เพื่อนๆเคยได้ยินว่าถ้า 30 ยังซิง จะมีพลังวิเศษกันไหมคะ? อาจจะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นภายในซีรีส์หรือภาพยนตร์เรื่อง 'Cherry Magic The Movie ถ้า 30 ยังซิง จะมีพลังวิเศษ!' เรื่องราวของภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นยังไง ลองอ่านบทความนี้กันดูนะคะ แอบบอกว่าภาพยนตร์นี้เป็นเหมือนของภาคต่อซีรีส์ถ้าใครดูซีรีส์แล้วชอบมากภาพยนตร์เรื่องนี้คงจะกินใจไม่น้อยเลย แต่ถ้าใครไม่เคยชมซีรีส์มาก่อนแล้วดูภาพยนตร์เรื่องนี้จะทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจจนต้องกลับไปดูซีรีส์เลยค่ะ:)เรื่องย่อ: 'อาดาจิ' จะอายุ30ปี แต่ยังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับใครเลยจนทำให้มีพลังวิเศษ ก็คืออ่านใจคนได้นั่นเอง แล้วจะทำให้พลังวิเศษนั้นหายไปก็ต้องลบล้างด้วยเหตุผลที่ทำให้มีพลังนี้ จนวันหนึ่งอาดาจิได้เผลอไปโดนตัวกับ 'คุโรซาวะ' เพื่อนร่วมงาน จนไปรู้ว่าเขาแอบชอบตัวเองอยู่ โดยเรื่องราวก็ดำเนินมาเรื่อยๆ จนทั้งสองคนก็ได้คบกัน แต่อาดาจิดันได้ย้ายไปทำงานที่นางาซากิ ความรักทางไกลและความสัมพันธ์ของทั้งสองคนจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางไหนต้องลองไปรับชมกันดูนะคะ 1.เนื้อเรื่องสำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่จะทำให้เห็นความรักในรูปแบบของคนสองคนที่จากตอนแรกไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องการอะไรนอกจากการอยู่ด้วยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายคิดว่าการอยู่แบบนี้มันไม่ดีเลย ไม่ดีในเชิงที่ว่าเวลาอีกฝ่ายเป็นอะไรตนจะไม่มีสิทธิ์รับรู้เลยเพราะไม่ใช่คนในครอบครัว ซึ่งทำใ้ห้เห็นได้ว่าญี่ปุ่นก็ยังไม่ได้เปิดกว้างในเรื่องนี้มากนัก ทำได้แค่เพียงไปฝากตัวกับครอบครัวของอีกฝ่ายเพียงเท่านั้น ซึ่งสำหรับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ก็ยังคงความน่ารักของตัวละครและความสัมพันธ์ไว้เช่นเดียวกัน อีกทั้งการที่เราสนับสนุนทุกฝ่ายในทุกเรื่องมันก็คงดี แต่กลับทำให้เราพลาดที่จะพูดความในใจออกไปนะ และที่สำคัญไม่ว่าจะในซีรีส์หรือภาพยนตร์ยังคงคอนเซ็ปต์เดิมคือไม่มีฉากจูบและไม่มีฉากวาบหวิวเลยสักฉาก แต่ทำให้คนดูเห็นว่าเขารักกันมากจริงๆ:) 2.องค์ประกอบของเรื่อง2.1 ฉากและอุปกรณ์ประกอบฉาก ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเน้นเรื่องราวเกี่ยวกับการทำงานก็จะได้เห็นออฟฟิศของชาวญี่ปุ่นมากขึ้น อีกทั้งยังได้เห็นที่พักของตัวละครด้วยนะ ที่สำคัญผู้เขียนประทับใจมากที่ภาพยนตร์ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรจากซีรีส์เลย แม้แต่เสื้อผ้าที่ตัวละครหลักใส่ยังเป็นชุดที่เคยใส่ในซีรีส์ กระเป๋า เนคไท โต๊ะทำงาน หรือแม้แต่บ้านของทั้งสองคน และภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นบริษัทขายเครื่องเขียน แน่นอนว่าเครื่องเขียนทำแบบจัดเต็มจนคิดว่ามีขายจริงๆ อีกทั้งอาหารเรื่องนี้ยังน่ากินมากเลย 2.2 การแต่งกาย ด้วยความที่ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของผู้ชายวัยทำงานอายุ30 ก็จะทำให้ได้เห็นชุดสูท แบบจัดเต็มเวลาไปทำงาน ทำให้เห็นได้ว่าคนญี่ปุ่นเวลาไปทำงาน ผูกสูทผูกไทกันจัดเต็มเลย อีกทั้งยังได้เห็นชุดธรรมดาของคนวัยนี้ด้วยว่าส่วนมากเขาจะแต่งตัวกันประมาณไหน 3.นักแสดงคิโยชิ อาดาจิ รับบทโดย เอย์จิ อากะโสะ เป็นชายหนุ่มที่มีพลังการอ่านใจได้ เป็นคนขยันและมีความรับผิดชอบสูงมาก ในบางทีอาจจะไม่มั่นใจในตัวเอง และไม่มีความกล้ามากพอ แต่ก็ได้รับการสนับสนุนจากคุโรซาวะมาเสมอ ถึงอาดาจิจะใช้พลังในการอ่านใจคุโรซาวะมาอย่างมากมาย แต่ท้ายที่สุดยังไงพลังก็ต้องหายไปทำให้อาดาจิรู้ว่าจริงๆการเข้าใจกันโดยไม่มีพลังเป็นเรื่องราวที่ดีที่สุด ที่สำคัญเอย์จิ อากะโสะ แสดงเป็นอาดาจิได้น่ารักมาก ดูแล้วใจบางกันเลยทีเดียววว ยูอิจิ คุโรซาวะ รับบทโดย เคย์ตะ มาจิดะ เป็นคนที่เก่งรอบด้าน และเรียกว่าเป็นหนุ่มป็อบประจำบริษัทเลย เพราะนอกจากจะทำงานเก่งแล้วหน้าตายังไม่เป็นรองใคร และที่สำคัญคุโรซาวะเองยังเอาใจใส่อาดาจิอย่างสม่ำเสมอ แต่ก็ยังมีความกลัวว่าจะไปเป็นตัวถ่วงของอาดาจิ จึงทำให้ไม่กล้าที่จะพูดความในใจไปทั้งหมด ซึ่งเคย์ตะ มาจิดะ แสดงเป็นคุโรซาวะได้ดีมาก ดีจนมีคนนตกหลุมรักกันล้นหลามเต็มไปหมดด! 4.เพลงประกอบสำหรับในเวอร์ชั่นภาพยนตร์เพลงดีมากเหมือนกัน 2 เพลงเอาอยู่ทั้งเรื่อง คือเพลง “Gimme Gimme” และ "心音 (ShinOn)" แล้วประเด็นคือเพลงเพราะและความหมายดีมาก! ตอนเพลงขึ้นมาผู้เขียนตาเป็นประกายเลยแบบทำไมเพลงดีมากเลย พอมาอ่านความหมายเพลงคือ 'ฉันไม่ต้องการปาฎิหาริย์อะไรทั้งนั้น เพราะตอนนี้การที่มีคุณคือปาฎิหาริย์ของฉันแล้ว' และที่สำคัญ DEEP SQUAD ได้ร้องเพลงทั้งเวอร์ชั่นซีรีส์และภาพยนตร์เลยนะ แต่เวอร์ชันภาพยนตร์จะดูสดใสเหมือนความรักของทั้งสองคนเลยhttps://youtu.be/8mXmz3GxzMshttps://youtu.be/MYPgQqEL5PE 5. สามารถรับชมได้ที่ไหนตอนนี้ภาพยนตร์ยังฉายอยู่ในโรงภาพยนตร์ แต่ถ้าเป็นซีรีส์สามารถรับชมได้ที่ WeTV มีทั้งหมด 12 ตอน+Spin-off 2 ตอน ตอนละประมาณ 20นาที (Spin-off 2 ตอน ห้ามพลาดเด็ดขาด!) 6. ความรู้สึกหลังรับชมหลังรับชมผู้เขียนยังรู้สึกเหมือนตอนดูซีรีส์เลยคือดูแล้วใจฟูมากๆ และไม่ผิดหวังที่รอมานานจริงๆ แต่ในเวอร์ชั่นภาพยนตร์ด้วยความที่มีเวลาน้อยกว่าซีรีส์ ทำให้รายละเอียดในบางตอนหายไปอย่างเช่นตอนที่อาดาจิไปนางาซากิ อยากให้ไทม์ไลน์นานกว่านี้อีกนิดนึง เพราะไปนานมากแต่ภาพยนตร์ทำออกมาเหมือนไปแปปเดียวTT แต่ถามว่าความน่ารักกุ๊กกิ๊กในภาพยนตร์นั้นมีไม่แพ้ในซีรีส์เลย เผลอๆความน่ารักทะลุผ่านออกมาหน้าจอกันเลยทีเดียว555 โดยในซีรีส์จะเป็นจุดเริ่มต้นอาจจะมีความน่ารักและน่าตื่นเต้นในตอนที่ทั้งสองคนกำลังจีบกัน แต่ในภาพยนตร์จะแตกต่างกันออกไปตรงที่เทั้งสองคนเป็นคู่รักกันแล้ว(ที่รักกันมากกก) ทำให้ความรู้สึกตอนดูก็จะเป็นอีกแบบแต่ความเขินยังมีมากเท่าเดิม555 และที่สำคัญที่สุดเอย์จิ อากะโสะ และเคย์ตะ มาจิดะ แสดงดีมากจริงๆ ดีจนผู้เขียนคิดว่าเขาทั้งสองคนเป็นตัวละครนั้นจริงๆสุดท้ายผู้เขียนมองว่าถ้าใครที่อยากจะรับชมภาพยนตร์ 'Cherry Magic The Movie ถ้า 30 ยังซิง จะมีพลังวิเศษ!' ไม่เคยดูซีรีส์มาก่อนก็สามารถรับชมได้ค่ะ เพราะก่อนเริ่มเรื่องภาพยนตร์จะมีการปูเรื่องมาให้ แต่ถ้าผู้เขียนอยากให้ดูวีรีสืไปก่อนเพื่อที่จะได้รับความฟินกับการดำเนินเรื่องอันมากมายก่อนจะไปดูบทสรุปความรักของทั้งสองคน:) สำหรับใครที่ชอบซีรีส์หรือภาพยนตร์แนวชายรักชาย หรือถ้าไม่เคยชมมาก่อนแต่อยากลองเป็นเรื่องแรกผู้เขียนแนะนำเรื่องนี้จริงๆ เพราะไม่มีฉากหวือหวาเลยสักฉาก ซึ่งเป็นจุดเด่นของเรื่องนี้เลยนะว่าเนื้อเรื่องเป็นตัวมัดใจคนดูจริงๆ ไม่ว่าจะภาพยนตร์หรือซีรีส์ก็ห้ามพลาดเลย กับเรื่อง 'Cherry Magic The Movie ถ้า 30 ยังซิง จะมีพลังวิเศษ!' หรือ 'Cherry Magic ถ้า 30 ยังซิง จะมีพลังวิเศษ!'Trailerhttps://youtu.be/2G26hhuSTjQที่มาภาพที่มาภาพปก cherimaho_movie Instagram ภาพที่ 1ที่มาภาพประกอบ cherimaho_movie Instagram ภาพที่ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 ที่มาวิดีโอDEEP SQUAD “Gimme Gimme” ミュージックビデオ/ YouTube: DEEP SQUADOmoinotake / 心音 [Official Music Video] / YouTube: OmoinotakeCherry Magic The Movie | ถ้า 30 ยังซิงจะมีพลังวิเศษ - Official Trailer [ซับไทย]/ YouTube:Major Group*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkqอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565