[รีวิวซีรีส์] "Moving" ซีรีส์ซูเปอร์ฮีโรเกาหลี สนุกและไปได้สุดทาง

‘Moving’ เล่าเรื่องราวของ คิมบงซอก (รับบทโดยอีจองอา – Lee Jeong Ha) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เทอมสุดท้ายของโรงเรียนจองวอน ในวันแรกของการเปิดเรียนเทอมสุดท้าย เขาได้พบกับ จางฮีซู (รับบทโดยโกยุนจอง – Go Youn Jung) นักเรียนใหม่สาวสวยที่เพิ่งย้ายมา ทั้งคู่กลายเป็นเพื่อนกันอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งได้เผยความลับของกันและกัน นั่นก็คือพวกเขาต่างมี “ความแตกต่างและพิเศษจากคนอื่นนิดหน่อย” แต่ทั้งคู่ยังไม่รู้ว่าที่โรงเรียนแห่งนี้ยังมีผู้มีพลังอีกคน นั่นก็คือ อีคังฮุน (รับบทโดยคิมโดฮุน – Kim Do Hoon) หัวหน้าห้องแสนเย็นชาของพวกเขานั่นเอง

ชีวิตของทั้งสามดูเหมือนจะดำเนินไปตามปกติของเด็กม.6 นั่นก็คือการวางแผนการเรียนและเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย ขณะที่คนเป็นพ่อเป็นแม่อย่าง จางจูวอน (รับบทโดยรยูซึงรยง – Ryu Seung Ryong) พ่อของฮีซูก็เปิดร้านขายไก่ทอดเพื่อหาเลี้ยงลูกสาว อีมีฮยอน (รับบทโดย ฮันฮโยจู – Han Hyo Joo) แม่ของบงซอกเปิดร้านขายทงคัตสึ ส่วน อีแจมัน (รับบทโดยคิมซองคยุน – Kim Sung Kyun) พ่อของคังฮุนเองก็เปิดร้านขายของชำ

แต่ชีวิตของพวกเขาต้องถึงคราวเปลี่ยนแปลง เพราะการมาเยือนของ แฟรงก์ (รับบทโดยรยูซึงบอม – Ryu Seung Bum) ชายลึกลับผู้ได้รับภารกิจจากบุคคลปริศนา ให้มาตามไล่ล่าเหล่าผู้มีพลังที่ได้เกษียณตัวเองจากหน่วยงานราชการของเกาหลีไปแล้ว เบื้องหลังการไล่ล่าสังหารพวกเขาคืออะไร และเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อ ต้องตามไปดูด้วยตัวเองเท่านั้น!

ซีรีส์ ‘Moving’ เปิดเรื่องเร็ว ไม่เวิ่นเว้อ เริ่มเรื่องมาก็เกี่ยวคนดูให้ติดเบ็ดได้อยู่หมัด ระหว่างการเล่าเรื่องก็ทิ้งปมใหม่และคลายปมเก่าไปพร้อมกัน ทำให้ตลอดการรับชมทั้ง 7 ตอนที่ปล่อยออกมาในวันแรกที่เข้าฉายกลายเป็นความสนุก ชวนติดตาม แทบไม่มีช่วงหน้าเบื่อเลยก็ว่าได้

แม้จะโปรโมตว่าเป็นซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวของคนเหนือมนุษย์ผู้มีพลังพิเศษรูปแบบต่าง ๆ แต่บทและเนื้อหาไม่ได้เบาหวิวหรือเน้นสาดพลังใส่กันอย่างเดียว ซีรีส์เรื่องนี้เต็มไปด้วยหัวใจ สื่อสารกับคนดูหลากหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดให้เห็นความรักของพ่อ แม่ และครอบครัว มิตรภาพระหว่างเพื่อน ชีวิตวัยเรียน ไปจนถึงปัญหาความรุนแรงในโรงเรียนก็สามารถเล่าออกมาได้อย่างพอเหมาะพอดี

นอกจากนี้ยังครบรสจัดเต็มทุกอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงคอมเมดี้เบา ๆ โรแมนติกเล็ก ๆ หรือจะเป็นช่วงทริลเลอร์ แอ็กชัน ก็โหดเลือดสาดสะใจ สมกับเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ เพราะกราฟิกและคิวบู๊ทำออกมาค่อนข้างดี ลุ้นระทึก ไม่จืดชืด สำหรับใครที่ไม่ถูกกับฉากเลือดสาดหรือการต่อสู้ที่โหดแบบติดเรต ต้องขอบอกว่ามีฉากเหล่านี้อยู่เกือบทุกตอน หากใครไม่ชอบก็อาจกดข้ามได้ (แต่อาจพลาดรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ บางอย่างไปนะ)

การเล่าเรื่องเป็นการเล่าสลับเรื่องราวจากมุมมองของตัวละครแต่ละตัว ซึ่งแม้จะมีหลายตัวละครให้เราติดตาม แต่ด้วยความที่ซีรีส์ให้เวลากับการบอกเล่าปูมหลังและที่มาของพวกเขาโดยไม่เร่งรีบ ทำให้เราสามารถซึมซับและเข้าอกเข้าใจตัวละครหลักแต่ละตัวได้ดี

ด้านการแสดงเองก็ต้องให้ผ่านเพราะแต่ละคนดึงคาร์แรกเตอร์ตัวละครออกมาได้อย่างน่าชื่นชม เป็นที่จดจำ และดูโดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นอีจองอาที่ลงทุนเพิ่มน้ำหนักเพื่อรับบทคิมบงซอกได้อย่างน่ารักละมุนใจ หรือโกยุนจองที่ในเรื่องนี้ทั้งสวยและน่ารักจนคนดูหลงเธอเข้าอีกรอบหลังจากผลงานอย่าง ‘Alchemy of Souls’ ส่วนรุ่นใหญ่อย่างผู้มีพลังพิเศษที่เกษียณตัวเองไปแล้ว รวมถึงพ่อแม่ของตัวเอกเองก็ทั้งเท่และมีเสน่ห์ในแบบของตัวเองจนเราอดหลงรักไม่ได้เช่นกัน

ความโดดเด่นของซีรีส์ ‘Moving’ ก็คือการวางปมของเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ น่าติดตามจนชวนให้กดดูตอนต่อไปอยู่ตลอด และขอบอกเลยว่าจนถึงตอนล่าสุดเรื่องราวยิ่งเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงวัยว้าวุ่นของตัวเอก ไปจนถึงเบื้องหลังของหน่วยงานระดับชาติที่กำลังวางแผนการอะไรบางอย่างอยู่อย่างลับ ๆ นี่แหละสิ่งที่ทำให้คนดูติดกันงอมแงมจนต้องรอตอนใหม่ทุกสัปดาห์

สรุป

‘Moving’ เป็นซีรีส์ผู้มีพลังพิเศษเหนือมนุษย์ที่ไม่ซ้ำซากจำเจ มีรสชาติความแปลกใหม่ ผสมผสานความเป็นแอ็กชัน ระทึกขวัญ ตัดรสด้วยโรแมนติก คอมเมดี้ และดราม่าได้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังจัดเต็มเสิร์ฟเรามาแบบทุกอารมณ์จริง ๆ ใครกำลังมองหาซีรีส์สนุก คุ้มค่ากับการดูตอนใหม่ทุกสัปดาห์ ดูได้เลยไม่เสียเวลาแน่นอน

สามารถรับชม ‘Moving’ ได้ทาง Disney+ Hotstar ความยาวทั้งหมด 20 ตอน (ตอนใหม่ทุกวันพุธ)