ดำเนินมาถึงซีซั่น 4 ของ Sex Education เพศศึกษา (หลักสูตรเร่งรัก) ตอนแรกเราก็ลังเลอยู่ว่าจะไปต่อหรือหยุดแค่ซีซั่น 3 แต่พอเห็นหลากหลายความเห็นและกระแสต่าง ๆ นานาที่เสียงแตก บวกกับเป็นซีซั่นสุดท้ายแล้ว เลยตัดสินใจดูเองดีกว่าจ้าา จะได้รู้ไปเลยว่าซีซั่นนี้เป็นอย่างไร และก็บอกได้เลยว่าไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ ต้องลองไปดูเอง 😉ข้อมูลซีรีส์ชื่อเรื่อง : Sex Education Season 4 เพศศึกษา (หลักสูตรเร่งรัก) ซีซั่น 4ปีที่เข้าฉาย : 2023ประเภท : วัยรุ่น / ดราม่า /ตลกดราม่า / ตลกทะลึ่ง / บันเทิงคดีแนวการก้าวพ้นวัย / สุขนาฏกรรมจำนวน Season : 4 ซีซั่นจำนวนตอน : 8 ตอนความยาว : ประมาณตอนละ 50 นาทีช่องทางการรับชม : Netflixhttps://youtu.be/WldgrH9SvbE?si=DJpBikgzGDHyF45M เรื่องย่อ จากความเดิมตอนที่แล้วซีซั่น 3 ปิดฉากด้วยเมฟต้องไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยวอลเลยในสหรัฐอเมริกา พอมาซีซั่นนี้เปิดเทอมใหม่กับโรงเรียนใหม่คาเวนดิชวิทยาลัยในมัวร์เดล ความสัมพันธ์รักทางไกลระหว่างโอทิสและเมฟคงจะยากขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวความสัมพันธ์ครอบครัว มิตรภาพ และความรัก รวมถึงเซ็กส์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ความเผ็ดร้อนของซีซั่นนี้การันตีไม่ต่างจากซีซั่นก่อน ๆ แต่เพิ่มความดราม่าเข้าไป และสะท้อนสังคมในหลากหลายมุมมองให้น่าติดตามในทุก ๆ ตอน (ถ้าพลาดมุมไหนไปก็ขออภัยด้วยนะคะ เพราะเรื่องราวซีซั่นนี้มีความซับซ้อนขึ้น และหลากหลายเรื่องที่ซ้อนทับกันมากเลยทีเดียวค่ะ ถ้าจะเล่าให้หมดเดี๋ยวจะหลุดสปอยกันอีก 555) โดยความป่วนของซีซั่นนี้มีเรื่องราวตั้งแต่ความสัมพันธ์รักทางไกลของโอทิสและเมฟอย่างที่บอกไป มิตรภาพความแตกต่างระหว่างโอทิสและเอริค ปัญหาครอบครัวทั้งของจีน มิลเบิร์น (แม่ของโอทิส), ไมเคิล กรอฟฟ์ (พ่อของอดัม กรอฟฟ์) การสูญเสียคนที่รัก สูญเสียตัวตน ปัญหาของผู้พิการที่ประสบพบเจอในชีวิตประจำวัน ตลอดจนความเชื่อและค่านิยมทางศาสนา จาก ‘เซ็กส์’ สู่ ‘มิติความสัมพันธ์’ ที่หลากหลายมิติตนเองทั้งร่างกายและจิตใจ ‘คาล’ เป็นหนึ่งในตัวละครที่สื่อถึงตัวตน และความเป็นตัวเองได้โดดเด่นมาก ๆ คนหนึ่ง แน่นอนว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำว่า ‘เราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้’ และคาลก็เป็นหนึ่งในนั้นที่รสนิยมทางเพศกับสรีระรูปร่าง รวมถึงฮอร์โมนของตนเองไม่ค่อยเป็นไปตามที่ตนต้องการนัก แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องผิดแปลกอะไร เพียงแค่ว่าคาลเองอาจจะต้องใช้ความพยายามในการยอมรับตนเอง และรักตัวเองให้มาก ๆ เหมือนกับที่ใครหลายคนรักคาล เราอาจจะไม่เข้าใจคาลไปหมดทุกอย่าง แต่เราชื่นชมในความพยายามของคาลที่มีความกล้าในการทำสิ่งต่าง ๆ ตามที่ใจตนเองอยากจะเป็น และนั่นอาจจะเพียงพอแล้วแค่เป็นตัวเองในแบบที่ตัวเองจะเป็น และยอมรับกับสิ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ เสน่ห์ของตัวละครอีกคนอย่าง ‘เอมี กิบส์’ เพื่อนสนิทของเมฟ ที่เคยมีประสบการณ์เลวร้ายกับการถูกลวนลามบนรถเมล์ การก้าวข้ามผ่านเรื่องราวโหดร้ายที่เคยเผชิญมันเป็นเรื่องยากมาก ๆ สำหรับเธอ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่สามารถผ่านไปได้ และความฉลาดของซีรีส์ที่ใช้ ‘ศิลปะบำบัด’ มาสื่อสารและสอดแทรกในเรื่องราวให้น่าค้นหา และเยียวยาเอมี รวมถึงใจคนดูได้เป็นอย่างดี มิติความรักวัยรุ่น แน่นอนว่ามิติความรักในวัยรุ่นของซีซั่นนี้ก็ไม่แพ้ซีซั่นไหน ๆ อย่างความรักทางไกลระหว่างเมฟ &โอทิส การเดินทางที่แสนยากเย็นของความรัก เราเองก็ไม่อาจรู้จุดจบของมันได้ แต่อย่างไรก็ตามเราได้เรียนรู้บทเรียนความรักระหว่างทางได้แน่นอน ซึ่งนอกจากสองคู่นี้แล้ว ก็ยังมีคู่อื่น ๆ ที่หลากหลายรสชาติ อย่างคู่ แอ็บบี้ & โรมัน ความรักบนเตียงที่ต้องพูดคุยกันถึงจะสื่อสารเข้าใจกันได้ และการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมาก็สำคัญไม่แพ้กัน หรืออาจเป็นคู่ของ วิเวียนน์ & โบ สองนักเรียนเนิร์ดที่คบกัน ดูเหมือนรักจะดำเนินไปด้วยดี แต่เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เว้นช่องว่างความสัมพันธ์ก็อาจทำให้ความสัมพันธ์นั้นสั่นคลอนได้เช่นกัน ความรักเป็นเรื่องดีนะคะ แต่ถ้ารักมากเกินความพอดี ก็อาจไม่ใช่ความรักที่ดีเสมอไป…แต่ก็เอาเถอะค่ะ เก็บเกี่ยวประสบการณ์รักให้มาก ๆ ก็เป็นเรื่องสนุกและสีสันของชีวิตไม่น้อย 😉 มิติมิตรภาพ สำหรับมิตรภาพนั้น ส่วนตัวเราแอบเชื่อกฎแรงดึงดูดของผู้คนนะคะ ที่เรียกกันว่าศีลเสมอกันจึงได้เป็นเพื่อนกันได้ ความชอบส่วนตัว ไลฟสไตล์ที่เหมือนกันก็เช่นกัน แต่ก็ไม่ทุกครั้งไปหรอกนะคะ ก็ยังมีเพื่อนที่แตกต่างกันบ้างก็มี อย่างคู่มิตรสหายอย่าง เอริค & โอทิส นอกจากลักษณะที่แตกต่างกันแล้ว ก็ยังรวมไปถึงนิสัยใจคอ ไลฟสไตล์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่สิ่งที่อาจตรงกันนั้นคงจะเป็นใจของทั้งคู่ และความเป็นเพื่อนที่มีมาอย่างยาวนาน ความผูกพันที่ไม่สามารถตัดขาดกันได้ และซีรีส์ก็สื่ออารมณ์ ความคิด มุมมองของทั้งคู่ออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติของคนเรา บ้างก้ไม่เข้าใจกันบ้าง ทะเลาะกันบ้าง ไม่คุยกัน แต่ไม่ว่าอย่างไร การเป็นเพื่อนและสื่อสารกัน คอยถามเรื่อสารทุกข์สุขดิบแค่นั้นก็เป็นตัวเชื่อมที่ต่อกันติดระหว่างความสัมพันธ์ของมิตรภาพ มิติครอบครัว และที่หนักอึ้งของซีรีส์เรื่องนี้อีกประเด็น คงเป็นมิติครอบครัว ซึ่งหลายครอบครัว หลายเรื่องราวอาจพบเจอกันในมุมที่ต่างกันออกไป แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้หรอกว่ามันเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์กันทั้งสิ้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์พ่อแม่กับลูก ๆ หรือความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง ก็เป็นมุมมองที่น่าสนใจที่ซีรีส์สะท้อนออกมาในหลายมิติ และคนดูอย่างเราจะเข้าใจกับตัวละครเกือบทุกคนในความสัมพันธ์ของครอบครัวนั้น ๆ ทำไมไม่เป็นอย่างนั้นนี้ พูดแบบนี้ก็จบ หรืออะไรต่าง ๆ นานาในมุมคนดูที่รู้ทุกมิติความลับของตัวละคร แต่พอนึกย้อนในชีวิตจริงนั้นเราที่เป็นตัวละครจริงในเรื่องราวนี้คงไม่อาจรับรู้ถึงความจริง และความรู้สึกของอีกฝ่ายได้หมดเหมือนอย่างในซีรีส์แน่ ๆ ที่เราสามารถรับรู้ทุกความรู้สึก และเรื่องราวของแต่ละตัวละครได้ ซึ่งเราเองอาจจะต้องตระหนักกับตนเองให้มาก ๆ แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่สิ่งสำคัญของการปลดล็อกความสัมพันธ์ในครอบครัว คือ การสื่อสารและยอมรับฟังอีกฝ่ายโดยไม่ด่วนตัดสินก่อน มิติของผู้พิการ เรียกได้ว่าซีรีส์ Sex Education ซีซั่นนี้เป็นกระบอกเสียงได้ดีในการสื่อสารแทนผู้พิการ ไม่ว่าจะพิการทางการได้ยิน หรือพิการแขนขา และอื่น ๆ การใช้ชีวิตประจำวันของพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย กับสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีอยู่น้อยนิด และไม่มีประสิทธิภาพ แม้แต่ในโรงเรียนที่เพียบพร้อมมากแค่ไหนก็ตาม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องมาตระหนัก ให้ความสำคัญมากขึ้นในการเรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานในการดำเนินชีวิตประจำวันของพวกเขาที่เป็นเพื่อนร่วมโลกของเราด้วยเช่นกัน และมีบทบาทไม่น้อยในสังคม มิติเรื่องเพศกับการเปิดกว้างทางศาสนา นอกจากนี้ Sex ยังคงดำเนินต่อไปที่แทรกซึมในหลากหลายมิติจริง ๆ หรือจะเรียกว่าทุกมิติเลยก็ว่าได้ (เห็นต่างกันได้นะคะ) สำหรับเรื่องศาสนาเรายอมรับว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ๆ แต่ซีรีส์กลับยกประเด็นนี้ขึ้นมาสะท้อนอย่างน่าสนใจ ด้วยเรื่องศาสนาคริสต์ และเพศวิถีที่ขัดต่อความเชื่อและค่านิยมทางศาสนา ซึ่งซีรีส์เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครอย่าง เอริค ซึ่งเขานิยามตนเองว่าเกย์ การเปิดกว้างเรื่องเพศต่อศาสนาอาจเป็นเรื่องยากที่ขัดกับความเชื่อเดิม แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เมื่อโลกได้เปลี่ยนแปลงไปในทุก ๆ วัน ซึ่งตัวเอริคเองก็เป็นตัวแทนที่กำลังก้าวสู่การเปลี่ยนแปลงนี้ มิติด้านสิ่งแวดล้อม มิติสุดท้ายเราขอยกด้านสิ่งแวดล้อมมา ถามว่าเกี่ยวข้องกันอย่างไรกับเรื่องนี้ ก็เพราะว่าโรงเรียนคาเวนดิชวิทยาลัยในมัวร์เดล เขามีค่านิยมและให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมมาก ๆ ด้วยล่ะสิ ซึ่งถ้าถามว่าเกี่ยวข้องอะไรกับเพศอีก ก็อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงซะทีเดียว แต่เกี่ยวข้องแน่นอนกับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าใครก็ควรต้องรักษาสิ่งแวดล้อม หันมาใช้กระบอกน้ำ หรือกล่องข้าวใช้ซ้ำอย่างตัวละครในเรื่องและนักเรียนทุกคนในโรงเรียน การสร้างสังคมที่ดี ก็เริ่มต้นมาจากสภาพแวดล้อมที่ดีด้วย ซึ่งสภาพแวดล้อมก็ส่งผลไปยังคน ๆ หนึ่งได้ด้วยเช่นกัน สภาพแวดล้อมหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวอาจส่งผลถึงค่านิยม ความชอบหรือเพศได้ด้วย แต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่ว่าเพศไหน ๆ ก็ต้องการสภาพแวดล้อม และสิ่งแวดล้อมที่ดีในสังคม รีวิวปิดท้าย Sex Education ซีซั่น 4 นี้ครบรสมาก ๆ สำหรับคนที่ยังลังเล แนะนำให้ดูอย่างแรงเพราะเป็นซีซั่นจบส่งท้ายแล้ว บทสรุปและมุมมอง แนวคิด แฝงให้น่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง อย่างมุมมองความรัก มิตรภาพ ครอบครัว และอื่น ๆ โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ที่ไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไป ทุกความสัมพันธ์มีบทเรียน และสะท้อนมุมมองที่แตกต่างกัน เมื่อได้เริ่มต้นความสัมพันธ์แล้วย่อมมีสิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดอยู่เสมอ แต่ทุกความสัมพันธ์นั้นอย่าลืมว่าทุกคนย่อมเป็นตัวเอกในความสัมพันธ์นั้น ๆ ของตัวเอง และทุกความสัมพันธ์มีสีสันและเรื่องราวที่น่าสนใจในตัวของมันเอง แล้วสีสันในความสัมพันธ์ของคุณละคะเป็นแบบไหน? แล้วอยากให้เห็นเป็นสีอะไร? หรือคุณจัดการความสัมพันธ์ของคุณอย่างไรกันบ้าง? #รีวิวซีรีส์ฝรั่ง #SexEducation #Season1 #เพศศึกษา #หลักสูตรเร่งรัก📌 เครดิตภาพปก: ภาพแรก / Netflix Facebookภาพประกอบ: ภาพ1, ภาพ2, ภาพ3, ภาพ4, ภาพ5, ภาพ6, ภาพ7, ภาพ8, ภาพ9 และ ภาพ10 จาก Netflix Facebookวิดีโอ: ตัวอย่าง จาก Netflix YouTube 🌐 ติดตามเจ้าของบทความได้ตามช่องทางอื่น ๆFacebook : https://www.facebook.com/Green-Kingdom-112797133785542/YouTube : https://youtube.com/@greenkingdom43Instagram : https://www.instagram.com/plant_kingdoms/📚บทความอื่น ๆ ของ Butter_Noey รีวิวซีรีส์ฝรั่ง: Fate: The Winx Saga (Season 1) เฟต: เดอะ วิงซ์ ซาก้า ซีซั่น 1 (2021)รีวิวซีรีส์ฝรั่ง: Fate: The Winx Saga (Season 2) เฟต: เดอะ วิงซ์ ซาก้า ซีซั่น 2 (2022)รีวิวซีรีส์ฝรั่ง: Shadow hunters Season 1 นักล่าเงา ซีซั่น 1 (2016)รีวิวซีรีส์ฝรั่ง: Shadow hunters Season 2 นักล่าเงา ซีซั่น 2 (2017)รีวิวซีรีส์ฝรั่ง: Shadow hunters Season 3 นักล่าเงา ซีซั่น 3 (2019)คอมมูนิตี้ “โลกคนรักหนัง” ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน