Series Review The Reluctant Preacher (2025) คุณครู (ไม่) ช่างสอน งานขายเสน่ห์ "อลิซ ฮิโรเสะ" ที่เอาดีได้เพราะเข้าถึงอารมณ์ที่หลากหลายคมคายมีหัวใจทำให้งานที่เหมือนพบได้ทั่วไปยังมีเสน่ห์ในตัว รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ในบทความที่แล้วผู้เขียนเล่าว่าติดตามดูซีรีส์ญี่ปุ่นที่ออกอากาศสดสัปดาห์ละตอนอยู่สามเรื่องที่เริ่มต้นออกอากาศไล่เลี่ยกันทำให้จบไล่เลี่ยกันแต่เป็นคนละเครือข่ายโทรทัศน์ของบ้านเขา อย่างเรื่องก่อนหน้ามาจากทาง TBS ส่วนเรื่องนี้มาตากเครือข่าย NTV ที่เอาจริงถ้าว่ากันที่ชั้นเชิงการเล่าเรื่องก็ไม่ต่างกันมากเพราะอย่างที่บ่นมาหลายครั้งว่าทางญี่ปุ่นจะมีการเล่าเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์แห่งเอกบุรุษ แล้วถ้าถามว่าเรื่องนี้มีอะไรดึงดูดใจให้ผู้เขียนติดตามดูคงต้องบอกว่าเป็นเพราะนักแสดงอลิซ ฮิโรเสะพี่สาวแท้ๆของนักแสดงที่ผู้เขียนชื่นชอบอีกคนน้องซึสึ ฮิโรเสะ แต่ที่ตามมาดูเรื่องนี้เพราะคุ้นหน้าติดตามาจากเรื่องที่แล้วที่เธอแสดงและผู้เขียนก็ติดตามดูเช่นกันคือ AARO: All-domain Anomaly Resolution Office (2024) แต่เรื่องนั้นมันเพราะความน่าสนุกเพราะเป็นแนวลี้ลับพาดทับกับเรื่องวิทยาศาสตร์แต่เรื่องนี้เอาจริงคือดูเพราะนักแสดงล้วนๆโดยไม่สนเนื้อหา โดยที่เริ่มแรกคิดว่าจะลองดูสักตอนก่อนตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือหาเรื่องใหม่ดูแต่เมื่อดูตอนแรกก็กลายเป็นว่าติดหนึบ NEET หรือ Not in Employment, Education, or Training คือคนที่แยกตัวออกจากการศึกษา การทำงาน หรือการฝึกอบรมใช้ชีวิตอย่างไร้แก่นสารไม่ทำอะไรและชิซุกะ อุรุมิ (อลิซ ฮิโรเสะ) คือคนคนนั้น แต่เธอคือคนที่มีศักยภาพที่ด้วยเหตุผลทางใจทำให้ปลีกตัวไปเป็น NEET แต่สิ่งนั้นก็ถูกมองเห็นโดยเคียวโกะ คาโก (โยชิโนะ คิมูระ) ผอ.โรงเรียนมัธยมเมชิน แล้วด้วยความไม่เต็มใจแต่ปฏิเสธไม่ได้ชิซุกะ อุรุมิจึงกลายมาเป็นครูโรงเรียนมัธยมปลายที่เต็มไปด้วยเด็กนักเรียนที่แก่นเซี้ยว จนเมื่อเธอได้มาเป็นครูประจำชั้นเข้าจริงๆก็โดนต้อนรับอย่างสมเกียร์ติโดยเด็กนักเรียนเจ้าปัญหาจนเธออยากกลับไปหมกตัวเป็น NEET ดังเดิมแต่ทำไม่ได้ทำให้เธอต้องเผชิญหน้ากับการท้าทายจากเด็กนักเรียนแล้วสิ่งที่ตามมาคือปัญหาเพราะวาจาที่สาแก่ใจแต่เป็นดาบสองคม แต่แล้วเมื่อกลับไปคิดดูดีๆเธอก็พบวิธีที่จะจัดการเด็กเจ้าปัญหาด้วยการเทศนาหน้าห้องเรียนมันซะเลย แต่เมื่อโรงเรียนที่เต็มไปด้วยเด็กวัยรุ่นปัญหาหนึ่งจบอีกปัญหาก็เข้ามาท้าทายความอดทนของเธอเสียนี่กระไร ยังคงเล่าเรื่องเป็นตอนย่อยจบในตอนตามสไตล์กับเรื่องราวที่ญี่ปุ่นถนัดมือโดยไม่มีเรื่องยาวมาผูกมัด ไม่รู้ว่าผู้เขียนคิดเองไปคนเดียวหรือเปล่าว่าญี่ปุ่นเล่าเรื่องแบบนี้ได้เก่งจริงๆเหมือนกับเป็นงานถนัดมือของทางญี่ปุ่นกับการตั้งคำถามอะไรบางอย่างผ่านความแหกคอกนอกกรอบ บ่อยครั้งที่เรามักเห็นคุณหมอพันธุ์แปลกคุณทนายพันธุ์ป่วนหรือคุณครูพันธ์หายากที่พร้อมแหกทุกขนบในความเป็นอาชีพนั้นๆ แต่ในความแหกที่แหวกกระเจิงนั้นจะมีความคมคายในเรื่องของจิตวิญญาณและจรรยาบรรณที่พึงมีอยู่ในนั้นอย่างเนียนสนิทที่สามารถเห็นได้ทั้งในหนังในซีรีส์ในอะนิเมะหรือมังงะ และเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นแบบนั้นเมื่อนี่คือการตั้งคำถามถึงความเป็นครูและจิตวิญญาณความเป็นครูที่ไม่ใช่แค่หน้าที่แต่มีอะไรมากกว่านั้น แล้วคำถามนั้นถูกถามผ่านคนที่ไม่น่าจะเป็นครูได้ซึ่งในที่นี้คือคนหนีสังคมผ่านการเขียนบทที่ซอยเป็นตอนจบในตอนไม่มีเรื่องยาวมาผูกมัด แต่นั่นแหละที่เจ๋งคือด้วยเวลาที่จำกัดในแต่ละตอนสิ่งที่ว่ามาข้างต้นคือมาครบอย่างแข็งแรงกระตุกใจให้คิดอย่างสมบูรณ์ แม้จะจบในตอนในแต่ละเรื่องแต่เล่าเรื่องได้ครบในทุกแก่นสารความคมคายมีหัวใจบนความหลากหลายเชิงอารมณ์ ความน่าทึ่งของบทละครของเรื่องนี้คือการที่ไม่มีดราม่าระยะยาวมาชวนให้ต้องติดตามแต่กลับสามารถทำให้ไม่อาจปล่อยวางได้ในทุกสัปดาห์ แล้วด้วยเวลาที่มีเพียงตอนละประมาณสี่สิบนาทีในการเล่นประเด็นต่างๆคือครบรูปประโยคมีที่มาที่ไปมีแรงจูงใจเพื่อที่จะไปเทศนาสอนใจในตอนสุดท้าย แน่นอนในทุกตอนแพทเทิร์นจะเป็นแบบนี้แต่สิ่งที่เยี่ยมคือด้วยเวลาเพียงน้อยนิดสามารถจัดวางทุกอย่างอย่างพอเหมาะลงตัวทั้งขำขันสนุกสนานเฮฮาซาบซึ้งตื้นตันปลื้มปริ่มขนลุกขอบตาชื้น ซึ่งอาจเรียกได้ว่ามาครบทุกสิ่งที่พึงมีในทางอารมณ์ที่ตั้งอยู่บนรากฐานที่แน่นหนาของแก่นสารความคมคายความหมายของความเป็นครูและที่ต้องเชิดชูคือการยัดทุกอย่างลงไปในกรอบของเวลาแต่ไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด นั่นทำให้นี่คืองานที่ทั้งคมคายและมีหัวใจอย่างกลมกล่อมลงตัวที่แม้จะไม่มีดราม่าระยะยาวแต่สิ่งที่ทดแทนคือพัฒนาการของเรื่องและตัวละครอย่างเนียนๆ นี่คือความจงใจจะมาเพื่อขายเสน่ห์ของ "อลิซ ฮิโรเสะ" เต็มที่แต่เมื่อบทดีจึงไม่กลายเป็นการแบกเรื่อง เพราะนี่คือครูพันธุ์หายากอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่อาจไม่ห่ามกวนบาทาแต่ว่านี่คือคนที่ไม่เต็มใจเป็นครูที่เรื่องเล่าจะเป็นเรื่องของคนคนนี้คนเดียวที่เป็นศูนย์กลางทั้งเปิดเรื่องและรับจบหรือชงเองกินเอง ดังนั้นนักแสดงที่จะมารับบทนี้จะต้องมีเสน่ห์และพลังดารามากพอที่จะรับผิดชอบซีรีส์ทั้งเรื่องตลอดสิบตอนให้ได้โดยที่ไม่มีใครมาขโมยเรื่องได้ และคนคนนั้นก็คืออลิซ ฮิโรเสะที่เป็นคนรับผิดชอบเรื่องราวทั้งหมดที่ก็ใช่ที่การเล่าเรื่องเป็นตอนย่อยอาจใช้พลังไม่มากเพราะจบในตอนต่างจากการพาเรื่องไปแบบยาวๆ แต่สิ่งที่เป็นคือพัฒนาการของตัวละครที่ไปพร้อมกับเรื่องราวที่สารตั้งต้นคือบทละครดีเป็นตัวนำคือในแต่ละตอนไม่มีริ้วรอยรูรั่วอะไร แล้วคนดูก็ได้เห็นพัฒนาการของอุรุมิเซนเซย์ไปด้วยกันหรือถ้าจะเอาให้แน่นคือเหมือนกับมีพัฒนาการทางจิตใจไปด้วยกัน แม้ว่าในบางเวลาจะเหมือนกับว่าเอาคนสวยอย่างอลิซ ฮิโรเสะมาแกงอยู่บ้างก็เป็นเสน่ห์ของเรื่องอีกอย่างเช่นกัน ดูสนุกในทุกตอนเป็นความบันเทิงที่อธิบายยากว่าเพราะอะไรแรงดึงดูดจึงมากมายแม้จะไม่มีเรื่องยาวให้ติดตามแบบนี้ นี่คือละครหลังข่าวบ้านเขาที่เราเรียกกันว่าซีรีส์ที่ยอมรับว่าอธิบายยากว่าทำไมเรื่องจึงมีแรงดึงดูดให้ติดตามอย่างหนักในการรอการออกอากาศ เพราะนี่คือเรื่องที่เล่าให้จบประเด็นเป็นตอนจบในตอนอาจมีบ้างในช่วงกลางที่มีเชื่อมหากันแต่ไม่ได้เป็นเรื่องในทางยาวที่เริ่มมาตั้งแต่แรกเพื่อไปสู่ไคลแมกซ์สุดท้าย โดยที่ในแต่ละตอนนั้นสิ่งที่ทำให้คนดูสนุกคือการสร้างปัญหามาให้แก้ที่แต่ละปัญหาก็ใช่ว่าจะมามุกใหม่แต่เมื่อตัวละครมันได้ใจไปแล้วอารมณ์ร่วมจึงมาเต็มที่ ทำให้บางครั้งรำคาญหมั่นไส้และเกลียดบ้างก่อนที่จะมาเป็นบทเรียนสอนใจให้ฉุกคิดในตอนท้ายแล้วก็ไปเริ่มปัญหาใหม่ตอนต่อไปที่แทบไม่เกี่ยวเนื่องกัน แต่สิ่งที่เป็นนั้นกลายเป็นว่าในทุกสัปดาห์ก็ต้องเปิดดูข้ามไปดูอีกสัปดาห์ไม่ได้ซึ่งมันก็แปลกดี จึงนับว่าเป็นความบันเทิงที่คุ้มค่าเพราะมาครบทุกอย่างในเวลาแค่สี่สิบบาทีที่ก็บอกยากว่าทำไมถึงน่าติดตามนักจนเมื่อดูจบก็กลายเป็นความประทับใจ ดูไปบ่นไป ขอบคุณภาพประกอบ ภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก Instagram kamisekkyo_ntv จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !