รีเซต

[รีวิวซีรีส์] สาวน้อยจอมพลัง คังนัมซุน ก็ Strong Girl กันแบบซูเปอร์ฮีโร่กันไปเลยสิคะ

[รีวิวซีรีส์] สาวน้อยจอมพลัง คังนัมซุน ก็ Strong Girl กันแบบซูเปอร์ฮีโร่กันไปเลยสิคะ
แบไต๋
19 ตุลาคม 2566 ( 12:00 )
437

ซีรีส์ภาคแยกของ ‘Strong Woman Do Bong Soon | สาวน้อยจอมพลัง โดบงซุน’ บอกเลยว่าเรื่องนี้แค่มีข่าวเปิดกล้องก็ทำเอาแฟน ๆ รอดูแล้วว่า ผู้สร้างจะปั้นสาวน้อยจอมพลังอีกคนออกมาในแนวไหน แล้วผู้สร้างก็ไม่ทำให้แฟน ๆ ผิดหวังซะดวยสิ เพราะ ‘Strong Girl Nam-Soon | สาวน้อยจอมพลังคังนัมซุน’ น่ารัก แสบซนและเก่งกาจ ไม่แพ้ลูกพี่ลูกน้องของเธอเลยสักนิดเดียว

Strong Girl Nam-Soon | สาวน้อยจอมพลังคังนัมซุน เล่าเรื่องราวของ ‘คังนัมซุน’ (อียูมี) สาวน้อยที่มีพละกำลังมหาศาลติดตัวมาตั้งแต่เกิด แบบเดียวกับโดบงซุนเป๊ะ ๆ เธอเติบโตที่มองโกเลียโดยในชื่อ ‘เชเช็ก’ จากการเลี้ยงดูของพ่อแม่บุญธรรม เพราะพลัดหลงกับพ่อเมื่อครั้งที่มาเที่ยวที่นี่ตั้งแต่ 5 ขวบ สามีภรรยาชาวมองโกลก็เลี้ยงดูเธอมาอย่างดีและรักเธอเหมือนลูกแท้ ๆ

แต่คนเราอย่างไรซะก็ต้องกลับไปสู่ต้นกำเนิดของตัวเองในสักวัน เพราะสิ่งเดียวที่เธอจำได้และพอจะนึกออกก็คือ เธอไม่ใช่ชาวมองโกเลีย แต่เธอคือชาวเกาหลีใต้ที่ชื่อว่า คังนัมซุน เธอจึงตั้งใจเรียนภาษาเกาหลีเพื่อจะออกตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง และด้วยการสนับสนุนของพ่อแม่บุญธรรม ก็ทำให้เธอมีวันนั้นเข้าจนได้

สาวน้อยเชเช็กก็เดินทางจากมองโกเลีย สู่กรุงโซล ย่านคังนัมในประเทศเกาหลีใต้ ที่นี่ทำให้เธอได้พบกับ ‘คังฮีชิก’ (องซองอู) ตำรวจสายสืบ สังกัดทีมสอบสวนพิเศษคดียาเสพติด เขาเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเธอตามหาพ่อแม่ จนในที่สุดเธอก็ได้กลับสู่อ้อมกอดของครอบครัวที่ผู้หญิงทุกคนในตระกูลแข็งแกร่งดุจพลังช้างสาร ตรงข้ามกับผู้ชายที่ไม่มีพละกำลังใด ๆ เลย แต่หัวดีและเรียนเก่งกว่าผู้หญิงเท่านั้นเอง แม่ของเธอคือ ‘ฮวังกึมจู’ (คิมจองอึน) เศรษฐีนีชื่อดังแห่งย่านคังนัม ที่มีพละกำลังชนิดล้มช้างได้ทั้งตัว

แถมเธอยังมี ‘กิลจุงอัน’ (คิมแฮซุก) เป็นคุณยายจอมพลังที่หักขาวัวด้วยมือเปล่ากับเขาอีกหนึ่งคน และเมื่อสามสาวซูเปอร์เกิร์ลทั้ง 3 รุ่นมารวมตัวกัน การจะใช้ชีวิตธรรมดาอย่างชาวบ้านชาวเมืองเขาก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ ครอบครัวของเธอก็เลยมีเหตุให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดย่านคังนัม ก็คนมันมีของอ่ะนะคะ ไม่ปล่อยของก็ดูจะอึดอัดยังไงพิลึก และถ้าจะปล่อยของกันทั้งที ก็ควรจะทำความดีให้ดังกระฉ่อนในคังนัมกันไปเลย

อยู่ดี ๆ ก็มีซูเปอร์ฮีโรแห่งย่านคังนัม

เท้าความกันอีกนิดนึงค่ะว่า ในเนื้อเรื่องหลัก ‘Strong Woman Do Bong Soon | สาวน้อยจอมพลัง โดบงซุน’ ซีรีส์ในปี 2017 เล่าถึงโดบงซุน สาวน้อยที่มีพลังเกินมนุษย์มาตั้งแต่เกิด และเกลียดความอยุติธรรมเป็นที่สุด จนเธอต้องออกโรงทำความดีช่วยเพื่อนมนุษย์อยู่ร่ำไป เธอมีความใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักอออกแบบเกม จนตกหลุมรักกับ CEO บริษัทเกมชื่อดัง ก็เป็นเรื่องราวกุ๊กกิ๊ก บู๊ ฮา ที่ทำเอาสาวกเกาหลีสายคอมเมดี้ติดกับทั้งบ้านทั้งเมืองมาแล้ว จนทำให้เกิดโปรเจกต์ภาคแยก ‘Strong Girl Nam-Soon | สาวน้อยจอมพลังคังนัมซุน’ นี้ขึ้นมา

เพราะเมื่อมี โดบงซุน อยู่ในย่านโดบงกู แล้วจะแปลกอะไรล่ะถ้าจะมี คังนัมซุน อยู่ในย่านคังนัมของภาคแยกนี้บ้าง แถมภาคนี้ยังว้าวซ่าไปอีกขั้น ด้วยการฟอร์มทีมซูเปอร์ฮีโรสายครอบครัวขึ้นมาซะเลย โดยปั้นบทให้กิลจุงอัน ผู้เป็นยายของคังนัมซุน เป็นพี่น้องกับคุณยายของโดบงซุนนั่นเอง ก็ถือว่าเป็นการหาเรื่องให้มีทีมซูเปอร์ฮีโร่เกิดขึ้นแบบจำนนในเหตุผลที่เหนือธรรมชาติอยู่เหมือนกันค่ะ เพราะพวกเธอเก่งกาจมาจากพันธุกรรมที่สืบทอดมา 500 กว่าปี เฉพาะทายาทฝ่ายหญิงเท่านั้น

หมายความว่า ผู้หญิงทุกคนในตระกูลจะมีพลังที่เหนือธรรมชาติแบบนี้ทุกคน แต่คังนัมซุนแตกต่างจากผู้หญิงคนอื่นในตระกูลตรงที่ เธอสายตาดีมาก ดีเวอร์ ดีบ่ล้ำบ่เหลือชนิดที่ยืนอยู่ปากซอยสุขุมวิทก็มองเห็นถึงถนนเพชรบุรี แถมเธอยังวิ่งได้เร็วกว่ารถไฟความเร็วสูง และกระโดดได้สูงประหนึ่งได้รับกำลังภายในมาจากต๊กโกวคิ้วป้ายก็ไม่ปาน

แต่พลังนี้ก็มีข้อแม้ว่า สาว ๆ แต่ละคนจะต้องใช้พลังของตัวเองในด้านดีเท่านั้น เพราะถ้าเกิดใช้พลังทำความเลว รังแกคนอื่น พลังนี้จะเสื่อมไปและกลายเป็นคนไม่มีพลังใด ๆ อีก ก็จะเป็นเหตุผลที่ 2 ที่ทำให้สาว ๆ แต่ละคนหยุดเผือกเรื่องชาวบ้านไม่ได้จริง ๆ เห็นใครเดือนร้อนเป็นต้องช่วยและอดรนทนไม่ได้ที่จะต้องผดุงคุณธรรมอยู่เสมอ เพราะพลังที่มีเป็นเหตุให้อยากทำความดีให้มากยิ่งกว่าเดิม จนทำให้สาว ๆ จอมพลังของบ้านนี้ เข้าไปพัวพันกับการปราบปรามแก๊งค้ายาเสพติดแบบตั้งใจ

ก็เรียกว่าเป็นการปั้นบทที่แตกต่างจากภาคหลักอยู่ไม่น้อย จากเรื่องราวรอมคอมที่เป็นรักสามเส้าของสาวน้อยจอมพลัง ที่ต้องเลือกระหว่างรักแรกที่เธอต้องปิดบังตัวตนไม่ให้เขารู้ว่ามีพลัง กับรักใหม่ที่เธอเป็นตัวของตัวเองได้เต็มที่ ผสมกับการสืบสวนสอบสวนเบา ๆ แต่เมื่อเกิดโปรเจกต์ภาคแยก เรื่องราวของการสืบสวนสอบสวนก็เข้มข้นขึ้น และการมีพลังของนางเอกไม่ใช่สิ่งที่ต้องปิดบังใครเลย แถมยังเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชนอย่างไม่หวั่นว่าใครจะตกใจกับพลังมหาศาลของพวกเธอซะด้วย

เป็นการทำทุกอย่างให้เป็นเรื่องธรรมดา ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วมันไม่ธรรมดา จนทำให้เกิดรสชาติที่แตกต่างจากภาคหลักอย่างสิ้นเชิง แถมยังมีความสดใส แสนซื่อของตัวนางเอก มีความฮาอย่างร้ายกาจของคุณยายและแม่นางเอก จนเรียกได้ว่าจากซีรีส์โรแมนติกคอมเมดี้ของสาวน้อยน่ารักในเนื้อเรื่องหลัก ก็กลายมาเป็นซีรีส์ซูเปอร์ฮีโร่พลังหญิง ของสามสาว สามรุ่นที่เต็มไปด้วยความโรแมนติกคอมเมดี้อยู่ในทุกอนูของเรื่อง หลากรสชาติดีจริง ๆ ค่ะภาคนี้

คาแร็กเตอร์แบบนี้ รับรองว่าติดหนึบ

ได้ข่าวว่าภาคแยกนี้เรตติ้งเปิดตัวทำไปได้สูงกว่าภาคหลัก และเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนแตะเลข 2 หลักภายในเวลาที่ออกอากาศมาได้เพียง 4 ตอนเท่านั้นเอง ก็จากการวางคาแร็กเตอร์ให้คังนัมซุนเติบโตที่มองโกเลีย วัน ๆ เลี้ยงแกะ เลี้ยงม้า อาศัยอยู่ในเกอร์ (Ger) ตามวัฒนธรรมของชาวทุ่งหญ้า ทำให้นางเอกของเรื่องมีคาแร็กเตอร์แบบ ‘บ้านนอกเข้ากรุง’ ที่ไม่ได้มาทำตัวเป๋อเปิ่น แต่มาแจกความสดใสและตรงไปตรงมาชนิดที่ใครก็ว่าอะไรเธอไม่ได้

เพราะความเถงตรงและใสซื่อของเธอไม่มีอะไรผิด แถมยังเต็มไปด้วยบรรยากาศชวนขำ ที่ตลอดทั้งเรื่องจะมีการสอดแทรกมุขต่าง ๆ ที่เป็นธรรมชาติมาแบบไม่ขาดสาย ไม่โบ๊ะบ๊ะ แต่ขำจริง เป็นคาแร็กเตอร์ตัวละครที่สร้างรอยยิ้มให้ผู้ชมได้แบบง่าย ๆ แถมด้วยพาร์ตของตัวร้ายที่ทำให้บรรยากาศของเรื่องไม่กระจุกอยู่แค่ความเป็นคอมเมดี้เพียงอย่างเดียว แต่ในความเป็นคอมเมดี้นั้นยังผสมปนเปไปด้วยโลกสีเทาที่ทำให้ขาดฮีโร่มาช่วยโลกไม่ได้เลยจริง ๆ

ด้วยการเสกตัวร้ายหน้าตาหล่อเหลาอย่าง ‘รยูชิโอ’ (บยอนอูซอก) เจ้าพ่อค้ายาผู้อยู่เบื้องหลังยานรกที่กำลังนำความวิบัติมาสู่ผู้คนในคังนัม เพื่อให้สามสาวได้ปล่อยพลังในการปกป้องที่ยิ่งใหญ่กว่าวีรกรรมของโดบงซุนในภาคที่แล้ว และในคาแร็กเตอร์ของตัวประกอบอีกหลาย ๆ ตัวก็เป็นส่วนสนับสนุนให้ซีรีส์เรื่องนี้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น ถ้านี่เป็นการทำสถิติอะไรสักอย่าง ก็ถือว่าแพคมีคยอง ผู้เขียนบททั้งภาคนี้และภาคหลักได้ทำลายสถิติของตัวเองไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะทำได้ดีกว่าภาคแรกในทุก ๆ มิติของรายละเอียดกันเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดต้นสายปลายเหตุของพลังมหาศาลที่ตัวเอกมี หรือแม้กะทั่งการผูกปมต่าง ๆ เอาไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน กลมกลืนในแต่ละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนอรรถรสที่ได้มันมากกว่าจะเป็นโรแมนติกคอนเมดี้ ก็นับได้ว่าเป็นภาคแยกที่ไม่น้อยหน้าหรืออาจจะดีกว่าภาคหลักซะด้วยซ้ำ จากที่ดูมาแค่ 4 ตอนก็สร้างความบันเทิงได้ขนาดนี้แล้ว คาดหวังเลยค่ะว่าตลอดทั้งเรื่องน่าจะมีอะไร ๆ ให้เราได้ขำ ฮา และว้าวซ่ากว่านี้แน่นอน