายามหาตัวตนของตัวเองและพยายามก้าวข้ามปมในใจหลังจากถูกลวนลาม, Maeve ที่พยายามทำตามฝันและชีวิตต้องเขวเพราะสูญเสียแม่ และตัวละครอื่นๆ อีกมากมาย ที่พูดมามันดูเหมือนเยอะนะ แต่ซีรีส์เขาตัดแบ่งและเล่าเรื่องเก่งมากจนทุกอย่างมันกลมกล่อมลงตัวไปหมด ส่วนตัวซีซันนี้ผมชอบเส้นเรื่องของตัวละคร Maeve มากๆ เราได้เห็นเธอตั้งแต่เป็นเด็กที่ปิดกั้นตัวเอง จนตอนนี้เธอพยายามที่จะวิ่งตามฝัน แต่กลับถูกครูพูดตัดกำลังใจจนเกือบยอมแพ้ ซ้ำร้ายแม่ที่ทั้งรักทั้งเกลียดก็ยังมาจากไปอีก ฉากงานศพของแม่ Maeve ก็เป็นฉากที่ผมชอบมาก ซีนที่ Maeve บอกว่าถึงแม่เธอจะไม่เอาไหน แต่แม่ก็ไม่เคยทำให้เธอต้องท้องว่าง ยังพยายามเลี้ยงเธอมาจนโต มันแสดงให้เห็นถึงแม่ที่อาจจะไม่ดีในสายตาคนอื่น แต่แม่เธอก็ทำเต็มที่เท่าที่จะทำได้แล้ว และยังสะท้อนถึงโลกความเป็นจริงด้วย เพราะในความจริงก็มีแม่แบบนี้อีกอยู่เหมือนกัน ด้วยสิ่งที่เธอเจอมามากมาย พอฉากสุดท้ายที่เธอได้ไปคุยกับแม่ Otis มันเหมือนทุกอย่างปลดล็อคจนเธอกลับมาสู้อีกครั้ง ซีนนี้คือเดอะเบสจริงๆ ส่วนต่อมาคือด้านการแสดง ส่วนนี้คือดีงามไร้ที่ติเหมือนเคย ไม่มีอะไรจะติจริงๆ ทุกคนแสดงได้ดีมาก นักแสดงใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็แสดงดีกันทุกคนเช่นกัน ส่วนสุดท้ายคือด้านงานสร้างและการโปรดักชั่น ส่วนนี้ก็ยังคงดีงามตามมาตรฐานเดิมเช่นกัน ไร้ที่ติจริงๆ งานภาพสวยทุกซีน เสื้อผ้าหน้าผมตัวละครไปจนถึงงานดีไซน์ต่างๆ ก็ดีหมด ฉากเปิดตอนทุกตอนก็ทำออกมาได้ยอมเยี่ยมมาก ไม่มีอะไรจะติเลย ส่วนเรื่องบทสรุปความสัมพันธ์ระหว่าง Otis กับ Maeve ส่วนตัวผมชอบนะที่จบแบบนี้ ก็มันความรักของวัยรุ่นอะเนอะ มันไม่ได้จบแฮปปี้สวยหรูเสมอไป Otis ก็มีฝันของตัวเอง Maeve ก็มีฝันของตัวเอง ทั้งคู่จึงทำได้เพียงจากกันทั้งน้ำตาและเก็บทุกอย่างไว้เป็นเพียงความทรงจำ ข้อความในจดหมายของ Maeve ที่ขอบคุณ Otis สำหรับทุกอย่างที่ทำให้เธอเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ก่อนจะปิดท้ายว่าจะจดจำ Otis ไว้ตลอดไป ซีนนี้ก็ดีเช่นกัน เอาง่ายๆ คือมันดีไปหมด ติดอย่างเดียวคือฉากที่ Eric เจอพระเจ้า อันนี้ผมไม่ค่อยซื้อเท่าไหร่ แต่มันก็แค่นิดเดียว สุดท้ายนี้ หากคุณรักซีรีส์เรื่องนี้อยู่แล้ว รับประกันได้ว่าคุณจะรักซีซันนี้ด้วยเช่นกัน ไปดูกันเถอะครับ ไม่อยากให้พลาดจริงๆ อย่างไรก็ตาม รีวิวนี้เป็นเพียงความรู้สึกส่วนตัวเท่านั้น ผมชอบมากไม่ได้แปลว่าทุกคนจะชอบเหมือนกัน ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดคือทุกคนต้องไปรับชมและตัดสินมันด้วยตาของตัวเองสุดท้ายนี้ ฝากกดแชร์ และกดติดตามด้วยนะครับช่องทางอื่นๆ ในการติดตาม ละเลงหนังFacebook Fanpage : ละเลงหนังกลุ่มสำหรับพูดคุยเรื่องหนัง : พูดคุยเรื่องหนังทุกเรื่องบนโลก By ละเลงหนังบทความอื่นๆของ ละเลงหนัง :รีวิว The Expendables 4 (โคตรคนทีมมหากาฬ 4) ภาคต่อที่ดรอปลงทุกด้านจนน่าผิดหวัง แต่ก็พอดูสนุกๆ ได้รีวิว Moving (2023) ซีรีส์เกาหลลีแห่งปีที่ดีทุกกระเบียดนิ้ว ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง!รีวิว A Time Called You (เวลาเพรียกหาเธอ) ซีรีส์เกาหลีโรแมนติกไซไฟบทยอดเยี่ยม ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง [มีพากย์ไทย] ดูได้ทาง Netflixรีวิว เรื่องตลก 69 เดอะซีรีส์ การทำใหม่ที่แทบไม่ต่างจากต้นฉบับ มีแค่การเสริมเรื่องราวยิบย่อยเพิ่มมาเท่านั้นเปิดวาร์ป 5 นักแสดงจาก Moving (2023) ซีรีส์เกาหลีแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่กำลังฮิตติดชาร์ตรีวิว The Equalizer 3 (มัจจุราชไร้เงา 3) การปิดไตรภาคที่สวยงาม ฉากแอ็คชั่นมีน้อยแต่ดุเดือดถึงใจทุกฉากแหล่งที่มาทั้งหมดจาก Sex Education, NetflixTHภาพปก: ภาพที่ 1ภาพประกอบ: ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4วิดีโอ: เพศศึกษา (หลักสูตรเร่งรัก) (Sex Education) ซีซั่น 4 | ตัวอย่างสุดท้าย จาก Youtube: Netflix Thailandจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !