"ธี่หยด 2" วันนี้เราจะมา รีวิวหนังธี่หยด 2 หนังผีที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ได้กลับมาอีกครั้งในภาคที่ 2 บน Netflix พร้อมกับเรื่องราวที่เข้มข้นขึ้น ความลี้ลับที่ยังไม่ถูกเปิดเผย และความสยองขวัญที่ขยายขอบเขตไปไกลกว่าเดิม ครั้งนี้ "ยักษ์" (ณเดชน์ คูกิมิยะ) ต้องเผชิญหน้ากับอดีตที่เขาไม่อาจหลีกหนีได้ เขาจะหนีมันไปได้ยังไงก็ในเมื่อเสียงกระซิบของ "ธี่หยด" ยังคงดังก้อง และตำนานที่เขาคิดว่าจบลงแล้วกลับไม่ได้เป็นแบบนั้น... “บางครั้งสิ่งที่น่ากลัวที่สุด อาจไม่ใช่ผี... แต่เป็นอดีตที่เราหนีไม่พ้น” ก็ได้นะ ทุกคนคิดเหมือนกันไหม...? รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! ในครั้ง ธี่หยด 2 ไม่ได้เป็นเพียงแค่หนังผี แต่เป็นการผสมผสานระหว่าง ความลึกลับ สยองขวัญ และฉากแอ็กชัน ที่จะพาเราไปลุ้นจนแทบหยุดหายใจ เพราะเมื่อเสียง "ธี่หยด" ดังขึ้นอีกครั้ง มันอาจไม่ใช่แค่เสียงของคนตาย... แต่มันคือเสียงที่เรียกให้ย้อนกลับไปเผชิญหน้ากับสิ่งที่ถูกลืมเลือนไปแล้วก็ได้ ปะ เลื่อนลงไปอ่านกันดีกว่า เรื่องย่อหนัง ธี่หยด 2 เมื่อเวลาผ่านไป เราอาจจะลืมเรื่องราวบางอย่าง... แต่บางสิ่งไม่เคยหายไป และมันกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้งกับ “ยักษ์” (ณเดชน์ คูกิมิยะ) เรื่องราวจะพาเรากลับไปยังสถานที่ที่เต็มไปด้วยอดีตที่ยังไม่จบ เพื่อตามหาคำตอบ และพยายามปิดตำนานของ “ธี่หยด” ให้จบลง แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด เมื่อความลับในอดีตถูกเปิดเผย และพวกเขาต้องเผชิญกับฝันร้ายที่โหดร้ายยิ่งกว่าเดิม หนังไม่ได้เน้น "ความเงียบหลอน" แบบภาคแรก แต่ไปทางแอ็กชัน-สยองขวัญ ใน "ธี่หยดภาค 2" หนังไม่ได้เน้นความเงียบหลอนแบบภาคแรกที่ทำให้รู้สึกขนลุกไปทั้งตัว แต่มาเปลี่ยนโทนไปทางแอ็กชันและสยองขวัญมากขึ้น การเล่าเรื่องถูกขยับให้มีความตื่นเต้นและดุดันมากกกก รวมถึงฉากแอ็กชันที่มีการต่อสู้หรือการเผชิญหน้ากับสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ ก็ทำให้หนังมีความเข้มข้นสุด ๆ คือในภาคแรก "ธี่หยด" จะเน้นที่บรรยากาศเงียบ ๆ หลอน ๆ ที่ค่อย ๆ สะสมความตึงเครียดไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งถึงจุดพีค แต่ภาคนี้กลับเลือกที่จะใส่ความตื่นเต้นและสยองขวัญที่มีฉากแอ็กชันมากขึ้น ทำให้หนังมีจังหวะที่เร็วกว่าภาคแรก บางฉากทำให้คนดูรู้สึกตื่นเต้นจนลืมไปเลยก็ได้ว่าเราอยู่ในหนังสยองขวัญอยู่ แต่มันก็ไม่ได้เเย่นะคะ การเปลี่ยนโทนในภาคนี้ทำให้หนังแตกต่างจากภาคแรกที่เน้นความสยองในบรรยากาศ ที่ชวนให้กลัวความเงียบสงบ แต่ภาคนี้มีความโหด มันส์ และมีฉากที่กระตุ้นอารมณ์ความกลัว ความตื่นเต้น อยู่ตลอดเลยค่ะ Jump Scare ใครที่สาย Jump Scare ไม่ผิดหวังเเน่นอนค่า มี Jump Scare แน่นอน แต่ถึงจะรู้ว่ามันจะมาตอนไหน เราก็ยังสะดุ้งอยู่ดี! คนข้าง ๆ ก็ตกใจนะ ไม่ได้ตกใจหนัง ตกใจเสียงเรานี่แหละ! ตำนาน "ธี่หยด" จริงๆ แล้วภาคนี้ตำนาน "ธี่หยด" ขยายเรื่องราวได้ดีขึ้นนะ มันทำให้เราเห็นเหตุผลที่มันกลายเป็นความอาฆาตขนาดนี้ได้ชัดเจนขึ้นด้วย แบบเชื่อมโยงกับข่าวหรือเหตุการณ์ในปัจจุบัน ทำให้มันดูมีมิติและเข้าใจง่ายขึ้น อย่างที่ไม่เคยเห็นในเวอร์ชั่นก่อน ๆ แต่บางช่วงเราก็รู้สึกว่าเล่าเร็วไปหน่อยนะ โดยเฉพาะกับตัวละครบางตัวอะนะ การที่มันรีบไปหน่อยอาจจะทำให้บางเรื่องมันขาดความลึกหรือไม่ค่อยมีเวลาให้เราทำความเข้าใจกับมันจริง ๆ ส่วนฉากแอ็กชันที่สนุกมันก็ดี แต่ก็เหมือนมันทำให้ตัวละครหรือเรื่องราวบางจุดหายไปบ้าง ส่วนตัวมองว่าถ้าให้เวลาและความสำคัญกับการขยายปมของตำนานหรือการพัฒนาตัวละครมากกว่านี้อีกหน่อย เรื่องมันน่าจะดูสมบูรณ์ขึ้นมากเลย เพราะพอมันเชื่อมโยงกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นจริง ๆ ตัวละครก็จะดูมีความลึกมากขึ้นแล้วรู้สึกว่าเรื่องนี้มันสำคัญจริง ๆ ไม่ใช่แค่มีแอ็กชันให้ตื่นเต้นเฉย ๆ มุกตลกช่วยผ่อนคลาย มุกตลกใน "ธี่หยดภาค 2" ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ได้ดีจริงๆ นะ โดยเฉพาะตอนที่เราเริ่มรู้สึกว่าบรรยากาศหนังมันเริ่มหนักหน่วงไปแล้ว พอมุกออกมาทีไร มันทำให้ยิ้มได้ทันที เหมือนหนังรู้ว่าเราต้องการพักหายใจบ้าง ธี่เดินทางกลับมา ภาค 1 เฉย ๆ มากกับเพลงนี้ พอภาค 2 แกเอ้ยย น้ำตาร่วงเผาะ ๆ โคตรอิน เพลงนี้ไม่ใช่แค่เสียงดนตรี หรือเนื้อร้อง แต่มันคือการสะท้อนความรู้สึกที่อยู่ในใจของตัวละครในตอนนั้น เหมือนทุกคำในเพลงมันบีบหัวใจให้แน่นขึ้น มันเหมือนการเดินทางที่ไม่มีทางกลับ แต่ในความเศร้านั้นกลับซ่อนความสวยงามของการปล่อยวางและการยอมรับ เพลงนี้ก็ยิ่งทำให้คนที่เคยผ่านการสูญเสียมาแล้วรู้สึกว่า "เฮ้ย ฉันไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกแบบนี้" มันเหมือนเป็นเสียงของความทรงจำที่ไม่สามารถกลับมาอีกครั้ง แต่เราแค่ต้องยอมรับและเดินต่อไป เพลงนี้ส่งความรู้สึกนั้นออกมาได้อย่างไม่มีที่ติเลยค่ะ โปรดักชั่นหนัง "ธี่หยด 2" ต้องบอกว่าโปรดักชั่นในภาคนี้ดีขึ้นเยอะเลยนะ ยิ่งใหญ่ขึ้นมาก! เริ่มจากการถ่ายทำ คือฉากนี้มันมีมุมกล้องที่ทำให้เรารู้สึกอินมากขึ้น รู้สึกแบบจมไปในเรื่องเลยอ่ะ ทุกฉากที่มีความเครียดหรือดราม่า มันจะมีการจัดแสง-เงาที่ช่วยเสริมอารมณ์ได้ดีมาก ทำให้แบบรู้สึกว่าทุกอย่างมันจริงจังมากขึ้น แล้วคือเรื่องของการออกแบบฉากก็สุด ๆ คือฉากต่าง ๆ ในเรื่องมันดูเหมือนจริงเลยนะ มีความลงตัวกับบรรยากาศ บางฉากก็ถ่ายในสถานที่ที่เหมือนจริงจังมาก แบบมองไปแล้วอยากเข้าไปอยู่ในโลกนั้นเลย แต่มันก็ยังมีความแตกต่างจากชีวิตจริงที่มันดูลึกลับกว่า ส่วนเรื่องเสียงและดนตรีประกอบก็โคตรสำคัญเลย เพลงบางเพลงมันเข้ากับอารมณ์ตัวละครมาก ๆ บางฉากก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้นหรือเครียดได้โดยไม่ต้องพูดอะไรเลย โดยรวมแล้วภาคนี้โปรดักชั่นทำได้ดีมากกว่าเดิม คือถ้าใครเคยดูภาคแรกแล้วชอบ ภาคนี้ไม่ผิดหวังแน่นอน! มันเหมือนเขาพัฒนาไปไกลขึ้นอีกขั้นเลยอ่ะ https://youtu.be/lxERvQebCww?si=oaxI7Pjjfh4-PKaa 9/10 สำหรับ "ธี่หยด 2" ก็ยังคงต่อเนื่องมาจากภาคแรก ที่ครั้งนี้เนื้อเรื่องมีความเข้มข้นขึ้น พร้อมกับการดึงเอาความรู้สึกของตัวละครมาให้เราได้เห็นกันชัด ๆ มากขึ้น โดยมีประเด็นต่าง ๆ ที่สะท้อนความคิดและความรู้สึกของตัวละครในเรื่อง ทั้งการต่อสู้กับปัญหาภายในใจและการตัดสินใจที่ยากลำบาก พวกเขายังคงพยายามรักษาความสัมพันธ์และมองหาทางออกจากความขัดแย้งต่าง ๆ ที่เข้ามาในชีวิต การแสดงของนักแสดงก็ยังคงดีไม่แพ้ภาคแรกเลย โดยเฉพาะช่วงที่ตัวละครต้องแสดงอารมณ์ที่ขัดแย้งหรือกำลังตัดสินใจในเรื่องยาก ๆ แม้บางช่วงเนื้อเรื่องอาจจะดูช้าไปบ้าง หรือบางฉากก็ไม่ได้ตื่นเต้นสุด ๆ แต่ยังคงทำให้เราติดตามเรื่องราวต่อไปได้ค่ะ ขอขอบคุณภาพประกอบจาก ภาพประกอบ Major Group 1/2/3/4/5/ Netflixth หน้าปก วิดีโอ Major Group ตัวอย่างหนังธี่หยด 2 - Official Teaser เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !