เจมส์ กันน์ ชี้! การมีแขกรับเชิญแบบไม่จำเป็น คือปัญหาใหญ่ของหนังซูเปอร์ฮีโรยุคนี้
อย่างที่ทราบกันดีว่า ปี 2024 นั้นเป็นปีที่หนังซูเปอร์ฮีโรที่จะจ่อคิวเข้าฉายในโรงหนัง ทั้งจากค่าย Marvel และ DC นั้นมีจำนวนที่บางตาลงที่สุดในรอบหลาย ๆ ปีอย่างเห็นได้ชัด ทั้งจากฝั่ง Marvel ที่แตะเบรก เลื่อนโปรแกรมหนังออกไปจนเกือบหมด รวมทั้ง DC ที่อยู่ในระหว่างเปลี่ยนผ่านสู่จักรวาล DCU (DC Universe) ซึ่งจะสิ้นสุดหลังจาก ‘Aquaman and the Lost Kingdom’ หนังเรื่องสุดท้ายของจักรวาล DCEU เข้าฉายในปีนี้
ซึ่งสถานการณ์ของ DCU ในตอนนี้ก็เลยต้องฝากไว้กับ เจมส์ กันน์ (James Gunn) และ ปีเตอร์ ซาฟราน (Peter Safran) ผู้บริหารร่วมของ DC Studios ที่จะผลักดันหนังของ DC ให้สำเร็จได้ดังใจเสียที โดยเฉพาะโปรเจกต์แรกอย่าง ‘Superman: Legacy’ หนังเรื่องแรกของบทที่ 1 หรือ ‘Chapter 1’ ของ DCU ที่ตอนนี้เขียนบทเกือบเสร็จแล้ว และมีกำหนดฉายในวันที่ 11 กรกฏาคม ปี 2025 ซึ่งมีแฟน ๆ ที่เห็นนักแสดงและตัวละครบางส่วนที่เปิดเผยออกมาแล้ว ต่างก็แสดงความกังวลว่า หนังเรื่องนี้จะมี Cameo ล้นจนทำหนังแป้กหรือเปล่า
กันน์ ในฐานะผู้กำกับและเขียนบทหนังเรื่องนี้ ได้แสดงความคิดเห็นผ่าน Threads ถึงวิสัยทัศน์ของเขาเกี่ยวกับการปรากฏตัวของบรรดาแขกรับเชิญ หรือ Cameo ในหนังเรื่องต่าง ๆ ที่ถือเป็น 1 ในกิมมิกที่ถูกใช้บ่อยของบรรดาหนังซูเปอร์ฮีโร ซึ่งเขาได้ชี้ให้เห็นว่า เขากำลังจะใช้หนังเรื่องนี้เพื่อสร้างจักรวาล โดยไม่ได้ยัดเยียด Cameo ลงไป และยังชี้ว่า การใส่ Cameo ที่ไม่มีความจำเป็นในหนังนั้น ส่งผลเสียต่อหนังซูเปอร์ฮีโรในยุคหลัง ๆ ได้มากมายแค่ไหน
“ผมเรียกสิ่งนี้ว่าเป็น ‘Cameo Porn’ (การยั่วเย้าด้วยบรรดาแขกรับเชิญ) นะ และมันเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่เลวร้ายที่สุดของหนังซูเปอร์ฮีโรยุคนี้ หากจะต้องมีตัวละครไหนอยู่ในภาพยนตร์ ก็ควรจะมีเหตุผลที่จะให้พวกเขาต้องอยู่ตรงนั้นตามเนื้อเรื่อง”
“ผมไม่รังเกียจการมี Cameo หรอกนะ หากเป็นแค่การมาแบบแวบ ๆ หรือมาแค่แป๊บเดียว ถือว่ามาเป็น Easter Egg สิ่งที่มันกวนใจผมก็คือ เมื่อพวกเขา (Cameo) เข้ามาปะปนเรื่องราวที่สง่างาม ด้วยการยัดตัวละครเข้ามาให้มันดูเต็มเฉย ๆ พวกเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นเพราะว่าจำเป็นต้องมีพวกเขาในเรื่องราว แต่ด้วยเหตุผลอื่นบางอย่าง”
หนังของกันน์เองก็ใช่ว่าจะไม่มี Cameo เลย โดยเฉพาะ ‘Superman: Legacy’ ที่แม้จะยังไม่เริ่มถ่ายทำ แต่กลับปรากฏลิสต์ชื่อนักแสดงที่จะมารับบทจากคาแรกเตอร์ในคอมิกของ DC ชนิดที่เรียกว่ามากันเป็นพรวน อาทิ เดวิด คอเรนสเว็ต (David Corenswet) ที่จะรับบทเป็น คลาร์ก เคนต์ ซูเปอร์แมนแห่งจักรวาล DCU สกายเลอร์ จีซอนโด (Skyler Gisondo) รับบทเป็น จิมมี โอลเซน, ราเชล บรอสนาแฮน (Rachel Brosnahan) รับบทเป็น ลูอิส เลน, อิซาเบลา เมอร์เซด (Isabela Merced) รับบทเป็น Hawkgirl, นาธาน ฟิลเลียน (Nathan Fillion) รับบทเป็น Green Lantern, นิโคลัส เฮาลต์ (Nicholas Hoult) รับบทเป็น Lex Luthor
หรือแม้แต่ ฌอน กันน์ (Sean Gunn) น้องชายของ เจมส์ กันน์ ที่จะรับบทเป็น Maxwell Lord ในหนังเรื่องใดเรื่องหนึ่งของ DCU ในอนาคต หลังจากที่ก่อนหน้านี้ถูกวางตัวไว้ให้เป็น 1 ในทีมพากย์เสียงของซีรีส์แอนิเมชัน ‘Creature Commandos’ ด้วย
ซึ่งหลังจากประกาศออกมา ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย ทั้งวิจารณ์ว่า งานนี้ใช้คอนเน็กชันพี่น้อง (อีกแล้ว) รวมทั้งคาแรกเตอร์ของฌอนที่ดูไม่เหมาะสมกับบทบาท และรวมถึงการ ‘แหกกฏ’ ที่ตัวเองพูดไว้ตอนเปิดรายชื่อไตเติลชุดแรกของ DCU ว่าจะใช้ตัวละครเดียวกันทั้งนักแสดงและนักพากษ์ ซึ่งกันน์ได้ออกมาอธิบายตอบโต้ว่า
“ผมพูดอย่างชัดเจนมากว่า โดยปกติแล้วนักแสดงจะรับบทบาทเดียวบนหน้าจอ และพูดว่าสำหรับนักพากย์นั้นมันไม่เหมือนกัน ทั้งฌอน, อลัน ทูดิก (Alan Tudyk), มาเรีย บากาโลวา (Maria Bakalova), สตีฟ เอจี (Steve Agee) หรือคนอื่น ๆ ล้วนมีหลายบทบาทใน ‘Creature Commandos’ อยู่แล้ว ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะรับบทอื่น ๆ บนหน้าจอไม่ได้ แล้วคุณ (กับคนแค่หยิบมือ) มีความจำเป็นอะไรที่ต้องเชื่อว่าผมโกหก ทั้งที่คุณเองดูเหมือนจงใจเพิกเฉยในสิ่งที่ผมพูดด้วยล่ะ ? “
แน่นอนว่า หลังจากที่กันน์ได้แสดงความคิดเห็นว่า Cameo คือสิ่งที่เป็นปัญหาต่อหนังซูเปอร์ฮีโร หลายคนก็ออกมาโต้แย้งว่า ที ‘Superman: Legacy’ ดันมีรายชื่อ Cameo (ที่ยืนยันแล้ว) ออกมาเพียบ ซึ่งเขาเองก็ได้อธิบายถึงแนวคิดของการมีตัวละครที่เป็น Cameo เหล่านี้ว่า
“หนังที่มีตัวเอกเดี่ยว ๆ เรื่องไหนที่ไม่มีตัวละครที่มีบทพูดไม่เกิน 10 ตัวบ้าง ? เดี๋ยวจะมีมามากกว่านี้อีก”
“ประเด็นทั้งหมดก็คือ มันไม่ได้เป็นหนังฟอร์มยักษ์ ผมหมายถึงไม่ใช่ในแง่ของนักแสดงนะ เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่หนังที่มีตัวเอกเดี่ยว ๆ จะมีตัวละครอื่น คือมันจะดูผิดปกติมากกว่าถ้าไม่มีพวกเขาน่ะนะ”
ที่มา: Total Film, Screen Rant