Short CommentConfidential Assignment 2: International จารชนโอปป้า รั่วส์ข้ามโลก (2022)ทรงเดิมแต่ยังสนุก ลดความฮาบ้าบอมาเป็นความพอดีแล้วเพิ่มดีกรีความระห่ำ เมื่อห้าปีก่อนมีหนังเกาหลีที่มีชื่อไทยสุดโดนใจว่า "คู่จารชนคนอึนมึน" ที่ทำให้ดูไปบ่นไปจำชื่อไทยได้เพียงไม่กี่เรื่องในช่วงหลัง และชื่อฝรั่งของหนังเรื่องนั้นก็คือ Confidential Assignment ที่นำแสดงโดยนักแสดงสุดหล่อฮยอนบินที่รับบทเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดขรึมจากเกาหลีเหนือที่จับพลัดจับผลูได้มาตามจับผู้ร้ายในเกาหลีใต้ โดยที่ทางฝ่ายใต้จัดตำรวจสุดเห่ยไว้คอยต้อยรับและกีดกันรับผิดชอบบทบาทโดยนักแสดงไม่หล่อแต่เร้าใจยูแฮจิน แล้วหนังก็ออกมาอย่างสนุกสุดฮาด้วยการรับส่งมุขตามสไตล์หนังตำรวจคู่หูหนึ่งเก่งหนึ่งกากแต่ปากเก่ง แถมด้วยน้ำจิ้มที่เป็นที่จดจำที่แสดงอย่างสุดรั่วของอิมยุนอาทำให้หนังออกมาสนุกและประสบความสำเร็จเพราะดูเอามันส์ก็มันส์จริงหรือจะดูเอาฮาก็ฮาจริง และเมื่อตอนนั้นหนังก็ขายได้ (คงเพราะฮยอนบิน) จึงได้เข้ามาฉายในบ้านเราและผู้เขียนก็ได้พิสูจน์ในโรง จนเมื่อปีที่ผ่าน (2022) มาหนังภาคต่อของเรื่องนี้ก็ออกมาสู่สายตาคนดูและได้เข้าฉายโรงเช่นเดิมแต่คราวนี้ผู้เขียนกลับต้องมาดูในสตรีมมิ่ง และผลที่ออกมาคือหนังดูลงตัวขึ้นแม้จะมาทรงเดิมแต่ก็ยังดูสนุกเช่นเดิมหรืออาจจะสนุกกว่าเดิมเปิดหัวมาที่นครนิวยอร์กเมื่อเจ้าหน้าที่ FBI นามว่าแจ๊ค (Daniel Henney) เข้าจับกุมจางมยองจุน (จินซอนคยู) พ่อค้ายาชาวเกาหลีเหนือ แต่พอจะสอบสวนก็ถูกแทรกแซงจากเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนืออิมชอลรยอง (ฮยอนบิน) ที่มาตามจับอาชญากรของประเทศ แล้วระหว่างเดินทางไปสนามบินขบวนรถขนนักโทษของ FBI ดันโดนโจมตีทำให้คู่หูของอิมชอลรยองต้องพลีชีพและจางหนีไปได้ กระทั่งทางเกาหลีเหนือได้ข่าวว่าจางจะเดินทางเข้าเกาหลีใต้ทางฝ่ายเหนือจึงส่งอิมชอลรยองข้ามมาฝั่งใต้อีกครั้งเพื่อตามจับจาง แน่นอนว่าทางฝ่ายใต้ก็ต้องการจับอาชญากรตัวเอ้คนนี้เช่นกันจึงได้หาคนที่จะไปเป็นคู่หูของอิมชอลรยองซึ่งเป็นงานที่ไม่มีใครต้องการนอกจากอดีตคู่หูที่เคยลุยกันมาแล้วสายสืบคังจินแท (ยูแฮจิน) ที่ตอนนี้ทำงานนั่งโต๊ะ กระทั่งเมื่อตามจับลูกน้องของจางได้ทางอิมชอลรยองก็ถูกแทรกแซงจาก FBI ที่ส่งเจ้าหน้าที่แจ๊คเข้ามาแต่การตามไปหาที่กบดานของจางกลายเป็นหายนะ ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับหัวแถว (หรือเปล่า) ของทั้งสามประเทศต้องร่วมมือกันจัดการอาชญากรตัวร้ายที่มีอะไรบางอย่างซ่อนเร้น บทอาจไม่เรียบร้อยในเรื่องราวที่ยังเป็นทรงเดิมแต่เดินเรื่องไวไม่รีรอทำให้มองข้ามรอยรั่วไปได้ แรกเลยนี่คือหนังภาคสองที่มีโครงเรื่องเดิมแต่เพิ่มเติมตัวละครที่ดูไปก็ไม่ต่างจากหนังตำรวจคู่หูยุค 90 อย่าง Bad Boys หรือ Rush Hour เพราะทุกอย่างที่พึงมีก็เอามาหมด กระนั้นปัจจัยชี้วัดว่าพล็อตโบราณแบบนี้จะดูเชยหรือไม่ก็อยู่ที่รายละเอียดและการเล่าเรื่อง และเรื่องนี้ถ้าว่ากันตามจริงบทหนังไม่ได้เรียบถึงร้อยยังมีริ้วรอยในตัวเรื่องและการเชื่อมโยงเหตุการณ์รวมไปถึงแรงจูงใจบางอย่างหรือปล่อยอะไรบางอย่างไว้กลางทาง แต่สิ่งที่เป็นเหล่านั้นได้ถูกมองข้ามไปด้วยความบันเทิงที่มีเพราะการเดินเรื่องเร็วและเรื่องเล่าได้เพราะอะไรบางอย่างหรือพื้นฐานตัวละครได้ถูกเล่ามาแล้วในภาคที่แล้ว ทำให้เหมือนหนังเดินเรื่องไปแบบไม่รีรอคือไม่มัวมาเล่าเรื่องที่คนดูรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าจะมีอะไรให้ต้องติคงเป็นความที่หนังไม่มีอะไรพลิกผัน (แม้จะพยายามแต่ยังอ่อน) เลยเดินหน้าไปตรงตามแนวทางไม่มีบิดเบี้ยวคือดูไปก็รู้ว่าสถานการณ์ที่เห็นจะเป็นยังไงต่อไปจะมีอะไรและสุดท้ายจะลงเอยอย่างไรอาจเพราะหนังรู้จุดขายของตัวเองแล้วเลือกให้ "ฮยอนบิน" มาตลกหน้าตายแทนที่จะขายความฮาของ "ยูแฮจิน" เหมือนภาคที่แล้วทำให้ดูลงตัวกว่าเพราะเหมือนมีความสดใหม่ ส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาคที่แล้วเป็นความฮาอย่างบ้าบอก็เพราะการขายความฮาในบุคลิกและหน้าตาของยูแฮจินที่มารับบทสายสืบสุดเห่ยตัดกับเจ้าหน้าที่สุดเข้มของฮยอนบิน แต่ภาคนี้สลับกันเมื่อเลือกให้ฮยอนบินมาขายความฮาแต่บุคลิกของฮยอนบินไม่ได้เป็นแบบฮารั่วเรื้อนเลยจัดให้เป็นตลกหน้าซื่อหน้าตายแล้วก็ได้ผลเพราะคนดูทั้งยิ้มเล็กยิ้มน้อยและทั้งขำกลิ่ง เอาแค่ประโยคว่า "ผมก็แค่คนหน้าตาบ้านๆเท่านั้นครับ" คงไม่มีใครอดขำได้และหนังก็ใช้มุขนี้มาเล่นอย่างได้ผลต่อมา อีกส่วนหนึ่งที่ยิ่งทำให้ฮาคือการใช้ตัวละครมินยองของอิมยุนอามาเล่นอย่างสนุกเมื่อมีตัวแปรที่หล่อลากไส้อย่างเจ้าหน้าที่แจ๊คเข้ามา ทำให้ยิ่งฮาเมื่อคนหน้าตาบ้านๆโดนขโมยความสนใจจากครอบครัวของสายสืบคังจินแทที่สำคัญคือทำให้เรื่องออกมาต่างไปจากภาคที่แล้วที่เหมือนจะขายความฮาอีกแบบ ภาคนี้เลยเหมือนมีความสดใหม่ประกอบกับการไม่ต้องเล่าเบื้องหลังมากมายเลยทำให้ดูลงตัวกว่าเดิมแล้วใส่ดีกรีความมันส์ระห่ำเข้ามาตามจังหวะเวลาที่ถูกทำให้ยิ่งดูยิ่งเพลิน เพราะเป็นการขึ้นจอครั้งที่สองของคู่จารชนคนอึนมึนจึงไม่ต้องเล่าพื้นให้มากความสิ่งที่ตามมาคือสามารถใส่ความระห่ำกระหน่ำความมันส์มาเต็มที่โดยที่คนดูไม่ต้องสนใจว่าไผเป็นไผเพราะเหมือนวัวเคยขาม้าเคยขี่ ที่สำคัญภาคนี้ไม่รีรอที่จะอัดความบันเทิงมาให้เพราะตั้งแต่เริ่มจนจบคนดูไม่ได้รอความสนุกนานเกินไป แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นก็ใช่ว่าจะอัดมาจนคนดูล้าเพราะไม่ได้ตั้งใจมาขายแอ็กชันแบบ Non-Stop การขายความมันส์ที่ใส่มาจึงไม่ยืดเยื้อรู้ว่าจังหวะไหนเวลาใดควรจบหรือควรพอไม่ลากยาวจนน่าเบื่อเหมือนบางเรื่อง แม้ว่าอะไรที่ได้เห็นมาก็ยังเป็นที่คุ้นเคยเหมือนเคยเห็นที่ไหนสักที่แต่เมื่อถูกใส่มาด้วยการมีที่มาคนดูจึงยังดูสนุกไม่ใช่จู่ๆอยากต่อยก็ต่อยอยากยิงก็ยิง ก็ใช่ที่บางครั้งก็ยังมีบ้างที่ยังมีอะไรน่ากังขาแต่ว่าก็เป็นสิ่งที่หนังทรงแบบนี้เป็นเสมอแล้วหนังเรื่องนี้ก็คือรู้ตัวดีว่าต้องการมาขายความบันเทิงเต็มที่ที่ตั้งอยู่บนความขบขันที่พอดีตัวอะไรก็ตามที่เป็นความไม่เรียบร้อยก็แค่หลุมบนเส้นทางที่ต้องผ่านเท่านั้นการแสดงที่แสบทะลุไส้เช่นเคยแต่คราวนี้มีคนที่ไม่ใช่น้ำจิ้มอีกต่อไปเพราะตั้งใจขายเสน่ห์เต็มที่ แน่นอนว่าเรื่องประมาณนี้จะไปหาความลึกล้ำทางการแสดงก็ใช่ที่แต่สิ่งที่มีคือเสน่ห์ของตัวละครที่คนดูติดตาและติดใจมาจากภาคที่แล้วไม่งั้นคงไม่มีภาคสองตามมา ในส่วนของยูแฮจินที่อาจดูเก่งกว่าเก่าฉลาดกว่าเก่าไม่ได้มาเอาฮามากเท่าภาคที่แล้วแต่ก็ยังตลกเพราะเป็นสายสืบกลัวเมียแถมยังพาเพื่อนมากลัวด้วย แต่ที่ได้ใจคือการมาเล่นแบบตลกหน้าตายที่ดูลงตัวกับบุคลิกเข้มขรึมของฮยอนบินอย่างเนียนสุดติ่งที่ดูตลกในความนิ่งและความเข้มนั้นอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ที่เหมือนรู้ตัวดีว่าเป็นของดีเหนือความคาดหมายในภาคที่แล้วคืออิมยุนอาที่บทในภาคนี้มีอะไรให้เล่นมากขึ้นและเป็นตัวแปรของความขบขันถึงขั้นขำกลิ้งได้ ส่วนตัวละครใหม่และสมทบที่ใส่เข้ามาอาจต้องยอมรับว่ามีเสน่ห์แต่ยังไม่ใช่ที่น่าจดจำแต่ทุกคนก็แสดงได้อย่างแสบไส้ไม่เว้นแม้แต่มนุษย์เมียที่อยู่เหนือจอมยุทธของจางยองนัมที่แสบจริงอะไรจริง ทั้งนี้ทุกอย่างที่เป็นเพราะตัวละครมีเสน่ห์และนักแสดงเปี่ยมเสน่ห์ทำให้สร้างความเพลิดเพลินแบบเจริญตาเป็นหนังที่เหมือนจะดูเพื่อฆ่าเวลาแต่ว่ากลายเป็นสนุกสุดๆเพราะเสน่ห์นักแสดง เมื่อเห็นหน้าหนังตำรวจคู่หูพล็อตโบราณแบบนี้อาจเป็นได้ว่าหลายรายอาจคิดว่าเป็นงานที่มาเพื่อดูฆ่าเวลา ทว่าส่วนตัวของผู้เขียนแล้วแยกความคาดหวังออกสองอย่างคือเรื่องความบันเทิงที่พึงมีผู้เขียนไม่ได้คาดหวังว่าจะไปในระดับยอดเยี่ยมไร้ที่ติเอาแค่ดูสนุกก็พอใจ แต่ที่คาดหวังจริงๆคือความฮาที่จะได้รับจากการเข้าขากันของฮยอนบินกับยูแฮจินที่จัดมาอย่างสมใจและที่ได้ใจคือการพลิกมาให้ฮยอนบินเป็นผู้นำด้านความฮา ยิ่งกว่านั้นตัวละครใหม่ที่เข้ามาคือ Daniel Henney ก็ดูเข้ากันดีกับนักแสดงชุดเก่าแถมด้วยพามิติไปพัวพันกับอิมยุนอาทำให้อิมยุนอาคือสิ่งที่เหนือคาดคือภาคที่แล้วก็ขโมยซีนได้ แต่กับภาคนี้คือเป็นที่น่าจดจำจนทำให้หนังออกมาสนุกในส่วนของตัวละครแต่ไม่ทิ้งความสนุกในความเป็นแอ็กชันคอมมิดี้ที่ดูเพื่อเอาความบันเทิงได้ แน่นอนเรื่องนี้คือหนังที่มาเพื่อความบันเทิงและสามารถตอบโจทย์เรื่องความบันเทิงโดยที่อาจจะได้ดูหรือไม่ได้ดูภาคแรกมาก็สนุกได้แต่ถ้าเป็นไปได้ถ้าได้ดูภาคแรกจะเข้าใจตัวละครมากกว่าเท่านั้นดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1,2,3,4,5,6,7,8 จาก cgv.co.krจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !