หลังจากออกสตาร์ทความมันส์สุดระทึกกับภารกิจเสี่ยงตายครั้งแรกในปี 1996 'Mission: Impossible มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล' ได้พาผู้ชมดำดิ่งไปสู่โลกแห่งความตื่นเต้นและการออกปฏิบัติภารกิจที่สุดแสนจะ 'เป็นไปไม่ได้' ในหลากหลายสไตล์และรสชาติ ซึ่งหลังจากจบไตรภาคแรกไปใน Mission: Impossible III (2006) แฟรนไชส์แอ็กชั่นสายลับที่นำแสดงและอำนวยการสร้างโดยนักแสดงระดับตำนานแห่งฮอลลีวูดอย่าง Tom Cruise (ทอม ครูซ) ก็ได้ขึ้นแท่นกลายเป็นหนึ่งในแฟรนไชส์ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในโลกภาพยนตร์ ในช่วงเวลาที่กำลังก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่ เหล่าแฟนหนังทั่วโลกต่างเฝ้ารอการกลับมาของ Ethan Hunt (อีธาน ฮันท์) เจ้าหน้าที่สายลับแห่งหน่วยปฏิบัติการ Impossible Missions Force (IMF) พร้อมกับภารกิจสุดเหนือความคาดหมายครั้งใหม่ที่ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้ชมต้องลุ้นระทึก แต่ยังต้องทึ่งกับความยิ่งใหญ่ในไตรภาคใหม่ของแฟรนไชส์กับการพาผู้ชมไปสัมผัสถึงจุดสูงสุดของความเป็นแอ็กชั่นสายลับอย่างแท้จริง ดังนั้น เพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของ Tom Cruise ในภารกิจสุดเสี่ยงอันตรายครั้งใหม่ในปี 2025 นี้ ทางผู้เขียนจึงขอหยิบยกเรื่องราวภาคที่สี่-ห้า-หกของแฟรนไชส์มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล การยกระดับครั้งสำคัญของแฟรนไชส์ที่นำพาให้ Tom Cruise กลายเป็นที่สุดของดาราแอ็กชั่นแห่งยุคมาแนะนำให้รู้กันกับ MISSION: IMPOSSIBLE IV - VI: Tom Cruise กับการก้าวกระโดดของแฟรนไชส์อย่างบ้าระห่ำ! รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! https://www.youtube.com/watch?v=HPB7fV7f_f8 Mission: Impossible – Ghost Protocol มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปฏิบัติการไร้เงา (2011) NO PLAN. NO BACKUP. NO CHOICE. ไม่มีแผน ไม่มีกำลังเสริม ไม่มีทางเลือก Mission: Impossible – Ghost Protocol มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปฏิบัติการไร้เงา การกลับมาอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งที่ 4 ของภาพยนตร์แอ็กชั่นสายลับในแฟรนไชส์มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล อำนวยการสร้างและนำแสดงโดย ทอม ครูซ กับบทบาทของเจ้าหน้าที่สายลับมากฝีมือ อีธาน ฮันท์ เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อหน่วยปฎิบัติการ Impossible Missions Force (IMF) ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดครั้งใหญ่ ทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องประกาศ 'Ghost Protocol' ซึ่งหมายถึงการยุบหน่วยงานและยุติการช่วยเหลือทุกอย่างอย่างเป็นทางการ อีธาน ฮันท์ (ทอม ครูซ) และลูกทีมของเขาจึงต้องปฏิบัติภารกิจโดยที่ไม่มีทรัพยากรหรือการสนับสนุนจากรัฐบาล เป้าหมายของพวกเขา คือ การล้างมลทินให้หน่วย IMF และหยุดยั้งแผนการร้ายที่อาจเป็นชนวนก่อให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ครั้งใหม่ https://x.com/MissionFilm/status/1900260474266243276/photo/1 ไร้ทางหนี ไร้กำลังเสริม เหลือแค่ 'พวกเรา' | 'Brad Bird' Continues The Success of 'The Mission' การกลับมาของ Mission: Impossible – Ghost Protocol ในครั้งนี้ได้นำมาซึ่งนำเสนอความเข้มข้นและความตื่นเต้นที่โดดเด่นภายในแฟรนไชส์ Mission: Impossible ด้วยฝีมือผู้กำกับ Brad Bird ที่เปลี่ยนผ่านจากแอนิเมชั่นสู่การกำกับภาพยนตร์คนแสดงเป็นครั้งแรก ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงนำเสนอภารกิจปฏิบัติการครั้งใหม่ที่เต็มไปด้วยความกดดันและความตึงเครียด เมื่อเจ้าหน้าที่ทีม IMF ทุกคนต้องพึ่งพาตัวเองโดยที่ไม่มีการสนับสนุนช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ซับซ้อนและต้องแข่งขันกับเวลาจนเหมือนจะกลายเป็นภารกิจที่ดู 'เป็นไปไม่ได้' สิ่งนี้ช่วยสร้างบรรยากาศให้น่าตื่นเต้นและลุ้นระทึกยิ่งกว่าภาคก่อน ๆ แถมด้วยการสร้างแนวทางใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการทำภารกิจเป็นทีมที่มากขึ้น มีการโต้ตอบกันระหว่างตัวละครที่มีทั้งความตึงเครียด อารมณ์ขัน และมิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นระหว่างภารกิจ ทำให้การเล่าเรื่องใน Ghost Protocol มีชีวิตชีวาและความสนุกสนานจนกลายเป็นเรื่องราวที่มีความลึกซึ้ง และสามารถสร้างพัฒนาการของตัวละครที่น่าสนใจได้อย่างลงตัว https://x.com/MissionFilm/status/1900260467169517687/photo/1 จุดที่ก้าวกระโดดของฉากแอ็กชั่นสุดผาดโผน | 'Tom Cruise' Climbs Up To The World's Tallest Building นอกจากแนวทางการเล่าเรื่องแบบใหม่ที่ชวนน่าติดตามแล้ว Mission: Impossible – Ghost Protocol ยังสามารถยกระดับความยิ่งใหญ่ของฉากแอ็กชั่นให้ออกมาเร้าใจและน่าตื่นเต้นตลอดทั้งเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นฉากหลบหนีสุดระทึก ฉากไล่ล่ากลางพายุทะเลทราย หรือการต่อสู้สุดมันส์ ซึ่งล้วนแต่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสไตล์แอนิเมชั่นของผู้กำกับ Brad Bird ที่ใช้โทนการผจญภัยในการผสมผสานฉากแอ็กชั่น ทำให้ทุกฉากมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และสร้างความสดใหม่ให้กับฉากแอ็กชั่นของแฟรนไชส์ โดยเฉพาะหนึ่งในฉากแอ็กชั่นที่โดดเด่นและกลายเป็นฉากที่นำพาแฟรนไชส์ไปสู่จุดที่บ้าระห่ำอย่างแท้จริง คือ ฉากผาดโผนบนตึกเบิร์จคาลิฟา (Burj Khalifa) ณ ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ซึ่ง ทอม ครูซ ต้องปีนตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกโดยไม่ใช้ CGI ท่ามกลางความสูงเหนือพื้นดินกว่า 2,716 ฟุต ฉากนี้ไม่เพียงแต่นำเสนอภาพที่งดงามของมหานครดูไบ แต่ยังสร้างความตื่นเต้นให้ผู้ชมด้วยความสมจริงและความตระการตาของฉากแอ็กชั่นที่น่าตื่นตาตื่นใจจนกลายเป็นดั่งหัวใจสำคัญที่ขาดไม่ได้ของแฟรนไชส์ในภาคต่อ ๆ มา https://x.com/MissionFilm/status/1899867783577690409/photo/1 ปฏิบัติการครั้งใหม่ของ 'อีธาน ฮันท์' และทีมเจ้าหน้าที่ IMF | The 'IMF' Agents Are On 'The Mission' ด้วยความที่ Mission: Impossible – Ghost Protocol สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับแฟรนไชส์ โดยต่อยอดความสำเร็จจาก Mission: Impossible III (2006) ที่เน้นการทำภารกิจเป็นทีม พร้อมแฝงความลึกซึ้งของตัวละครได้อย่างน่าประทับใจ การแสดงและเคมีระหว่างเจ้าหน้าที่ IMF จึงกลายเป็นจุดแข็งสำคัญของภาพยนตร์เรื่องนี้ เริ่มกันที่นักแสดงนำอย่าง ทอม ครูซ ที่กลับมารับบทเป็นเจ้าหน้าที่สายลับมากฝีมือ อีธาน ฮันท์ อีกครั้ง ด้วยการแสดงที่ทรงเสน่ห์และเต็มไปด้วยความทุ่มเทมากกว่าครั้งไหน ๆ ล้วนแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า อีกทั้งในครั้งนี้ อีธาน ยังต้องก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำทีมอย่างเต็มตัว โดยต้องอาศัยทั้งไหวพริบและการพึ่งพาจากลูกทีมของเขาในการทำภารกิจที่ 'เป็นไปไม่ได้' ครั้งนี้ https://x.com/MissionFilm/status/181955413892280320 หนึ่งในตัวละครที่โดดเด่นจนเกือบถูกวางตัวให้เป็นผู้นำทีมคนต่อไป คือ William Brandt นักวิเคราะห์ข่าวกรอง รับบทโดย Jeremy Renner (จาก The Avengers) การมาถึงของเขาช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับทีม ทั้งในแง่ของฉากแอ็กชั่นและมิติทางอารมณ์ โดยเฉพาะอดีตอันลึกลับที่ทำให้เรื่องราวซับซ้อนยิ่งขึ้น ต่อมาที่นักแสดงตลกสุดจดจำ Simon Pegg (จาก Star Trek) ที่กลับเข้ามาร่วมแฟรนไชส์อีกครั้งหลังจาก Mission: Impossible III (2006) ในบทบาทอดีตฝ่ายวิเคราะห์สู่เจ้าหน้าที่ภาคสนามมือใหม่ Benji Dunn กับการเข้ามาสร้างสีสันให้กับทีม อารมณ์ขันของเขาและเคมีโต้ตอบกับตัวละครอื่น ๆ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ช่วยนำพาความสนุกสนานเข้ามาสู่ภารกิจสุดตึงเครียดในครั้งนี้ ส่วนนักแสดงสาว Paula Patton (จาก Déjà Vu) ที่เข้ามารับบทเป็น Jane Carter ที่ซึ่งถึงแม้จะเป็นเจ้าหน้าที่สาวเพียงคนเดียวในทีมของ อีธาน แต่เธอก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่น ฉากแอ็กชั่นของเธอออกมาอย่างเข้มข้น พร้อมทั้งถ่ายทอดให้เห็นถึงอารมณ์ที่เต็มไปด้วยแรงผลักดันจากความแค้น จึงทำให้ตัวละครของเธอมีความโดดเด่นไม่แพ้คนอื่น ๆ ในทีม ในขณะที่วารร้ายของเรื่องอย่าง Kurt Hendricks นักยุทธศาสตร์นิวเคลียร์ รับบทโดย Michael Nyqvist (จาก John Wick) ถูกวางให้เป็นวายร้ายที่มีความฉลาดและร้ายกาจสูง สามารถนำหน้าทีม IMF ได้อยู่หลายครั้ง และทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในคู่ปรับที่ท้าทายที่สุดของ อีธาน โดยสรุป Mission: Impossible – Ghost Protocol มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปฏิบัติการไร้เงา คือ การกลับมาครั้งใหม่ของเจ้าหน้าที่สายลับ IMF และนำมาซึ่งภาคที่โดดเด่นของแฟรนไชส์ ด้วยการเล่าเรื่องที่ชวนติดตาม มีความลึกซึ้งทางอารมณ์ และความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์ฉากแอ็กชั่นที่น่าทึ่งและทะเยอทะยาน ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับแฟรนไชส์ และปูทางให้กับภาคต่อ ๆ ไปที่จะขยายขอบเขตความบ้าระห่ำให้กว้างไกลยิ่งขึ้น Exhilarating! - AtoMa43 - https://www.youtube.com/watch?v=0yMOSdg_HvM Mission: Impossible – Rogue Nation มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปฏิบัติการรัฐอำพราง (2015) DESPERATE TIMES. DESPERATE MEASURES. เมื่อเข้าตาจน...ต้องสู้แบบไม่เลือกวิธี Mission: Impossible – Rogue Nation มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปฏิบัติการรัฐอำพราง ภาพยนตร์แอ็กชั่นสายลับลำดับที่ 5 ในแฟรนไชส์ปฏิบัติการสุดบ้าระห่ำมิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล ของนักแสดงสายแอ็กชั่นแถวหน้าของวงการอย่าง ทอม ครูซ เล่าเรื่องราวต่อมาจากภาคที่แล้ว เมื่อหน่วย IMF ถูกยุบ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็นหน่วยงานที่ใช้อำนาจเกินขอบเขต ทำให้ อีธาน ฮันท์ (ทอม ครูซ) ต้องหลบหนีจากการไล่ล่าของ CIA ในขณะเดียวกัน เขาก็กำลังสืบหาความจริงเกี่ยวกับองค์กรลับที่เรียกตัวเองว่า 'Syndicate' ซึ่งเป็นกลุ่มสายลับรัฐบาลนอกกฎหมายระดับนานาชาติที่ต้องการสร้างความวุ่นวายและเปลี่ยนแปลงระเบียบของโลกใหม่ ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียด อีธาน และทีมของเขาจึงต้องออกปฎิบัติภารกิจสุดท้าทายเพื่อเปิดโปงและขัดขวางองค์กรชั่วร้ายที่หลบซ่อนอยู่ในเงามืด https://x.com/MissionFilm/status/1902767375113654478/video/1 กองกำลังภารกิจ 'เป็นไปไม่ได้' VS องค์กรลับชั่วร้าย | 'Christopher McQuarrie' Joins The Global Franchise With The Anti-IMF หลังจากทำงานร่วมกันมานาน นับตั้งแต่ Jack Reacher (2012) คู่หูผู้กำกับคู่บุญของ ทอม ครูซ อย่าง Christopher McQuarrie ก็ได้ก้าวเข้าสู่ภารกิจที่ 'เป็นไปไม่ได้' ในครั้งนี้กับ Mission: Impossible – Rogue Nation ด้วยการนำพา อีธาน และทีมเจ้าหน้าที่ IMF เข้าต่อกรกับองค์กรลับชั่วร้ายที่เป็นดั่งขั้วตรงข้ามของหน่วย IMF อย่าง Syndicate ซึ่งการเผชิญหน้าครั้งนี้นำมาซึ่งหนึ่งในภาคต่อที่น่าตื่นเต้นที่สุดของแฟรนไชส์ ด้วยการเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและน่าติดตาม ผสมผสานฉากแอ็กชั่นสุดตื่นตาที่ยังคงไว้ซึ่งองค์ประกอบของโลกสายลับ ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวง การหักหลัง และภารกิจเสี่ยงอันตรายระดับสูง ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถรักษาระดับความเร้าใจและความระทึกขวัญได้อย่างลงตัว ยิ่งช่วยตอกย้ำให้เห็นว่าแฟรนไชส์ Mission: Impossible ยังคงครองใจแฟน ๆ ทั่วโลก และพร้อมมอบความตื่นเต้นเร้าใจให้กับผู้ชมได้อย่างต่อเนื่อง https://x.com/MissionFilm/status/1902767383686889551/photo/1 'ทอม ครูซ' กับการท้าทายขีดจำกัดของมนุษย์ | Tom Cruise's 'Go Big or Go Home' is an Entirely New Level หลังจากพา ทอม ครูซ ไปท้าทายความสูงอยู่นอกตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลกในภาคที่แล้ว Mission: Impossible – Rogue Nation กลับมาพร้อมกับความท้าทายใหม่ที่ยกระดับฉากแอ็กชั่นให้ถึงขีดสุด ภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยฉากผาดโผนที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดนับตั้งแต่ Mission: Impossible 2 (2000) กับฉากแอ็กชั่นผาดโผนบนเครื่องบินขนส่งสินค้าที่กำลังทะยานขึ้นสู่ฟ้า ที่ซึ่ง ทอม ครูซ ได้โหนตัวอยู่นอกเครื่องบินจริง ๆ ที่ระดับความสูง 5,000 ฟุต โดยไม่พึ่ง CGI สร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมตั้งแต่ฉากแรกของเรื่อง อีกหนึ่งฉากที่โดดเด่น คือ ฉากดำน้ำเสี่ยงตายที่ ทอม ครูซ ต้องกลั้นหายใจใต้น้ำนานถึง 6 นาที ซึ่งนั่นแทบจะ 'เป็นไปไม่ได้' และมีเพียงน้อยคนจะทำได้ ในขณะที่ฉากไล่ล่าด้วยความเร็วสูงบนถนนในโมร็อกโกก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ โดย ทอม ครูซ ลงทุนขับรถเองทั้งรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 100 ไมล์ต่อชั่วโมง ทุกฉากแอ็กชั่นถูกถ่ายทอดออกมาอย่างสมจริงและน่าตื่นตาตื่นใจ ภายใต้การแสดงของ ทอม ครูซ และฝีมือการกำกับของ Christopher McQuarrie ที่ทำให้แต่ละฉากเชื่อมโยงกับเรื่องราวได้อย่างลงตัว พร้อมกับตอกย้ำถึงหัวใจสำคัญที่ขาดไปไม่ได้ในแฟรนไชส์สายลับแอ็กชั่นระดับโลกนี้ https://x.com/MissionFilm/status/1902404754338365785/photo/1 เมื่อเข้าตาจน...IMF ไม่เคยถอย | 'Ethan Hunt' & His 'IMF' Team Always Have A Plan ทอม ครูซ กลับมาพิสูจน์ฝีมืออีกครั้งในบทบาทอันเป็นเอกลักษณ์ของเขาอย่าง อีธาน ฮันท์ ที่ยังคงนำมาซึ่งเสน่ห์และความมุ่งมั่นที่เป็นหัวใจของตัวละครเช่นเคยใน Mission: Impossible – Rogue Nation ด้วยไหวพริบอันเฉียบแหลมและความพยายามที่ไม่เคยย่อท้อของ อีธาน ในการเปิดโปงกลุ่ม Syndicate ทำให้ผู้ชมรู้สึกตื่นเต้นและอยากติดตามทุกย่างก้าวของภารกิจอันตรายในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกัน ตัวละครหญิงหน้าใหม่ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญอย่าง Ilsa Faust เจ้าหน้าที่ MI6 ที่แฝงตัวอยู่ในองค์กรลับ Syndicate รับบทโดย Rebecca Ferguson (จาก Silo) ก็ได้นำเสนอมิติใหม่ให้กับเรื่องราว การแสดงของเธอเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง ความเปราะบาง และความลึกลับที่ทำให้ตัวละครของเธอน่าหลงใหล อีกทั้งเคมีระหว่างเธอกับ อีธาน ก็เข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างแรงดึงดูดที่น่าติดตาม จนทำให้ Ilsa Faust กลายเป็นอีกหนึ่งในตัวละครที่น่าจดจำของแฟรนไชส์ https://x.com/MissionFilm/status/667749273082032131/photo/1 เป็นอีกครั้งที่พวกพ้องเจ้าหน้าที่ IMF ก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทำให้ Mission: Impossible – Rogue Nation ประสบความสำเร็จไม่แพ้กัน เริ่มกันตั้งแต่นักแสดงตลก Simon Pegg ที่กลับมารับบทเป็น Benji Dunn อีกครั้ง พร้อมทั้งนำอารมณ์ขันและความอ่อนไหวทางอารมณ์มาสู่เรื่องราว ต่อมาที่นักแสดง Jeremy Renner ที่กลับมารับบทเป็น William Brandt อีกครั้งจากภาคที่แล้ว เช่นเดียวกันกับนักแสดง Ving Rhames (จาก Pulp Fiction) ที่กลับมารับบทเป็น Luther Stickell เพื่อนสนิทของ อีธาน (แม้ว่าในภาคที่แล้ว Ghost Protocol จะมาปรากฏตัวเพียงแค่ช่วงสั้น ๆ ในตอนท้ายเรื่อง) กับการคอยช่วยสนับสนุน อีธาน ในภารกิจเปิดโปงองค์กรลับในครั้งนี้ ในขณะที่วารร้ายของเรื่องอย่าง Solomon Lane ผู้นำขององค์กรลับ Syndicate รับบทโดย Sean Harris (จาก The Stranger) ที่แสดงได้อย่างลึกลับและน่าสะพรึงกลัว ท่าทีที่เย็นชาและเงียบขรึมเหมือนดั่งว่า ตนเองได้คำนวณผลลัพธ์ทุกอย่างไว้หมดแล้วนั้น ทำให้ตัวละครนี้กลายเป็นตัวร้ายที่น่าเกรงขาม และยิ่งทำให้การต่อสู้กับ อีธาน เจ้าหน้าที่มากฝีมือจาก IMF มีความเข้มข้นยิ่งขึ้น โดยสรุป Mission: Impossible – Rogue Nation มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปฏิบัติการรัฐอำพราง ถือเป็นก้าวสำคัญของแฟรนไชส์สายลับแอ็กชั่นที่นำโดยพระเอก ทอม ครูซ ซึ่งยกระดับความเข้มข้นของเรื่องราวไปอีกขั้น ด้วยการเล่าเรื่องที่น่าติดตาม ตัวละครที่มีพัฒนาการ และฉากแอ็กชั่นที่ทั้งเสี่ยงตายและเหนือความคาดหมาย จึงทำให้ Rogue Nation ยังคงเป็นภาคที่โดดเด่นในแฟรนไชส์ พร้อมมอบความบันเทิงที่ทั้งเร้าใจและน่าจดจำได้ในแบบที่คุณคาดไม่ถึง Unrelenting! - AtoMa43 - https://www.youtube.com/watch?v=WCsfq0GrpiI Mission: Impossible – Fallout มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ฟอลล์เอาท์ (2018) SOME MISSIONS ARE NOT A CHOICE. บางภารกิจก็เลือกไม่ได้ Mission: Impossible – Fallout มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ฟอลล์เอาท์ การกลับมาครั้งที่ 6 ของ ทอม ครูซ ในบทบาท อีธาน ฮันท์ เจ้าหน้าที่สายลับแห่ง IMF กับจุดที่สูงที่สุดของแฟรนไชส์ภาพยนตร์แอ็กชันสายลับระดับตำนาน 'มิชชั่นอิมพอสซิเบิ้ล' เล่าเรื่องราว 2 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ในภาคที่แล้ว เมื่อภารกิจขัดขวางการซื้อขายพลูโตเนียมเกิดล้มเหลว ทำให้ อีธาน ฮันท์ (ทอม ครูซ) และทีมเจ้าหน้าที่ IMF ต้องออกตามหาและกู้คืนพลูโตเนียมก่อนที่จะถูกนำไปใช้สร้างอาวุธนิวเคลียร์ ในขณะเดียวกัน เขายังต้องเผชิญหน้ากับศึกรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น August Walker (Henry Cavill) เจ้าหน้าที่ CIA ที่ถูกส่งมาจับตาดูเขาอย่างใกล้ชิด และอดีตศัตรูสุดฉกาจ Solomon Lane (Sean Harris) หัวหน้ากลุ่มองค์กรลับ Syndicate https://x.com/MissionFilm/status/1905341329493950945/photo/1 ผลร้าย...จากเจตนาดีทั้งหมด | 'Christopher McQuarrie' is Back To Continue 'The Mission' Christopher McQuarrie ผู้กำกับคู่บุญของ ทอม ครูซ กลับมาสานต่อความมันส์อีกครั้งใน Mission: Impossible – Fallout ซึ่งถือเป็นภาพยนตร์ภาคแรกในแฟรนไชส์ที่ได้ผู้กำกับคนเดิมกลับมาทำหน้าที่เป็นครั้งที่สอง โดย Christopher McQuarrie ได้นำเสนอสไตล์การเล่าเรื่องที่ต่อยอดมาจากภาคที่แล้ว Rogue Nation พร้อมทั้งยกระดับความเข้มข้นไปอีกขั้น ด้วยการเล่าเรื่องที่ซับซ้อนและเต็มไปด้วยการหักมุมที่คาดไม่ถึง จึงทำให้การดำเนินเรื่องพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างตื่นเต้นเร้าใจ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Fallout โดดเด่นกว่าทุกภาคที่ผ่านมา คือ การสำรวจอารมณ์ที่หนักแน่นของตัวละคร โดยเฉพาะ อีธาน ฮันท์ ที่กำลังจะได้เผชิญหน้ากับผลลัพธ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากทุกการตัดสินใจที่ผ่านมาของเขา พร้อมทั้งสำรวจอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของ อีธาน กับความขัดแย้งภายในจิตใจของเขาว่า 'ในฐานะเจ้าหน้าที่สายลับแห่ง IMF เขาพร้อมที่จะเสียสละอะไรไปบ้างเพื่อภารกิจ' ที่ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ภายใต้ภารกิจเสี่ยงอันตรายที่มีคนทั้งโลกเป็นเดิมพัน แถมเวลาก็มีเพียงอยู่น้อยนิดแบบนี้ แฟรนไชส์ Mission: Impossible ก็ยังมี 'หัวใจ' ของเรื่องราวสะท้อนกันให้เห็น https://x.com/MissionFilm/status/1905341335814766730/photo/1 พุ่งทะยานฟ้าไปกับ 'ทอม ครูซ' | The Limit Can Go Even Higher และแน่นอนว่า หนึ่งในองค์ประกอบที่โดดเด่นที่สุดของ Mission: Impossible – Fallout และเป็นเอกลักษณ์ของแฟรนไชส์ไปโดยปริยายแล้ว คือ ฉากแอ็กชั่นสุดผาดโผนที่สะท้อนถึงความมุ่งมั่นอันไม่ธรรมดาของ ทอม ครูซ ด้วยการท้าทายขีดจำกัดของตัวเองให้เหนือกว่าและเสี่ยงตายกว่าทุกภาคที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในฉากแอ็กชั่นที่ถูกพูดถึงมากที่สุด คือ ฉาก HALO Jump ที่ซึ่ง ทอม ครูซ ต้องกระโดดจากเครื่องบินที่ความสูงถึง 25,000 ฟุต และต้องรักษาระยะห่างจากกล้องเพียง 3 ฟุตกลางอากาศ นั่นจึงทำให้ ทอม ครูซ กลายเป็นนักแสดงคนแรกที่ได้แสดง HALO Jump ในระดับความสูงนี้จริง อีกหนึ่งฉากที่สร้างความตื่นเต้นไม่แพ้กัน คือ ฉากการไล่ล่าด้วยมอเตอร์ไซค์สุดเข้มข้นบนท้องถนนในปารีส ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสไตล์เฉพาะตัวของ ทอม ครูซ ในการแสดงฉากผาดโผนด้วยความเร็วสุดขีด ในขณะที่อีกหนึ่งฉากไฮไลต์สำคัญของภาพยนตร์ คือ ฉากการไล่ล่าด้วยเฮลิคอปเตอร์ที่เข้าขั้นลุ้นระทึกและโคตรบ้าไปแล้ว โดย ทอม ครูซ ได้ลงมือเรียนรู้ ฝึกฝน และขับเฮลิคอปเตอร์ด้วยตัวเองจริง ฉากแอ็กชั่นทั้งหมดใน Fallout ได้ถูกออกแบบและสร้างสรรค์มาอย่างดี ยิ่งช่วยตอกย้ำถึงความยิ่งใหญ่ของแฟรนไชส์ที่ยังคงคอยเสิร์ฟฉากแอ็กชั่นผาดโผนที่สมจริงและตระการตามากที่สุดอย่างไม่มีใครเทียบได้ https://x.com/MissionFilm/status/1904986732543820016/photo/1 เมื่อความอดทนถึงขีดจำกัด | Some Missions, We Just Have To Get Through นอกเหนือจากฉากแอ็กชันสุดอันตรายที่เป็นจุดเด่นของ Mission: Impossible – Fallout แล้ว ผลงานการแสดงของตัวละครก็โดดเด่นไม่แพ้กันจนสามารถเป็นส่วนหนึ่งกับฉากแอ็กชั่นที่เข้มข้นได้อย่างดุเดือด มีมิติ และลงตัว โดยเฉพาะ ทอม ครูซ ในบทบาท อีธาน ฮันท์ ที่พิสูจน์กันให้เห็นกันอีกครั้งว่า เขาคือหัวใจสำคัญของแฟรนไชส์นี้อย่างไม่ต้องสงสัย และในครั้งนี้ เราจะได้เห็นอารมณ์ที่เปราะบางของ อีธาน ที่สะท้อนผ่านการตัดสินใจอันยากลำบากระหว่างภารกิจ และชีวิตส่วนตัวที่เขาต้องละทิ้งมันไว้ข้างหลังมานานแล้ว โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับอดีตภรรยาของเขา Julia Meade (Michelle Monaghan) จาก Mission: Impossible III (2006) ดังนั้น ความทุ่มเทของ ทอม ครูซ ต่อบทบาทนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นผ่านฉากผาดโผนที่น่าทึ่งเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอารมณ์และการพัฒนาตัวละครที่ลึกซึ้ง ทุกความรู้สึกของ อีธาน กำลังถูกทดสอบ และนั่นจึงทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับตัวละครนี้มากยิ่งขึ้น https://x.com/MissionFilm/status/1028264775581544448/video/1 Henry Cavill (จาก Man of Steel) มารับบทเป็น August Walker เจ้าหน้าที่ CIA สุดแข็งแกร่งที่ถูกส่งมาจับตาดู อีธาน อย่างใกล้ชิด ด้วยบุคลิกที่ดูดุดัน แข็งแกร่ง และเฉียบขาด ทำให้การแสดงของเขาในบทนี้เต็มไปด้วยความเข้มข้น และนั่นอาจจะทำให้ตัวละคร August Walker เป็นศัตรูที่น่าเกรงขามที่สุดคนหนึ่งในแฟรนไชส์กันเลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน Rebecca Ferguson กลับมารับบทเป็น Ilsa Faust เจ้าหน้าที่ MI6 ที่มีบทบาทสำคัญในภาคที่แล้ว การกลับมาครั้งนี้ทำให้ตัวละครของเธอมีมิติที่ซับซ้อนขึ้น โดยเฉพาะความสัมพันธ์ที่คลุมเครือระหว่างเธอกับ อีธาน ที่จะถูกสำรวจมากขึ้น การที่เธอเป็นได้ทั้งพันธมิตรและตัวแปรสำคัญในภารกิจเช่นนี้ ช่วยเพิ่มความหมายให้กับเรื่องราว และทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่สำคัญที่สุดในชีวิตของ อีธาน เช่นกัน https://x.com/MissionFilm/status/1022813857989808129/video/1 นักแสดง Simon Pegg และ Ving Rhames กลับมารับบทเป็นตัวละครสำคัญที่ขาดไปไม่ได้ในแฟรนไชส์อย่าง Benji Dunn และ Luther Stickell เจ้าหน้าที่ทีม IMF ที่อยู่เคียงข้าง อีธาน เสมอ และยังคงนำทั้งอารมณ์ขันและช่วงเวลาที่ซาบซึ้งมาสู่เรื่องราวได้ทุกครั้ง เคมีของทั้งสองร่วมกับ ทอม ครูซ ช่วยเพิ่มน้ำหนักทางอารมณ์ต่อภารกิจที่เต็มไปด้วยอันตรายได้เป็นอย่างดี ในขณะที่ตัวละครสาวหน้าใหม่อย่าง Alanna Mitsopolis นายหน้าค้าอาวุธผู้ลึกลับฉายา The White Widow รับบทโดย Vanessa Kirby (จาก Hobbs & Shaw) ซึ่งเธอสามารถดึงดูดความสนใจของผู้ชมได้อย่างมีเสน่ห์และน่าค้นหา ยิ่งทำให้แฟน ๆ ต่างจับตามองว่าตัวละครของเธอจะมีบทบาทเชื่อมโยงกับเรื่องราวในอนาคตของแฟรนไชส์ได้อย่างไร นอกจากนี้ นักแสดง Sean Harris ก็กลับมารับบทเดิมเป็น Solomon Lane หัวหน้ากลุ่มองค์กรลับ Syndicate ที่ถูก อีธาน จับกุมในภาคที่แล้ว ครั้งนี้เขากลับมาพร้อมแผนก่อการร้ายครั้งใหม่ที่มี อีธาน เป็นศูนย์กลางของเรื่องราว การกลับมาของเขาส่งผลให้ตัวละครนี้อาจกลายเป็นศัตรูคู่ปรับตลอดกาลที่สร้างแรงกดดันอย่างมหาศาลให้กับ อีธาน ได้อีกครั้ง โดยสรุป Mission: Impossible – Fallout มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ฟอลล์เอาท์ คือ ที่สุดของความสำเร็จของแฟรนไชส์สายลับแอ็กชั่นสมัยใหม่ ที่ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่าภาคต่อของแฟรนไชส์นี้ยังสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างไม่สิ้นสุด ด้วยฉากแอ็กชั่นที่เร้าใจ เนื้อเรื่องที่น่าดึงดูด พร้อมกับการแสดงที่ทุ่มเท โดยเฉพาะจาก ทอม ครูซ ทำให้มั่นใจได้ว่า Fallout คือ จุดที่สูงที่สุดของแฟรนไชส์ที่สามารถมอบประสบการณ์ชั้นยอดของภารกิจที่ 'เป็นไปไม่ได้' ที่ใคร ๆ ต่างก็หลงรัก The Peak of the Franchise! - AtoMa43 - และเตรียมตัวต้อนรับการกลับมาของ ทอม ครูซ กับภารกิจครั้งใหม่ที่ต่อเนื่องของ อีธาน ฮันต์ พร้อมทั้งผองเพื่อนแห่งหน่วย IMF ทั้งหน้าเก่าและใหม่ที่จะต้องรับมือกับปัญญาประดิษฐ์สุดคาดคิดที่หมายมั่นจะพลิกโฉมโลกโดยที่มีชีวิตของคนทั้งโลกเป็นเดิมพัน และเวลาจุดชนวนมันก็ได้เริ่มนับถอยหลังไปแล้วในภาคที่ 8 ของแฟรนไชส์ 'Mission: Impossible – The Final Reckoning มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ' "I need you to trust me...one last time." (ขอให้เชื่อใจฉัน...เป็นครั้งสุดท้าย) - Ethan Hunt - https://www.youtube.com/watch?v=CUAQn2P13yY ท้ายที่สุด MISSION: IMPOSSIBLE IV - VI คือ ไตรภาคที่สองของแฟรนไชส์แอ็กชั่นสายลับสุดทะเยอทะยานระดับโลกของสุดยอดพระเอกแอ็กชั่นแห่งยุคอย่าง ทอม ครูซ กับบทบาท อีธาน ฮันท์ เจ้าหน้าที่สายลับแห่ง IMF ผู้ไม่ย่อท้อต่อภารกิจสุดอันตราย ด้วยแนวทางการให้ความสำคัญกับการทำภารกิจเป็นทีม ผสมผสานกับความซับซ้อนและเข้มข้นของเนื้อหา ตัวละครทั้งหน้าเก่าและใหม่ที่คอยเสริมความน่าดึงดูดให้กับเรื่องราว พร้อมกับฉากแอ็กชั่นเสี่ยงตายที่ยกระดับความบ้าระห่ำขึ้นไปทุกครั้งที่ออกฉาย ยิ่งตอกย้ำถึงความสำเร็จของแฟรนไชส์นี้ที่ยังคงก้าวกระโดดและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดนิ่ง และในปีนี้ ทอม ครูซ กำลังจะกลับมาอีกครั้งในภารกิจที่ 'เป็นไปไม่ได้' ครั้งใหม่ใน 'Mission: Impossible – The Final Reckoning มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ' ซึ่งคาดว่าจะนำพาผู้ชมไปสู่การปฏิบัติภารกิจสุดท้าทายและดุเดือดกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาแน่นอน Mission: Impossible – Ghost Protocol มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปฏิบัติการไร้เงา, Mission: Impossible – Rogue Nation มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปฏิบัติการรัฐอำพราง และ Mission: Impossible – Fallout มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ฟอลล์เอาท์ สามารถรับชมได้แล้ววันนี้ และเตรียมตัวรับชม Mission: Impossible – The Final Reckoning มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล – ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ นำแสดงโดย Tom Cruise, Hayley Atwell, Ving Rhames, Simon Pegg, Vanessa Kirby, Esai Morales, Pom Klementieff, Henry Czerny, Angela Bassett และ Rolf Saxon กำกับโดย Christopher McQuarrie เลื่อนฉายเร็วขึ้น วันที่ 17 พฤษภาคมนี้ ทุกทางเลือกและทุกภารกิจได้นำมาสู่จุดนี้ บทความที่เกี่ยวข้อง MISSION: IMPOSSIBLE I - III: Tom Cruise กับจุดเริ่มต้นของภารกิจที่ 'เป็นไปไม่ได้'! REVIEW! MISSION: IMPOSSIBLE – Dead Reckoning (2023) ปฏิบัติการเสี่ยงตายสะท้านโลก ขอบคุณข้อมูล รูปภาพและวิดีโอ ภาพปก | ภาพประกอบที่ 1 | ภาพประกอบที่ 2 | ภาพประกอบที่ 3 | ภาพประกอบที่ 4| ภาพประกอบที่ 5 | ภาพประกอบที่ 6 | ภาพประกอบที่ 7 | ภาพประกอบที่ 8 | ภาพประกอบที่ 9 | ภาพประกอบที่ 10 | ภาพประกอบที่ 11 | ภาพประกอบที่ 12 | ภาพประกอบที่ 13 จาก Official X Mission: Impossible คลิป วิดีโอที่ 1 | วิดีโอที่ 2 | วิดีโอที่ 3 | วิดีโอที่ 4 จาก YouTube: Paramount Pictures UK เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !