ปู ไปรยา เผยสาเหตุไม่ฟ้องชาวเน็ต ทั้งที่โดนด่าจนชีวิตดิ่ง

ปู ไปรยา เผยสาเหตุไม่ฟ้องชาวเน็ต ทั้งที่โดนด่าจนชีวิตดิ่ง

หลังจากที่เดินทางไปตามความฝันที่อเมริกาหลายปี ล่าสุด นางเอกสาว ปู ไปรยา ก็เรียกว่าฝันที่เป็นจริงเพราะได้มีผลงานภาพยนตร์เป็นเรื่องแรก Paradise City ที่ได้ประกบนักแสดงดังอย่าง จอห์น ทราโวลต้า และ บรูซ วิลลิส โดยปู ไปรยา ได้เปิดใจ หลังมาร่วมงาน ‘Grease House Thank You Party MAHARANEE Season 6″ ที่ โรงแรม วอลดอร์ฟ แอสโทเรีย กรุงเทพฯ ว่า

ดีใจที่ได้รับเลือกให้ร่วมงาน มีความสุขที่ได้ไปกองถ่าย ทั้งยอมรับว่าตอนนี้อยู่โดยไม่ต้องการอิงกระแส ขอแค่มีงานทำ ผลงานออกมาดีคนดูชอบแค่นั้นพอแล้ว หวังว่าจะเป็นอาชีพให้ตัวเองได้เหมือนที่เมืองไทย

ซึ่งกว่าจะมีวันนี้ปูบอกว่าคนที่ไม่ได้ไปและทิ้งทุกอย่างแบบเธอไม่มีวันเข้าใจหรอกว่ามันยากขนาดไหน

“ร้องไห้เยอะมากจนปูต้องเลิกคิดถึงคอมเม้นต์หรือความคิดเห็นหรือความต้องการของคนที่นี่เราต้องมองว่าเราคาดหวังว่าจะปังเหมือนที่นี่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราเป็นตัวที่ไม่มีใครรู้จัก แต่ก็คุ้มทุกอย่างเพราะปูได้เป็นตัวของตัวเองและรู้สึกว่าไม่ได้อิงกับคำว่ากระแสแล้ว มีหรือไม่มีไม่สำคัญ อยู่ที่ว่าพัฒนาตัวเองแล้วก็สู้เพื่องานมากกว่า”

ทั้งนี้ ปูยังเล่าว่ามีช่วงที่ชีวิตดิ่ง ทั้งกับคู่หมั้นที่ไปไม่รอด โดนด่าทัวร์ลงหนักมากไม่รู้ว่ากี่รอบ ซึ่งตอนแรกก็เสียใจมากเหมือนกันแต่ในใจก็รู้ถึงความจริงว่าอะไรคือหน้าที่ของเราจริงๆ อะไรคือสิ่งที่เราทำได้ อะไรคือโลกโซเชียลมันเป็นโลกที่เราควบคุมไม่ได้เลย

“เราเห็นคนฟ้องกันเยอะแต่เราก็ไม่รู้สึกว่าอยากทำเพราะคิดในใจว่าเราจะมาจ่ายเงินเพื่อให้คนมาขอโทษเราทั้งๆ ที่เขาก็แค่ออกความคิดเห็น เค้าทำให้เราเสียใจแต่ก็ไม่เป็นไรมันเป็นสิทธิ์ของเขา ก็หวังว่าถ้าเราเคารพสิทธิ์ของเค้าวันนึงเค้าจะเข้าใจเองว่าบางเรื่องก็กระทบจิตใจดาราอยู่แล้ว”

ในปีที่ปูพักอยู่ที่อเมริกาคนเดียวก็รู้แล้วว่าเกิดมาครั้งเดียวทำในสิ่งที่ตัวเองรักเลี้ยงดูพ่อแม่ได้ช่วยเหลือคนที่เราอยากช่วยจริงๆ ช่วยเงียบๆ ก็ได้เลิกเล่นไอจีไป 5 เดือนได้ทัศนคติอะไรมาเยอะมากช่วงหลังจากที่มีข่าวก็ไม่เล่นเลย ปี2020 หายไปทุกอย่างเลยลูกค้าหลายคนก็ไม่อยากจ้างเพราะกระแสสังคมค่อนข้างแรงแต่ปูก็คิดว่าเราจะแอบอยู่ทั้งชีวิตกับสิ่งที่คนไม่เข้าใจและไม่ต้องการเข้าใจเราก็ต้องสู้

“เราก็ใช้ชีวิตเรียบง่ายขึ้น ไม่ต้องซื้อของสิ ยุคโควิดเราก็ไม่ได้ออกไปกินข้าวอยู่แล้วก็ทำอาหารกินที่บ้าน”

“กว่าจะจิตใจแกร่งแบบนี้ปูบอกเลยนะ ปูมีช่วงที่ดาร์กเยอะมากแต่ในใจปูบอกว่าปูเกิดมาเป็นลูกพ่อแม่ปูก็ต้องสู้เพื่อเขาสิ คนที่ปูไม่รู้จักตัดสินชีวิตปูช่างมันเถอะปูจะตายหรืออยู่ก็ไม่ได้มีความหมายกับเขา เขาพิมพ์แล้วเดี๋ยวเขาก็ไป”

“ทุกวันนี้เราอยู่รอดมาโควิดยังมีลมหายใจได้ตื่นมาทำงานก็ขอบคุณแล้ว ได้เจอคนที่เรารักทำในสิ่งที่เรารักก็พอแล้ว”

ทั้งนี้ ปู ไปรยา ยังได้เล่าถึงสาเหตุที่ไปถวายชุดแบรนด์ดังมูลค่ากว่า 2 ล้านบาทให้กับ แม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่วัดมหาบุศย์ว่า เพราะคุณตาเป็นคนสุพรรณช่วงที่กลับเมืองไทยครั้งก่อนก็ได้ไปหลายวัด เป็นที่เดียวที่ในใจปูรู้สึกว่านั่งแล้วสงบ และเป็นที่ที่เวลาปูอยู่เมืองนอกแล้วปูคิดถึง

“ตอนนั้นเป็นความรู้สึกที่ยากมากที่เจอข่าวเยอะเหมือนเจ็บใจเหมือนกันว่าทำไมอยู่เมืองไทยเราถึงต้องเจอเรื่องที่ทำให้เราเจ็บปวด หรือเป็นที่ที่ไม่ได้ต้องการเรา ก็เลยไปวัดแม่ผึ้งแล้วนั่งก็รู้สึกสงบแล้วคนในวัดก็บอกว่าขอแม่ผึ้งสิ ก็ขอพรไปค่ะ ก็บอกว่า ‘เจ็บปวดมาเยอะอยากไม่เจ็บบ้างอยากเริ่มใหม่อยากหลุดจากตรงนี้แล้วก็ไม่ต้องหันกลับมาถ้าเป็นไปได้’ ก็เป็นการของานชิ้นหนึ่งที่ทำให้ปูเดินไปข้างหน้าได้”

และที่เป็นชุดนี้ก็เพราะช่วงนั้นทุ่มกับการสร้างกระแสไปเมืองนอกเดินพรมแดงแต่ในใจเหมือนหมดแล้ว อยากมอบให้เขาจริงๆ เป็นสิ่งที่เราตั้งใจมาก เป็นชิ้นที่เราไม่เคยให้อะไรตัวเองแบบนั้นแต่ก็อยากจะหลุดจากตรงนั้นไปเพราะรู้สึกว่าไม่อยากยึดติดกับอะไรแล้ว

กับเรื่องความรัก ปู ไปรยา บอกว่าช่วงนี้เป็นยุคโควิดแต่ก็เริ่มมีกลับมาคุยบ้าง มีเดตบ้าง แต่ขอโฟกัสเรื่องงานก่อน เพราะที่ผ่านมาอินกับความรักทุกครั้ง จนตอนนี้ไม่มีก็ได้มีความสุขดี