ในปี พ.ศ. 2542 เป็นปีที่ภาพยนตร์แอคชั่น-ไซไฟสุดล้ำอย่าง The Matrix เพาะพันธุ์มนุษย์เหนือโลก 2199 ได้ออกมาอวดสายตาชาวโลก ที่แรกเริ่มมีความหล่อเหลาของตัวเทพแห่งวงการอย่าง คีอานู รีฟส์ ที่เรียกผู้ชมได้อย่างมากมาย แต่กระนั้น ฉากแอคชั่นและเรื่องราวต่าง ๆ กลับสร้างความประทับใจได้มากกว่าความหล่อเหลาของพระเอกคนดัง โดยเฉพาะฉากการต่อสู้ที่มีเทคนิคจนทั่วโลกต้องนำไปใช้ตาม และการสร้างตัวละครสุดร้ายกาจอย่างสายลับสมิธ โดยฝีมือของ ฮูโก้ เวฟวิง ก็กลายเป็นอีกหนึ่งบทบาท ที่นักแสดงบทร้ายทุกคนต้องเรียนรู้แต่กระนั้น ก็มีน้อยคนนักที่จะเข้าใจเรื่องราวของ The Matrix ที่แม้กระทั่งสื่อบันเทิงต่างประเทศ ก็ยังพากันกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า "พวกเขางงและไม่เข้าใจว่าแก่นหลักของเรื่องคืออะไร" ซึ่งแก่นเรื่องของ The Matrix ได้ถูกเล่าผ่านภาพยนตร์เรื่อง The Animatrix ที่สองพี่น้องผู้กำกับวาชอวสกี้ ได้สร้างออกมาก่อนการฉายภาค Reloaded และทางเราจะสรุปแบบเรียงลำดับให้เข้าใจง่ายจักรกล โลกยุคใหม่แห่งศตวรรษที่ 21ในศตวรรษที่ 21 โลกมนุษย์พัฒนาก้าวหน้าอย่างสูงสุด เทคโนโลยีกลายเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความสะดวกสบายแก่ชีวิต และหุ่นยนต์ก็กลายเป็นสินค้าอย่างหนึ่งที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนสังคม โดยมีหน้าที่หลักคือ รับใช้มนุษย์ โดยที่หุ่นยนต์ก็พัฒนาไปตามความก้าวหน้าของสังคม และด้วยการเป็นเพียงสินค้า มนุษย์ก็มักจะมองหุ่นยนต์เป็นเพียงเครื่องจักรที่ไร้จิตใจ จึงทำให้มนุษย์ในยามที่พวกเขาไม่พอใจ มักจะก่อความรุนแรงต่อหุ่นยนต์ และมองว่าเมื่อพังแล้ว ก็ซื้อใหม่จนกระทั่งเกิดเหตุที่ทุกคนต่างพากันตกตะลึง เมื่อเกิดเหตุฆาตกรรม โดยฝีมือหุ่นยนต์รหัส B-166ER โดยเหตุจูงใจมาจากการที่มนุษย์ผู้เป็นเจ้าของ ต้องการรื้อถอนตัวหุ่นยนต์ออก แต่กลับมีการตอบโต้ ทำให้เหล่ามนุษย์เริ่มหวาดวิตกแล้วว่า หุ่นยนต์ตัวนี้เริ่มมีชีวิต จิตใจ และความคิดอ่าน โดย B-166ER ถูกศาลตัดสินให้เข้าสู่การทำลายทิ้ง และนั่นก็ส่งผลให้เกิดการประท้วงต่อต้านของเหล่านักกิจกรรมเพื่อหุ่นยนต์ รวมถึงตัวหุ่นยนต์ที่เข้ามาร่วมประท้วง โดยที่เหตุการณ์จบลงโดยการสลายการชุมนุมตามมาตรฐานทั่วไป เพียงแต่หุ่นยนต์ที่ร่วมประท้วง ก็ถูกทำลายลงหมด และต่อมา B-166ER ก็ได้ถูกยกย่องให้เป็นตัวแทนของการต่อสู้เพื่อหุ่นยนต์กำเนิด Zero-One (ซีโร่-วัน)หลังเหตุการณ์ B-166ER หุ่นยนต์เริ่มถูกมองในแง่ลบ บางตัวถูกทิ้งขว้าง บางตัวแค่เดินในที่สาธารณะก็ถูกเหล่านักเลงรุมทำร้ายจนพัง แต่ผลของ B-166ER นั้น ได้ส่งต่อไปยังหุ่นยนต์ตัวอื่นอย่างน่าประหลาดใจ ยิ่งทำให้มนุษย์มองว่าพวกหุ่นยนต์เป็นภัยคุกคามมากขึ้น หุ่นยนต์หลายตัวต้องอำพรางตัวเองโดยการสวมหนังสังเคราะห์ของมนุษย์ เพื่อแสดงตัวว่าเป้นมนุษย์ แต่ผู้ที่โชคร้าย ก็จะถูกมนุษย์จับประจานและทำลายกลางที่สาธารณะ และนั่นทำให้เหล่าหุ่นยนต์พากันหลีกหนีจากสังคมมนุษย์ ไปสร้างดินแดนใหม่นาม ซีโร่-วัน ที่เป็นเขตปกครองของหุ่นยนต์โดนเฉพาะ โดยมีการพัฒนาตัวเองและก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว โดยที่พวกเขาสามารถสร้างเมือง เครื่องบิน และปัจจัยต่าง ๆ โดยมีแสงอาทิตย์เป็นพลังงานหล่อเลี้ยงจนซีโร่-วันเติบใหญ่ เขตแดนกว้างใหญ่ จึงขอมีส่วนร่วมในการดำรงอยู่บนโลกใบนี้ จึงเกิดคณะตัวแทนหุ่นยนต์ ได้เดินทางไปยังสหประชาชาติ เพื่อขอการรับรองให้เป็นประเทศและการมีอยู่ของพวกเขา แต่มนุษย์ก็ปฏิเสธ และตีโต้กลับโดยการทำลายคณะทูตหุ่นยนต์ รวมถึงประกาศสงครามทำลายล้างเผ่าพันธุ์หุ่นยนต์ จึงเกิดการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ขึ้นปฏิบัติการ ท้องฟ้าดำมืดสงครามระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ดำเนินมาถึงจุดแตกหัก มนุษย์เริ่มตกเป็นรอง และเล็งเห็นว่าพลังงานหลักของหุ่นยนต์มาจากแสงอาทิตย์ ถ้าตัดตรงนี้ออกได้ ก็จะสามารถคว้าชัยเหนือพวกจักรกลได้ จึงทำให้มนุษย์ร่วมเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และส่งเครื่องบินขึ้นน่านฟ้า จัดการปล่อยควันดำปกคลุมทั่วทุกพื้นที่ เพื่อไม่ให้แสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามายังพื้นโลกได้โลกเข้าสู่ยุคมืดมิด พวกเขาเริ่มเป็นต่อ สงครามดำเนินไปต่อเนื่องท่ามกลางการรุกคืบของเหล่ามนุษย์ หุ่นยนต์เริ่มเสียเปรียบ เพราะไม่มีพลังงานแสงอาทิตย์ แต่ด้วยความที่พวกมันสามารถเรียนรู้และพัฒนาตัวเองได้ ทำให้พวกมันหาแหล่งพลังงานใหม่ได้ และพลังงานเหล่านั้นก็มาจาก มนุษย์ อีกทั้งยังเห็นว่ามีไม่จำกัด หุ่นยนต์ได้หยุดการฆ่าล้าง และทำการจับมนุษย์มาเป็นเชลยและนำมาเชื่อมต่อ เพื่อนำพลังงานในตัวพวกเขามาหล่อเลี้ยงหลังจากนั้น มนุษย์ก็เป็นฝ่ายเสียเปรียบอีกครั้ง เผ่าพันธุ์มนุษย์ล่าถอยและกลายเป็นผู้แพ้ในสงครามครั้งนี้ มนุษย์กลายเป็นแหล่งพลังงานของหุ่นยนต์ พื้นโลกทั้งใบถูกเปลี่ยนเป้นอาณาเขตของหุ่นยนต์หมดสิ้น มนุษย์กลายเป็นแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ให้กับพวกมัน ส่วนผู้ที่รอดชีวิตก็ต้องหลบหนีไปอาศัยอยู่ในโลกใต้ดิน เพื่อเลี่ยงการถูกหุ่นยนต์ไล่ล่าไซออน ดินแดนสุดท้ายของมนุษยชาติโลกใต้ดินที่มนุษย์อาศัยอยู่มีชื่อว่า ไซออน อันเป็นดินแดนสุดท้ายนที่หลงเหลือ และเป้นดินแดนเดียวที่ป้องกันการรุกรานของเหล่าหุ่นยนต์ได้ โดยในไซออนจะมีมนุษย์สองกลุ่ม คือ1.ผู้ที่มีปลั้กหมายถึงผู้ที่เคยถูกจับไปทำเป็นแบตเตอรี่ในโลกเบื้องบน ก่อนที่จะถูกปลดระวางและปล่อยตัวลงมาสู่โลกใต้ดิน ซึ่งปลั้กทั้งหมดจะเชื่อมต่อกับแกนประสาทของร่างกาย โดยผู้ที่มีปลั้ก สามารถเชื่อมต่อเข้ากับโลกเมทริกซ์ได้2.ผู้ที่ไม่มีปลั้กหมายถึงผู้ที่เกิดในไซออน ไม่เคยไปสัมผัสโลกเบื้องบนมาก่อน ผู้ที่ไม่มีปลั้ก จะไม่สามารถเชื่อมต่อกับโลกเมทริกซ์ได้เมทริกซ์ โลกจำลองใหม่ของเหล่ามนุษย์หลังจากโลกถูกเปลี่ยนหมด มนุษย์กลายเป็นแบตเตอรี่ ที่ต้องถูกเสียบปลั้กและดึงพลังงานไปหล่อเลี้ยง หุ่นยนต์ก็ได้สร้างโปรแกรมโลกจำลองนาม เมทริกซ์ เพื่อดึงเหล่ามนุษย์ที่หลับใหลอยู่ในแคปซูล ให้ได้ดำเนินชีวิตในนั้น และช่วยกระตุ้นร่างกายให้ได้ส่งพลังงานไปยังแบตเตอรี่ยักษ์ของหุ่นยนต์และในโลกเมทริกซ์นี้เอง ที่ทำให้ผู้คนได้ไปมาหาสู่ โดยผู้ที่หลับอยู่จะไม่มีวันรู้เลยว่าแท้จริงแล้ว พวกเขากำลังหลับอยู่ และการใช้ชีวิตอยู่นั้น ก็เป็นเพียงความฝันที่อยู่บนระบบปฏิบัติการของหุ่นยนต์อีกทีโดยผู้ที่ถูกปลดระวางจากแคปซูลแบตเตอรี่ และลงมาอยู่ที่ไซออนนั้น จะสามารถเชื่อมต่อกับโลกเมทริกซ์ ผ่านการเสียบปลั้กและเข้าระบบที่ไซออนลักลอบเชื่อมไว้ โดยการเข้าไปในเมทริกซ์ของมนุษย์นั้น ก็เพื่อทำการเข้าไปล้วงข้อมูลของหุ่นยนต์ และติดต่อสื่อสารกับพวกพ้องที่ไม่ได้อยู่ใกล้กัน จุดประสงค์หลักก็เพื่อต่อต้านหุ่นยนต์และรักษาไซออนไว้ภายในโลกเมทริกซ์เป็นเสมือนคอมพิวเตอร์เครื่องใหญ่เครื่องหนึ่ง เมทริกซ์จะมีสายลับ ที่เป็นเสมือนตัวกำจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ เมื่อพบผู้แปลกหน้าเข้ามา สายลับก็จะทำการเข้าไปสังหารและทำลาย หากมนุษย์ที่เชื่อมต่อกับเมทริกซ์ แล้วถูกสายลับสังหารจนเสียชีวิต จิตจากโลกความจริงก็จะถูกทำลายและเสียชีวิตตาม ดังนั้นการใช้ชีวิตในเมทริกซ์จึงทั้งเสี่ยงและอันตรายพอสมควรแม้จะเป็นโลกจำลอง แต่มันก็กลายเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ทำให้ผู้คนเชื่อว่ามันมีอยู่จริง และสามารถอาศัยได้ตลอดชีวิต เช่นใน The Matrix ภาคแรก ที่ไซเฟอร์คลั่งและอยากอยู่ในเมทริกซ์ไปตลอดชีวิต แต่ก็ลงเอยที่เขาถูกขัดขวางเทพพยากรณ์เป็นบุคคลที่รู้ทุกอย่างในเมทริกซ์ เป็นเสมือนแกนกลางของระบบที่มีลักษณะเหมือนซีพียูคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าใครจะทำอะไรในเมทริกซ์ เธอจะเป็นผู้รู้ทุกเรื่อง อีกทั้งยังเป็นผู้ควบคุมความสมดุลภายในเมทริกซ์โดยในภาค Revolution จะมีหลายคนสงสัยว่าในตอนที่เทพยากรณ์ถูกสายลับสมิธยึดร่างนั้น แล้วมันส่งผลอย่างไร คำตอบคือในเวลานั้น สมิธไม่ได้เป็นสายลับในเมทริกซ์แล้ว แต่ได้พัฒนาเป็นสิ่งที่เหนือเทคโนโลยียิ่งกว่า และเมื่อสมิธสามารถยึดแกนหลักของเมทริกซ์ได้ เขาก็สามารถยึดได้ทุกอย่าง รวมถึงโลกเบื้องบนของหุ่นยนต์ที่เชื่อมต่อกับเมทริกซ์ไว้ด้วยสถาปนิกเป็นโปรแกรมจำลองที่หุ่นยนต์บนโลกเบื้องบน สร้างไว้เพื่อดูแลและพัฒนาโลกเมทริกซ์ให้สามารถดำเนินต่อไปได้ และสถาปนิกนี่เอง ที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกในเมทริกซ์ ให้มนุษย์ที่หลับใหลอยู่ สามารถดำเนินชีวิตในโลกจำลองต่อไปและการเข้าหาสถาปนิก ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นเสมือนระบบปฏิบัติการแบบ iOS, แอนดรอยด์ หรือวินโดวส์ที่เรา ๆ ใช้กันอยู่ หากต้องการเจาะระบบนี้ ต้องมีการเข้ารหัสที่ละเอียด และในเนื้อเรื่อง นีโอ ตัวเอกของเรื่อง ก็ใช้บริการผ่านช่างทำกุญแจ ที่เปรียบเสมือนตัว Crack รหัส เวลาที่คนเราใช้ยืนยันโปรแกรมเถื่อนนั่นเองและนี่เป็นรายละเอียดของโลกเมทริกซ์เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ด้วยเนื้อหาที่ละเอียดเช่นนี้ ก็ไม่แปลกใจที่จะทำให้ภาพยนตร์ชุด The Matrix เป็นที่กล่าวขานกันมาตลอด และถูกยกย่องให้เป็นสุดยอดภาพยนตร์ของโลก และช่วยบอกหน่อยว่าขณะที่กำลังอ่านบทความนี้ เราอยู่ในโลกความจริงหรือเราอยู่ในเมทริกซ์?รีวิว The Matrix Resurrections (2021)เดอะ เมทริกซ์ เรเซอเร็คชั่นส์ ใหม่ในอารมณ์เดิม ที่ยังสนุกสมใจที่ TrueIDอ้างอิงThe AnimatrixMatrix in a Matrix theoryMahiro Maeda’s Behind the Second Renaissanceรูปภาพจาก Warner Brosอัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ,ฟรี