In My Memories The 100th Love with You ย้อนรัก 100 ครั้ง ก็ยังเป็นเธอ (2017)โชคชะตา เวลา ความรัก กับหนังรักที่ตราตรึงถึงดู 100 ครั้งก็ยังรู้สึกเช่นเดิมเพราะความรักคือเรื่องสามัญและมนุษย์ทุกผู้คนล้วนแล้วแต่ต้องมีความรักอย่างน้อยสักครั้งในชีวิตถ้าว่ากันที่ความรักกันฉันท์หนุ่มสาว แน่นอนความรักในมิติอื่นอย่างความรักต่อบุพการีพี่น้องลูกหลานก็คือความรักแต่นั่นคือความรักที่เป็นเรื่องสามัญที่มาพร้อมกับชีวิตที่ปกติ แต่ความรักสำหรับหนุ่มสาวหรืออาการตกหลุมรักนั้นจะมาในมิติที่ไม่ปกติเพราะความรักในมิตินี้มักจะบันดาลให้หัวใจอยู่ไม่สุขในหลายแง่มุมอาจเป็นทุกข์สุขเศร้าหรือซาบซึ้งก็แล้วแต่ความรักของใครจะกระทบหัวใจใครแบบไหน หนังรักจึงกลายเป็นหนังสามัญประจำโลกเพราะโลกภาพยนตร์ไม่เคยขาดหนังรักและในบรรดาหนังรักนั้นมีทั้งหนังรักทั่วไปหนังรักที่เหนือธรรมดาและหนังรักล้ำๆ แต่เนื่องจากความรักเป็นเรื่องสามัญอย่างที่ว่าการสร้างหนังรักให้ประทับใจก็อาจไม่ง่ายเพราะคนดูทุกคนก็ล้วนมีประสบการณ์ของการตกหลุมรักบางครั้งหัวใจก็ชืดชา และหนังรักล้ำๆที่สามารถลงลึกถึงก้นบึ้งจิตใจดูไปบ่นไปได้นั้นโดยมากมาจากหนังญี่ปุ่นที่ผู้เขียนคิดว่าเก่งในการสร้างหนังเหนือจินตนาการให้ออกมาสัมผัสได้ดั่งจะเอื้อมมือไปถึงเช่นหนังรักในความทรงจำเรื่องนี้เรื่องราวเริ่มต้นที่อาโออิ (มิวะ) เด็กสาวมหาวิทยาลัยที่หลงไหลในดนตรีตื่นมาในคาบวิชาวรรณกรรมขณะที่อาจารย์กำลังสอนอยู่ หลังจากนั้นเธอก็ใช้ชีวิตปกติเรื่อยไปคือการซ้อมดนตรีกับริคุ (เคนทาโร่ ซากากูชิ) และเพื่อนๆอีกสามคน จนเมื่อวงได้ขึ้นแสดงโชว์ในงานเทศกาลของเมืองแล้วเมื่อแสดงเสร็จอาโออิประสบอุบัติเหตุรถชน ทว่าเธอกับตื่นมาในคาบเรียนประวัติศาสตร์เหมือนเดิมเพื่อพบว่าเธอคล้ายกับเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจะเกิดขึ้นกับเธอ จนกระทั่งริคุสารภาพว่าเขาเองเป็นคนเดินทางย้อนเวลากลับมาด้วยเครื่องเล่นแผ่นเสียงเก่าๆ และริคุทำลงไปเพื่อพยายามช่วยชีวิตอาโออิและไม่ได้เป็นแค่ครั้งเดียวที่ริคุเดินทางย้อนเวลาแล้วทุกอย่างที่เขาทำเพราะเขารักอาโออิ เช่นกันอาโออิก็มีความรู้สึกเดียวกันกับริคุทั้งคู่จึงย้อนเวลาไปด้วยกันเพื่อได้ทำอะไรด้วยกันในฐานะคนรักแน่นอนมันคือการเขียนความทรงจำที่สวยงามร่วมกัน แต่เมื่อถึงเวลาไม่ว่าริคุจะพยายามแค่ไหนเขาก็ไม่อาจหยุดยั้งชะตากรรมของอาโออิได้ สุดท้ายความรักอาจต้องการมากกว่าการเสียสละหรือครอบครองเล่าเรื่องเหนือจริงได้เรียบง่ายไม่ต้องอธิบายทฤษฎีให้ยุ่งยากแต่กลับเห็นสภาพเป็นจริง โดยปกติหนังแนว Time Travel มักจะต้องอธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์ให้เชื่อให้ได้ว่าเรื่องที่เห็นสามารถเกิดขึ้นจริง กระนั้นก็ไม่จำเป็นถ้าบทหนังมีเจตจำนงที่แรงพอและเล่าได้น่าเชื่อพอในมุมของชีวิตนั่นคือบทหนังจะสามารถเล่าให้เชื่อได้โดยไม่ต้องยุ่งยากมากความถ้าเอาตัวละครและชีวิตของตัวละครมาผูกกับใจคนดูได้ และกับเรื่องนี้ที่ผู้เขียนสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเดียวกับ About Time (2013) หนังย้อนเวลาครั้งแล้วครั้งเล่าให้เธอรักเรื่องนั้นและยังมีจุดสัมผัสกันในเรื่องของความตาย อีกอย่างคือความเรียบง่ายในการเล่าเรื่องที่ไม่หวือหวาดึงดราม่าคือเล่าเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาเป็นชีวิตประจำวันแต่ความธรรมดานี่เองที่จับใจเพราะคนดูก็คือคนธรรมดา แล้วเมื่อความรู้สึกนี้มาเป็นหนังญี่ปุ่นที่ถนัดนักในการเล่าเรื่องเหนือจริงให้ออกมาเหมือนสภาวะเป็นจริงและมีเอกลักษณ์ที่ความเรียบเรื่อยแบบนี้หนังจึงซึมลึกเก็บเกี่ยวทุกสัมผัสอารมณ์จนคนดูลุ้นว่าสุดท้ายริคุจะช่วยอาโออิได้หรือไม่แม้รู้ทั้งรู้ว่าจะเป็นอย่างไรแต่ในใจยังหวังเล่าเรื่องความรักได้ซาบซึ้งเพราะความทรงจำที่ดีจะสามารถมีได้เพียงครั้งเดียวไม่สามารถเขียนทับได้ ในหนังรักแนวย้อนเวลานั้นที่ชัดเจนตลอดมาในแทบทุกเรื่องคือเรื่องเวลาและความทรงจำ เพราะการย้อนเวลาคือการกลับไปสู่อดีตที่กระทบต่อความทรงจำที่เกิดขึ้นแล้วเมื่อแตะต้องอดีตก็คือแตะต้องความทรงจำที่อาจต้องเลือนหายไป และเรื่องนี้คือเรื่องความทรงจำที่สวยงามเมื่อการย้อนเวลามาเพื่อช่วยคนรักจะสักกี่ครั้งก็ไม่มีความหมายเมื่อเป็นความทรงจำของตนฝ่ายเดียว แต่เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านมาจนเหลือเพียงไม่มากการย้อนเวลากลับไปมีความทรงจำที่สวยงามร่วมกันในฐานะคนรักก็คือการได้ใช้เวลาที่ผ่านมาอย่างคุ้มค่าและมันตราตรึง จนเมื่อถึงเวลาความรักที่ได้ใช้เวลาและความทรงจำร่วมกันก็คือตัวแปรให้ตัดสินใจเมื่อใครบางคนไม่อยากลืมความทรงจำที่สวยงามนั้นด้วยการย้อนเวลาอีกแม้เพียงครั้งเดียว และความทรงจำนั้นก็คือรอยรักที่ลงลึกเกินกว่าจะรับความเสียสละของคนรักจึงถึงเวลาที่ต้องยอมรับโชคชะตาและความจริงแม้จะเจ็บปวดแต่ก็คือความจริงที่เล่าได้ซึมซับและซาบซึ้งการทำเพื่อคนที่รักอาจไม่ได้หมายถึงการเสียสละแต่อาจเป็นการปล่อยมือและใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มค่า ริคุ "อนาคตของฉันที่ไม่มีเธอจะมีความหมายอะไร"อาโออิ "ฉันไม่อยากขโมยอะไรจากเธออีกแล้ว"แน่นอนทั้งริคุและอาโออิก็มีจุดยืนที่มาจากความรักแต่การมองความรักในมุมของตัวเองอาจไม่ใช่เรื่องที่ถูกนัก โดยสัจธรรมเวลาเป็นสิ่งที่เที่ยงตรงที่สุดเสมอภาคที่สุดเพราะเวลาหนึ่งนาทีมีหกสิบวินาทีเท่ากันกับทุกคน แต่หกสิบวินาทีสำหรับแต่ละคนอาจไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับว่าในช่วงเวลานั้นใครใช้มันอย่างคุ้มค่าแค่ไหน เพราะรักจึงอยากอยู่ใกล้เพราะรักจึงอยากอยู่ด้วยกันตลอดไปแต่แม้จะรักสักแคไหนก็ไม่อาจฝืนโชคชะตาได้หนังอาจต้องการบอกคนดูแบบนั้น แน่นอนริคุไม่อยากเสียอาโออิไปก็เพราะรักแต่นั่นอาจเป็นมุมของริคุฝ่ายเดียวและกลายมาเป็นทุกข์ที่บั่นทอนให้พยายามหาวิธีมาหยุดยั้งโชคชะตาของคนรัก ส่วนอาโออินั้นกลับยอมรับความจริงว่าไม่มีทางฝืนโชคชะตาและเหนื่อยล้ากับการคดโกงเวลาและความตายมาหลายครั้งจนสุดท้ายแม้จะรักก็ต้องทำใจจากลาและก็มาเพราะความรักอีกเช่นกัน สุดท้ายการปล่อยให้เวลาเดินไปตามโชคชะตาอาจดีกว่าเพราะชีวิตจะได้เดินหน้าเหมือนกับที่ได้ใช้เวลาในฐานะคนรักที่ได้มีช่วงเวลาที่สวยงามด้วยกัน แน่นอนการเสียสละเพื่อใครสักคนเป็นเรื่องดีแต่บางทีอาจต้องคิดถึงคนที่เป็นผู้รับว่าเต็มใจรับหรือไม่ แต่ที่แน่ๆคือการได้ใช้เวลาที่มีให้คุ้มค่ามีความทรงจำที่ดีร่วมกันเพื่อปล่อยมือเมื่อถึงเวลาก็คือความงดงามที่เป็นสัจธรรมการแสดงที่น่าทึ่งของนักแสดงที่ร้องเพลงได้นิดหน่อยทำให้หนังมีพลังภาพสวยเพลงเพราะ เรื่องนี้เป็นหนังที่ใช้นักแสดงเพียงไม่กี่คนเพื่อเล่าเรื่องของเวลากับความรักและการใช้เวลาให้คุ้มค่าได้อย่างคุ้มค่า แน่นอนเมื่อเป็นหนังรักจุดโฟกัสจะอยู่ที่คู่พระนางแต่ปัจจัยรอบข้างกับเรื่องของคนเป็นส่วนน้อยแต่ทิ้งน้ำหนักให้กับเรื่องเวลาเป็นส่วนมากแต่ส่วนน้อยก็สำคัญเพราะเป็นจุดเปลี่ยนนักแสดงสมทบที่มีจึงเป็นส่วนเสริมที่สุดยอด ในส่วนของฝ่ายชายเคนทาโร่ ซากากูชิที่คนดูเห็นจะไม่มีความกังขาเพราะการแสดงในแบบญี่ปุ่นที่สื่อสารทางความรู้สึกแบบนี้ถ้าคุ้นจะรู้ว่าเคนทาโร่ ซากากูชิยอดเยี่ยมในการกำหนดอารมณ์ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจเพราะเขาคือนักแสดงอาชีพแต่ที่น่าทึ่งคือมิวะที่เป็นนักร้องนักแต่งเพลงในหนังที่ใช้เพลงและดนตรีเป็นตัวเดินเรื่อง ซึ่งมิวะที่มีประสบการณ์ทางการแสดงน้อยนิดแต่สามารถสื่อสารกับคนดูได้ทุกความรู้สึกแล้วความจริงมิวะไม่ใช่คนสวยมากแต่กับเรื่องนี้คือมีเสน่ห์เหลือๆ แล้วเมื่อได้นักร้องนักแต่งเพลงมาแสดงก็ได้หนังที่เพลงเพราะมากพ้องกับภาพที่สวยมากสมกับที่ได้นางเอกที่เป็นนักแสดงที่ร้องเพลงได้นิดหน่อยนี่คือหนังที่สวยงามทั้งเปลือกและแก่นจนเข้าถึงก้นบึ้งของจิตใจประทับในความทรงจำ เปลือกคือเรื่องความรักที่สามารถบันดาลให้คนทำเพื่อคนที่ตนรักได้ทุกอย่างแม้กระทั่งการคดโกงและในที่นี้คือเวลาและความตาย ซึ่งนำเสนอผ่านการเขียนความทรงจำร่วมกันให้สวยงามในการใช้เวลาร่วมกันอย่างคุ้มค่าเพราะเวลาจะคุ้มค่าก็ต่อเมื่อมันได้ทำหน้าที่วาดความงดงามในใจคนให้จดจำที่ถ้าสังเกตจะเห็นว่าเวลาที่ริคุมีความสุขที่สุดก็คือตอนที่ย้อนเวลากลับไปใช้ชีวิตในฐานะคนรักแล้วปล่อยให้เวลาเดินไป ส่วนแก่นคือเรื่องของเวลาและโชคชะตาผ่านความรักที่ยึดติดคาดหวังและต้องการครอบครองที่มาพร้อมกับมุมมองที่ต่างไปในการมองความรักในมุมของตัวเองกับอีกฝ่าย เพราะความรักอาจไม่ใช่การทำเพื่อตัวเองการเสียสละก็เช่นกันจะต้องมีการตอบรับทั้งสองฝ่ายนั่นคือความรักต้องมีความเข้าใจกันในทุกแง่มุม แน่นอนเรื่องของการใช้เวลาให้คุมค่าเมื่อเหลือเวลาเพียงน้อยนิดแล้วไม่อาจหยุดเวลาไว้ได้สิ่งที่เหลือคือคิดให้ได้แล้วปล่อยวางเพื่อปล่อยมือจากโชคชะตาเพื่อใช้เวลาที่เหลือให้คุ้มค่าที่สุดเพื่อเขียนความทรงจำที่สวยงามที่สุดจนวินาทีสุดท้าย ความสวยงามทั้งเปลือกและแก่นแบบนี้จึงคู่ควรให้อยู่ในความทรงจำดู 100 ครั้งก็ยังรู้สึกเช่นเดิมดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก,ภาพที่ 1,2,3,4 จาก sahamongkolfilm.comภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 จาก Facebook Major Group ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้https://entertainment.trueid.net/detail/DjVDwd5Gy1nxhttps://entertainment.trueid.net/detail/R2xVW3n4oBz5https://entertainment.trueid.net/detail/93Nj28ybqEa3https://entertainment.trueid.net/detail/jldXgNooaKOl จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !