รีวิวหนัง “Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One” เหลืออะไรที่ ทอม ครูซ ยังไม่ทำบ้าง
ถึงคิวอีกหนึ่งหนังแอคชั่นใส่ไม่ยั้งประจำฮอลลิวูด ที่นับวันยิ่งจะบ้าดีเดือดแบบไร้ขีดจำกัดขึ้นเรื่อย ๆ และนี่คือการกลับมาอีกของตำนานสายลับที่ยังคงกระพัน แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไปกว่า 20 ปีแล้ว แต่เขายังบู๊ดีใน “Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One มิชชั่น อิมพอสสิเบิล ล่าพิกัดมรณะ ตอนที่ 1” ที่มาพร้อมกับทีมนักแสดงและทีมผู้สร้างชุดเดิมที่คุ้นเคยกันดี และนั่นกลายมาเป็นงานระห่ำแบบไร้รอยต่อที่ดี
โดยเนื้อหาใน Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One ภาคนี้ อีธาน ฮันท์ กับทีมไอเอ็มเฟนของเขา ได้เริ่มปฏิบัติการภารกิจสุดอันตรายที่สุด เพื่อสืบค้นหาอาวุธใหม่ที่น่าเกรงขามและเสี่ยงต่อการคุกคามมนุษยชาติครั้งใหม่ พวกเขาต้องยับยั้งมันก่อนที่จะตกไปอยู่ในมือคนชั่ว โดยมีชะตากรรมของโลกเป็นเดิมพัน
อีกทั้งยังมีอำนาจมืดจากอดีตที่แอบซ่อนไว้ของอีธานกำลังจะหวนกลับมาอีกครั้ง ทำให้อันตรายครั้งใหม่เกิดขึ้น และเขายังต้องเผชิญหน้ากับศัตรูลึกลับที่ทรงอิทธิพล พร้อมทั้งถูกบีบบังคับให้ติดอยู่ในสถานการณ์ขับคัน ที่ต้องตัดสินใจเลือกระหว่างภารกิจหรือชีวิตของคนที่เขาห่วงใย
กว่าเราจะมาดูหนังเรื่องแบบนี้เต็ม ๆ ตา ก็แทบจะผ่านตามากับฉากสตันท์อันบ้าบอของหนังเรื่องนี้ ที่เผยแพร่ออกมาเป็นข่าวเรื่อย ๆ และที่สำคัญนักแสดงนำของเรื่องก็ยังบ้าพอที่จะเล่นฉากต่าง ๆ เหล่านั้นเอง แบบไม่แคร์อายุของเขาเลยสักนิด แต่อย่าไปกังวลว่าข่าวโปรโมตต่าง ๆ ที่เปิดออกมาจะทำให้อรรถรสของหนังลดลงหรือไม่ พอเลยว่า...อะดรีนาลีนในร่างกายคุณต่างหากที่จะพลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น เหมือนได้มาเห็นฉากเต็มเหล่านั้น
“คริสโตเฟอร์ แมคควอรี” ยังคงมารับหน้าที่กำกับหนังเรื่องนี้อีกเช่นเคย และน่าจะกลายเป็นส่วนหนึ่งในอาชีพของเขาไปเสียแล้ว เขาเป็นผู้ที่กำหนดทิศทางให้กับเฟรนไชส์หนังเรื่องนี้ในยุคปัจจุบัน ดูทรงมันก็จะยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเรื่อย ๆ และส่งผลต่อวิสัยทัศน์ในการถ่ายทอดงานชิ้นนี้ออกมาได้อย่างลื่นไหล เขารู้จังหวะและรู้มุมของหนังชุดนี้เป็นอย่างดี อะไรที่เป็นไฮไลต์ อะไรที่คนดูอยากจะเห็น เซอร์วิสเอาไว้ได้แบบหอมปากหอมคอ
องค์ประกอบงานสร้างของหนังเรื่องนี้ยังต้องยกนิ้วให้เช่นเดิม ถึงทุกวันนี้หนังแอคชั่นจะมีเกลื่อนไปหมด แต่เสน่ห์ของ Mission: Impossible รุ่นปัจจุบันยังไม่เสื่อมคลาย โดยเฉพาะฉากแอคชั่นต่าง ๆ ที่ต้องบอกเลยว่าออกแบบและกลั่นกรองผ่านแนวคิดที่เจ๋งออกมาด้วยดี ถึงมันจะไม่ใช่อะไรที่แปลกใหม่ แต่มันเร้าใจเร้าอารมณ์ของคนดูได้ดีเสมอ ๆ กลับกลายเป็นว่าสร้างด้านนี้ยังโดดเด่น ทำออกมาได้ตื่นเต้นดี ถึงเราจะแค่นั่งดูเฉย ๆ แต่กลับรู้สึกเหนื่อยหอบตาม ประหนึ่งว่าคาดิโอ้ตามไปด้วย
แน่นอนว่า งานสตันท์ใน Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One ก็ยังต้องลุกขึ้นปรบมือให้จริง ๆ และนี่คือสุดยอดการแสดงที่ทุ่มเทสุด ๆ ของ “ทอม ครูซ” ที่กลายเป็นว่าเขาได้สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับหนังชุดนี้อีกแล้ว พอเรารู้ว่าเขาแสดงด้วยกันเอง เมื่อได้ดูฉากนั้นอยู่ตรงหน้าจริง ๆ มันคืออาการขนลุกและตื่นตาอย่างอธิบายไม่ถูก นี่คือหนึ่งในนักแสดงที่กล้าเสี่ยงเพื่อผลงานและฉากที่ออกมาในหนังแค่เพียงนาทีเศษ
ทอม ครูซ ก็ยังคงเป็น อีธาน ฮันท์ เข้าสายเลือดไปแล้ว ปีนี้เขาจะอายุเข้าเลข 6 แล้วก็ตาม แต่เสน่ห์ของเขาในฐานะตัวพ่อหนังแอคชั่นก็ยังเฉิดฉายในหนังอยู่ดี เขาก็คือถือหนังเรื่องเอาไว้ได้ในมือได้อย่างสบาย ๆ กับทีมนักแสดงที่ดูเหมือนจะคล่องตัวไปกันเฟรนไชส์ด้วยดีแล้ว ทั้ง “ไซมอน เพ็กก์”, “วิงก์ แรมส์”, “รีเบคก้า ฟูเกอร์สัน” และ “วาเนสซา เคอร์บี้”
แต่สมาชิกใหม่ที่เข้ามาสมทบในภาคนี้ก็จัดจ้านไม่เบา “เฮย์เลย์ แอตเวลล์” โอ้โห้...เสน่ห์ของเธอเหลือร้ายบนจอมาก คนดูจะต้องเคลิ้มและหลงใหลในเธอไปตาม ๆ กัน การมาของบทนี้ค่อนข้างถูกที่ถูกเวลาอยู่ไม่น้อย และเราน่าจะได้เห็นเธอเป็นส่วนหนึ่งในจักรวาลนี้อีกแน่ ๆ ขณะที่ “ปอม เกลม็องตีแย็ฟ” ที่เราไม่ค่อยได้เห็นเธอในเวอร์ชั่นปกติเท่าไหร่ เพราะภาพมันติดตามาจากหนังมาร์เวล แต่มาเรื่องนี้คือพูดน้อยต่อยหนัก ตัวเล็ก ๆ แต่บู๊ได้เต็มแข้ง
“อีไซ โมราเลส” ที่มารับบทเป็นวายร้ายเบอร์ต้น ๆ ของภาคนี้ ถือว่าเป็นตัวละครที่เต็มไปด้วยมิติที่น่าค้นหาอีกตัวหนึ่ง ทั้งลึกลับ ทั้งซับซ้อน แต่ภาคนี้อาจจะปล่อยของออกมาได้ยังไปเต็มที่ แต่การแสดงของเขาก็ถือว่าน่าพอใจดี คาดว่าในภาคถัดไปน่าจะเป็นกุญแจสำคัญของเรื่องราวทั้งหมด และน่าจะมีช่องให้เขาได้พ่นไฟแน่ ๆ
Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One อาจจะบอกได้ว่าเกือบถึงขั้นสมบูรณ์แบบ เพราะมันตอบโจทย์การเป็นหนังแอคชั่นบ็อกซ์บัสเตอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานสร้างและการแสดงค่อนข้างดีพร้อม เพียงแต่ในภาคนี้ด้วยรายละเอียดและข้อมูลต่าง ๆ ในหนังค่อนข้างจะอัดแน่นพอสมควร นี่ขนาดต้องแบ่งออกเป็น 2 พาร์ทแล้วก็ตาม บางจุดก็ยังเล่าเรื่องเร็วไป คนดูอาจจะเก็บรายละเอียดในประเด็นไม่ค่อยทันได้ โดยที่บทหนังอาจจะไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่อย่างน้อย ๆ ก็เป็นบทที่หนักแน่นพอตัว
และยังมีอีกมุมที่แอบเสียดายนิดหน่อย เพราะความที่ว่า Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One มาไล่หลังหนังซัมเมอร์เรื่องอื่น ๆ ไปสักหน่อย เรากลับพบเห็นฉากที่ค่อนข้างซ้ำกับหนังที่ฉายไปแล้วในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น “Fast X” หรือ Indiana Jones and the Dial of Destiny” ที่บังเอิญเหลือเกินที่องค์ประกอบและโลเคชั่นบางจุดมันชวนให้เดจาวูเบา ๆ แต่ก็ยังไม่ใช่จุดบกพร่องของหนังแต่อย่างใด
ส่วนใครที่เป็นห่วงว่า Mission: Impossible - Dead Reckoning มันแบ่งออกเป็นพาร์ท ๆ แบบนี้ จะตามรอยอาถรรพ์หนังแบ่งพาร์ทหรือไม่ บอกเลยว่า..ไม่ และตอนที่ 1 เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การดู เพราะนี่มันแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ถึงจะเป็นแค่การปูทางปูเรื่องไปสู่เป้าหมายถัดไป แต่ระหว่างทางคือความบันเทิงที่ถาโถมจู่โจมใส่คนดูแบบไม่ยั้งและน่าประทับใจไม่น้อย
เมื่อดู Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One เรื่องนี้จบแล้ว สิ่งหนึ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวก็คือ “ยังมีอะไรที่ ทอม ครูซ ไม่ได้ทำอีก?” เพราะดูเหมือนว่าเขาจะทำหลาย ๆ อย่างให้มันเป็นไปได้เกือบจะหมดแล้ว ดังนั้นก็น่าจะเหลือการพุ่งตรงออกไปยังอวกาศเท่านั้นแหละ ถ้าเขาทำได้ก็ไม่ประหลาดใจเลย เหมือนกันหนังเรื่องนี้ที่มันคือการยกระดับและสร้างบรรทัดฐานใหม่กับเฟรนไชส์ รวมทั้งวงการหนังฮอลลิวูดเลยด้วย
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One
- ประเภท: แอคชั่น / ผจญภัย / ระทึกขวัญ
- ผู้กำกับ: คริสโตเฟอร์ แมคควอรี
- นำแสดงโดย: ทอม ครูซ, เฮย์เลย์ แอตเวลล์, รีเบคก้า ฟูเกอร์สัน, วิงก์ แรมส์
- ความยาว: 163 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 11 กรกฎาคม 2023
Movie.TrueID METRIC: Mission: Impossible - Dead Reckoning Part One
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰ (8/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰ (9/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐ (10/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10)
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa