สวัสดีค่า กลับมาเจอกันอีกแล้วนะคะ วันนี้ทางผู้เขียนก็ได้ไปดูอนิเมะเรื่องหนึ่งมา ที่ชื่อว่า สุสานหิ่งห้อย หรือ Grave of the Fireflies ของค่าย Studio Ghibli เป็นเรื่องที่สื่อออกมาเกี่ยวกับการต่อต้านสงครามอย่างชัดเจน แต่ไม่ใช่แนวประท้วงอย่างที่ทุกคนเข้าใจนะ เรื่องนี้เป็นแนวสื่อถึงพิษภัยของสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ชวนหดหู่ไปตาม ๆ กัน ถือว่าเป็นแนวดาร์กที่สุดเท่าที่ค่าย Studio Ghibli ทำออกมาเลยก็ว่าได้ เพราะส่วนใหญ่ค่ายนี้จะสร้างอนิเมะแนวเชิงแฟนตาซีหรือคอมเมดี้ที่ดูแล้วให้ควาเพลิดเพลินเสริมจินตนาการไปต่าง ๆ นา ๆ ตามที่ทุกคนเคยได้ดูกัน ไม่ว่าจะเป็น Spirited Away, The Wind Rises เป็นต้น ล้วนเป็นอนิเมะที่เคยได้รับรางวัลมาแล้วทั้งสิ้น รวมถึงเรื่องนี้ก็เช่นกัน เอาล่ะเดี๋ยวเราจะมารีวิวเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ทุกคนได้ลองวิเคราะห์ไปพร้อม ๆ กัน ต้องขอบอกก่อนว่ารีวิวนี้เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนนะคะ ถ้าพร้อมแล้ว ตามกันมาเลย โดยเรื่องนี้จะกล่าวถึงช่วงยุคสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองโกเบ มีสองพี่น้องที่ชื่อว่าเซตะ เป็นพี่ชายอายุ 14 ปีและเซซึโก ผู้เป็นน้องสาวอายุ 4 ขวบทั้งสองกำลังขนเสบียงลงหลุมเพื่อมีอาหารเวลาสงครามสงบ ซึ่งเซตะบอกให้แม่ของเค้าไปที่หลุมหลบภัยก่อน เพราะแม่ของเค้าเป็นโรคหัวใจ และในเวลานั้นเครื่องบินของอีกฝ่ายในสงครามก็กำลังบินผ่านมายังเมืองที่ครอบครัวนี้อยู่ เพื่อปล่อยระเบิดครั้งที่รุนแรงกว่าที่ผ่านมา ทำให้แม่ของเค้าเสียชีวิตจากสงครามนี้ แล้วทั้งสองคนต้องเดินทางไปพักอาศัยอยู่กับป้า แต่ก็ไม่สามารถทนอยู่กับนิสัยของป้าได้ เพราะโดนเอารัดเอาเปรียบมากเกินไป พวกเขาจึงย้ายไปอยู่ที่เหมืองแร่เก่า ๆ แล้วพวกเขาจะมีชีวิตต่อไปยังไง และจะรอดพ้นจากสงครามที่โหดร้ายนี้ไปได้หรือไม่ ต้องไปติดตามที่สุสานหิงห้อยฉบับเต็มเรื่องได้เลยจ้า ส่วนตัวผู้เขียนให้คะแนนเรื่องนี้ไป 7 เต็ม 10 นะคะ เนื่องด้วยพระเอกกับน้องพระเอกมีการกระทำค่อนข้างไม่สมเหตุสมผลเท่าไร จากเรื่อง ดูเหมือนพระเอกเล่นอยู่กับน้องทั้งวัน ไม่ยอมทำงานแบ่งเบาภาระป้า สื่อถึงว่าเป็นคนไม่มีมานะอดทน ใจร้อน หยิ่งผยองเกินไป ส่วนน้องพระเอกก็ดูเอาแต่ใจจนน่ารำคาญ คนอื่นเค้าลำบาก แต่ตัวเองต้องการกินสิ่งที่ตนเองต้องการ ดูแล้วรู้สึกขัดใจ แต่เรื่องนี้ก็ยังแฝงความสัมพันธ์ที่ดีของพี่น้องคู่นี้ได้ดี เป็นความรักบริสุทธิ์ที่พี่น้องมีให้กันระหว่างเหลือกันแค่ 2 คน ส่วนภาพทำออกมาได้ดี ดูแล้วรู้สึกหดหู่ สงครามไม่มีผลดีเลยจริง ๆ โดยทางผู้เขียนจะสื่อถึงพิษภัยของสงคราม ไม่ได้ช่วยให้ใครดีขึ้นเลย ซึ่งหนังดัดแปลงมาจากหนังสืออัตชีวประวัติของ อะคิยูกิ โนซากะ ผู้สูญเสียน้องสาวตัวน้อยๆ ด้วยสาเหตุจากการขาดอาหารระหว่างสงคราม อิงจากคนจริง ๆ ในสมัยนั้น สุดท้ายคนเสียชีวิตจากสงคราม ส่วนใหญ่ล้วนจะขาดสารอาหารทั้งสิ้น หรือไม่ก็พิการตลอดชีวิต คิดแล้วรู้เศร้าใจอย่างบอกไม่ถูกจริง ๆ โดยรวมแล้วเป็นอีกเรื่องอยากแนะนำให้ลองไปดูกันนะคะ ถึงดาร์กแต่ข้อดี ๆ จากเรื่องนี้เพียบเลยจ้า ไม่ว่าจะเป็นความเห็นแก่ตัว ความอดอยาก เป็นต้น เป็นยังไงบ้างกับบทความวันนี้ เป็นอนิเมะที่น่าสลดใจไม่น้อยเลยใช่ไหมเอ่ย อยากลองให้ไปดูกันเยอะ ๆ นะคะ นอกจากรู้ถึงพิษภัยสงคราม เหมือนได้รู้ถึงวิถีชีวิตของคนสมัยนั้นด้วย มันดูเรียบง่ายมาก ถ้าไม่มีเรื่องสงครามขึ้น จะเป็นสมัยที่น่าอยู่มาก ๆ สมัยหนึ่งเลยล่ะ ทุกคนมีความคิดเห็ยว่ายังไง ลองบอกผู้เขียนมาได้เลยนะคะ สำหรับใครที่อยากรับชมสามารถรับชมได้ที่ Madman Entertainment ได้เลยนะคะ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน พบกันใหม่ในคอนเทนต์หน้านะคะ บ๊ายบาย ขอขอบคุณภาพจาก Studio Ghibli