เครดิตภาพ Facebook Officialดูหนังแนวหุ่นยนต์กู้โลกอย่างTransformer กันมาเยอะ หลายภาค วันนี้จะมาแนะนำหนังหุ่นเยนต์ขึ้นสังเวียนชกมวยอย่าง "Rael Steal" กันบ้าง แถมได้ Hugh Jackman เจ้าของบทวูล์ฟเวอรีนผู้โด่งดังจาก X-Men มาเป็นดารานำให้ด้วยหนังเล่าเรื่องถึง ชาร์ลีย์ เคย์ตัน (Hugh Jackman) นักมวยที่ชีวิตตกอับ อยู่ในยุคที่หุ่นยนต์ถูกนำมาใช้งานในการขึ้นสังเวียนแทนนักมวย ชาร์ลีย์จึงทำได้แค่เป็นโปรโมเตอร์ในการนำหุ่นกระป๋องเน่า ๆ ขึ้นชกหาเงินใช้หนี้ไปวัน ๆ จู่ ๆ ชีวิตก็พลิกผัน เพิ่งรู้ตัวว่ามีลูกกับอดีตภรรยาเก่า ชื่อว่า แม็กซ์ (Dakota Goyo) แต่ว่าป้าและสามีของแม็กซ์ก็ต้องการแม็กซ์ไปเลี้ยง เพราะว่าคิดว่าตัวเองพร้อมในทุก ๆ ด้าน ชาร์ลีย์เห็นช่องทางในการหาเงินจากเศรษฐีคู่นี้ จึงวางแผนเอาแม็กซ์มาเลี้ยงชั่วคราว โดยแลกกับเงินก้อนหนึ่งเครดิตภาพ Facebook Officialเมื่อได้เงินมา ชาร์ลีย์ก็นำไปซื้อหุ่นยนต์ตัวหนึ่งซึ่งสามารถใช้เสียงในการสั่งการ และได้รู้ว่า แม็กซ์ ลูกชายของเค้าก็ชื่นชอบและมีความรู้ในวงการหุ่นยนต์ สุดท้ายเจ้าหุ่นที่ทุ่มเงินไปมากมายก็ดันเสียท่าแพ้ และก่อนที่จะหมดท่า ไม่เหลืออะไร แม็กซ์และชาร์ลีย์ก็บังเอิญไปพบกับ Atom หุ่นกระป๋องซ้อมมวยที่ถูกทิ้งไว้ในซากรถ และการแข่งขันที่สร้างความสัมพันธ์ของพ่อลูกก็เริ่มต้นขึ้นนานมากแล้วที่ผมไม่ได้ดูภาพยนตร์ที่ให้ความรู้สึกทั้งตื่นเต้น ทั้งลุ้น และเรียกน้ำตาได้ไปพร้อมกัน ต้องขอบคุณการเขียนบทและการเล่าเรื่องที่ดำเนินอย่างน่าติดตามและน่าสนใจมาก เป็นพล็อต หนังจะให้น้ำหนักไปในเรื่องของฉากแอ็คชั่น การชกมวยของหุ่นสังหาร และความอบอุ่นในความสัมพันธ์ของพ่อที่ห่วยแตกกับลูกชายสุดแสบที่มีหุ่นยนต์ซ้อมมวย ที่อยากจะเป็นแชมป์ซักครั้ง หนังสื่อเรื่องราว ให้คนดูแบบผมเอาใจช่วยให้เจ้าหุ่น Atom ชนะแมทช์การแข่งขัน ไปพร้อม ๆ กับการที่พ่อลูกค่อย ๆ สานสัมพันธ์อย่างอบอุ่นเครดิตภาพ Facebook Official หนังพยายามสื่อให้เห็นถึงความขี้แพ้ของชาร์ลีย์มาก่อน จากนั้นก็ค่อย ๆ พลิกกลับมาเป็นผู้ชนะ จากพ่อที่ไม่เอาไหน กลับมาเป็นพ่อที่อยากจะทำเรื่องดี ๆ เพื่อลูกสักครั้ง และการไม่ยอมแพ้ของเจ้าหุ่นซ้อมมวยอย่าง Atom ทำให้คนดูยิ่งอยากเอาใจช่วยเต็มที่กว่าเดิมครับคะแนนเนื้อเรื่อง 10/10 เป็นหนังที่ผมดูในโรงภาพยนตร์ถึงสองรอบ เนื้อเรื่องที่ดำเนินไปในรูปแบบของการขึ้นสังเวียนในนามหุ่นยนต์ นี่คือพล็อตใหม่ ที่ผมไม่เคยเห็นนะครับ กับการเอาหุ่นมาสู้กันบนสังเวียนมวย ถึงแม้ว่าหุ่นจะไม่เจ็บ แต่คนดูแบบผมกลับสงสารทุกครั้งที่ Atom โดนหมัดคู่ต่อสู้ คือดูและอินตามจริง ๆ และเรื่องราวของเลือดนักสู้พ่อขี้แพ้ ที่ถีบตัวเองขึ้นมาสู่ชัยชนะ และมีชื่อเสียงได้ พร้อมกับเรื่องราวความสัมพันธ์พ่อลูกที่ชวนน้ำตาซึม เครดิตภาพ Facebook Official คะแนนเอฟเฟคต์ 8/10 ที่ไม่เต็ม10 ไม่ใช่ว่าหนังทำเอฟเฟคต์ออกมาไม่ดีนะครับ หนังแสดงเอฟเฟคต์ในส่วนของการเคลื่อนที่อย่างอิสระของหุ่นยนต์ แต่ว่าหนังไม่ได้มีเอฟเฟคต์อลังการตูมตามเหมือนหนังไซไฟ แต่ข้อจำกัดของเอฟเฟคต์ที่มีแต่การเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์ ถือว่าทำได้ดีมากแล้ว ทำให้เรารู้สึกว่าหุ่นยนต์นั้นมีชีวิต ข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์เรื่องนี้1. ความสัมพันธ์ที่อบอุ่นระหว่างพ่อลูก พ่อลูกที่ไม่เคยเจอหน้ากัน แต่มีเหตุต้องกลับมาพบ และมีหุ่นตัวหนึ่งกับแรงใจสู้ที่ไม่มีวันหมด ทำให้ระหว่างที่พยายามฝึกซ้อมและแข่งขัน ทำให้ความสัมพันธ์ของพ่อลูกนั้นค่อย ๆ แน่นแฟ้นขึ้น2. การไม่ยอมแพ้ แม้ Atom จะเป็นแค่หุ่นซ้อมมวย ไม่มีทางเอาชนะพวกหุ่นระดับยักษ์ได้ แต่ใครจะเชื่อว่าหุ่นไม่มีชื่อเสียง โนเนม จะอึด ถึก ทน สามารถสู้กับหุ่นยักษ์มืออาชีพได้อย่างเหนือชั้น 3. การเปลี่ยนจากคนขี้แพ้ มาเป็นผู้ชนะ ชาร์ลีย์ ผู้ชายที่ไม่เอาไหน มาเป็นหนุ่มนักสู้ ที่สู้เพื่อความฝันของลูกชาย ที่อยากจะชนะในแมทช์สังเวียนหุ่นยนต์สักครั้ง แม้ว่าการแสดงออกของความเป็นพ่อจะดูแข็งกระด้าง ไม่อ่อนโยนเหมือนครอบครัวทั่วไปก็ตามถือว่าเป็นภาพยนตร์ในดวงใจของผมอีกเรื่องหนึ่งเลยครับ มันครบรสทั้ง ซึ้ง ลุ้น แอ็คชั่น ทำให้เราอินและเอาใจช่วยให้พ่อลูกคู่นี้ให้เอาชนะหุ่นยนต์ยักษ์บนสังเวียน พร้อมกับเอาใจช่วยให้พ่อลูกคู่นี้จูนความสัมพันธ์กันติดไว ๆ เครดิตภาพปก Facebook Official