"เพราะในโลกที่ไวรัสคลั่งระบาด ความไว้ใจอาจกลายเป็นอาวุธที่อันตรายที่สุด" รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! https://youtu.be/BfTwm5KSooA?si=FO0zfEmh1Ow7msQ9 กระแสซีรีส์โรคระบาดยังแรงต่อเนื่อง! Happiness เวอร์ชั่นไทย ออนแอร์ไปแล้ว 6 ตอน แต่ความระทึกยังเดินหน้าทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จนขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งซีรีส์มาแรงบน TrueID ที่ชาวโซเชียลพูดถึงไม่ขาดสาย ช่วงนี้ใครเป็นสายดูซีรีส์ คงคุ้นชื่อ Happiness เวอร์ชั่นไทย ที่ขึ้นมาบนหน้าไทม์ไลน์กันบ่อยมาก หลังออนแอร์ไปแล้ว 6 ตอน ก็เรียกกระแสความสนใจจากทั้งแฟนซีรีส์เกาหลี และคอซีรีส์ไทยได้อย่างล้นหลาม โดยเฉพาะเมื่อมีการหยิบเนื้อหาจากซีรีส์เกาหลีสุดฮิตอย่าง Happiness (2021) ซีรีส์แนวโรคระบาด-ซอมบี้-ดิสโทเปีย ที่โด่งดังไปทั่วเอเชีย คราวนี้ทีมผู้สร้างไทยอย่าง True CJ Creations นำมาดัดแปลงใหม่ในเวอร์ชั่นไทย ผ่านการตีความใหม่ที่น่าสนใจและเข้ากับบริบทของสังคมไทยได้อย่างกลมกลืน ทั้งประเด็นความเหลื่อมล้ำในคอนโดหรูใจกลางกรุงเทพฯ ความไว้ใจของผู้คนในสังคมปิด และการเอาชีวิตรอดจากฝูงคนคลั่ง ที่พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ ด้วยพล็อตเรื่องชวนลุ้นระทึก ผสมดราม่าความสัมพันธ์ และฉากระทึกที่ทำเอาคนดูแทบหยุดหายใจ 🎬 ข้อมูลเบื้องต้น ชื่อเรื่อง: Happiness (2025) เวอร์ชันไทย แนว: แอ็กชันทริลเลอร์ / ดราม่า / ระทึกขวัญ ผู้ผลิต: True CJ Creations รับชม: ดูฟรีทุกตอน ทาง TrueID 🎬 ผังตัวละคร ถ่ายทอดเรื่องราวของคอนโดที่ถูกปิดตายเพราะการระบาดของไวรัสคลั่ง นำโดย ปราชญ์ (เซ้นต์ ศุภพงษ์) สารวัตรสืบสวนที่ต้องร่วมมือกับ รัน (อร พัศชนันท์) ตำรวจหน่วยควบคุมพิเศษ ฝ่าฟันฝูงคนคลั่งไปพร้อมกับผู้พักอาศัยหลากหลายคาแรคเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นหมอบีม (เพชร เผ่าเพชร), ทัตเทพ (หน่อง ธนา), ฟา (น้ำเพชร อิสรีย์), รังรอง (น้ำใส พิชญาภา) ฯลฯ แต่ละตัวละครล้วนมีปมซ่อนอยู่ภายใต้สถานการณ์สุดระทึก ที่จะทดสอบทั้งความไว้ใจและความเป็นมนุษย์ของทุกคนในคอนโด 🎬 ทีมนักแสดง นักแสดงนำ: เซ้นต์ ศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา รับบท ปราชญ์ (ต้นฉบับ: จองอีฮยอน) “ในโลกที่ทุกคนเริ่มคลุ้มคลั่ง... เขากลับยืนหยัดด้วยเหตุผลและความเชื่อในความถูกต้อง" นายตำรวจสายสืบผู้ยึดมั่นในความถูกต้อง กลายเป็นหนึ่งในตัวละครที่ต้องแบกทั้งศีลธรรมและชีวิตของผู้คนเอาไว้ท่ามกลางคอนโดที่ถูกปิดตายจากการระบาดของไวรัสคลั่ง แต่สิ่งที่น่ากลัวอาจไม่ใช่แค่ฝูงคนคลั่ง... เพราะในขณะที่ไวรัสแพร่กระจาย ความหวาดระแวงและความเห็นแก่ตัวก็ก่อตัวขึ้นในหมู่ผู้อยู่อาศัย จนปราชญ์ต้องเผชิญกับการตัดสินใจยากๆ ในทุกวินาที — ระหว่างการยึดถือกฎแห่งความถูกต้อง หรือการยอมเสียศีลธรรมเพื่อความอยู่รอดของตัวเองและคนที่รัก เซ้นต์-ศุภพงษ์ ถ่ายทอดบทบาทของปราชญ์ออกมาได้อย่างกลมกล่อม ทั้งความสุขุม ความมุ่งมั่น ความสับสนในใจเมื่อต้องตัดสินใจในสถานการณ์คับขัน และความอ่อนโยนเวลาที่ต้องปกป้องผู้คนที่เขารัก โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับ "รัน" (อร-พัศชนันท์) ที่เคมีทั้งคู่ช่วยเพิ่มความลึกให้กับตัวละครและเนื้อเรื่อง อร พัศชนันท์ เจียจิรโชติ รับบท รัน (ต้นฉบับ: ยุนแซบอม) ภายใต้สถานการณ์โรคระบาดที่ไร้ความแน่นอน "รัน" คืออีกหนึ่งคีย์สำคัญของ Happiness (2025) ที่ดึงสายตาคนดูตั้งแต่ฉากแรก รันคือตำรวจหน่วยปราบปรามพิเศษที่ทั้งเก่งกาจ เด็ดเดี่ยว และกล้าตัดสินใจในทุกสถานการณ์วิกฤต แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เป็นตัวแทนของคนธรรมดาที่ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดท่ามกลางความสับสน ความหวาดระแวง และความไม่ไว้ใจกันในคอนโดที่ถูกปิดตาย อร-พัศชนันท์ ถ่ายทอดบทบาทของรันออกมาได้อย่างแข็งแกร่ง ในแต่ละฉากคนดูจะได้เห็นทั้งความมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว และความเปราะบางที่ค่อยๆ เปิดเผยเมื่อเธอต้องเผชิญกับความโหดร้ายของทั้งโรคระบาด และคนรอบข้างที่เริ่มไม่ไว้ใจกันเอง นอกจากนักแสดงนำทั้งสอง ยังมีนักแสดงสมทบที่ช่วยเพิ่มความเข้มข้นของเรื่องอย่างมาก อาทิเช่น ดอม เหตระกูล รับบท ยุทธศักดิ์ นุ้ย เกศริน รับบท อลิสรา เพชร เผ่าเพชร รับบท หมอบีม มินนา วณิชน์ญา รับบท ยาหยี หน่อง ธนา รับบท ทัตเทพ มิ้งค์ ยูมิโกะ รับบท เนตร น้ำใส พิชญาภา รับบท รังรอง น้ำเพชร อิสรีย์ รับบท ฟา พลัสเตอร์ ภัทร์นิธิ รับบท จือ เพลง ภตภร รับบท โศภิดา ต้อง สมิตพงศ์ รับบท โยชิ เสี่ยวหลิง กมลรัตน์ รับบท เอม เพียว ดวงใจ รับบท ป้าหน่อย ทุเรียน สุพจน์ รับบท ลุงเต๋า แม่ต๋อย นฤมล รับบท ยายจินตนา ปพน จิรหิตะภัทร รับบท ตาชาญ แจ็คไรเดอร์ รับบท ป้อ เกตุ ธัญญา รับบท พี่จุ๊ เคมีระหว่างรันกับปราชญ์ก็กลายเป็นอีกจุดแข็งของเรื่อง เคมีคู่พระนางของ เซ้นต์-อร ถ่ายทอดบทบาทได้เข้มข้นไม่แพ้ต้นฉบับเกาหลี ทั้งฉากดราม่าความสัมพันธ์ และฉากแอ็กชันสุดลุ้นระทึก ที่ต้องร่วมมือฝ่าคนคลั่งในคอนโดปิดตาย แม้ต้องเผชิญสถานการณ์คับขัน แต่ทั้งคู่ต่างคอยพยุงกันและกัน ความสัมพันธ์ที่ค่อยๆ เติบโตท่ามกลางความโกลาหลนี้เอง ทำให้เรื่องราวของ Happiness (2025) ไม่ได้มีแค่ฉากหนีตายสุดระทึก แต่ยังมีมิติความสัมพันธ์ที่ทำให้คนดูอินไปพร้อมกัน — ทำเอาชาวเน็ตหลายคนออกปากว่า "สนุกกว่าที่คิดไว้!" ซึ่งถือเป็นการโคจรกลับมาเจอกันอีกครั้ง หลังเคยฝากผลงานคู่กันมาแล้วในซีรีส์รีเมคแฟนตาซีสายบู๊ 'Let's Fight Ghost คู่ไฟท์ไฝว้ผี (2021)' ที่แฟนๆ ต่างประทับใจในเคมีตั้งแต่ตอนนั้น พล็อตเรื่องเข้มข้นตั้งแต่ EP.1: เมื่อไวรัสคลั่งคุกคามเมือง เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อโลกต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสปริศนา ที่ทำให้ผู้ติดเชื้อมีอาการกระหายน้ำอย่างรุนแรง ก่อนจะเปลี่ยนสภาพเป็น "คนคลั่ง" หรือกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ก้าวร้าวและอันตรายขั้นสุด ที่เต็มไปด้วยความดุร้าย ควบคุมสติไม่ได้ สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้คนทั่วเมือง อาละวาดอย่างควบคุมไม่ได้ ไม่ต่างจากซอมบี้แบบที่เราเคยเห็นในหนังแนวโรคระบาดทั่วโลก ในระหว่างสถานการณ์ที่ทุกอย่างกำลังวุ่นวาย "ปราชญ์" (เซ้นต์-ศุภพงษ์) นายตำรวจหนุ่มสายสืบ ผู้ยึดมั่นในความถูกต้อง และ "รัน" (อร-พัศชนันท์) ตำรวจหน่วยควบคุมพิเศษ ซึ่งแต่งงานกันปลอมๆ เพื่อให้ได้อยู่ในอพาร์ตเมนต์ข้าราชการ แต่เมื่อเกิดโรคระบาดจึงต้องร่วมมือกันต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ท่ามกลางฝูงคนคลั่งในคอนโดหรูใจกลางเมืองที่ถูกปิดตาย ผู้พักอาศัยต่างต้องเผชิญความกดดัน ทั้งจากความไม่ไว้วางใจกันเอง ความขัดแย้ง ความหวาดระแวงกัน และฝูงคนคลั่งที่อาจระบาดขึ้นได้ทุกเมื่อ พร้อมทั้งค่อย ๆ เปิดโปงเบื้องหลังของการระบาดครั้งนี้ ที่เชื่อมโยงไปถึงยา 'NEXT' — ยาตัวใหม่ที่ถูกโฆษณาว่าช่วยฟื้นฟูร่างกายได้อย่างมหัศจรรย์ แต่กลับมีผลข้างเคียงที่เลวร้ายเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด เปลี่ยนผู้ใช้ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่กระหายน้ำ ก้าวร้าว และไร้ซึ่งสติ ยาแห่งความหวัง…ที่กลายเป็นต้นเหตุของหายนะ ดำเนินเรื่องมาถึง EP.6 แล้ว แต่ความระทึกยังจัดเต็มทุกตอน ทั้งแอ็กชัน ดราม่า และปมที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเดินเรื่องมาถึง EP.6 ก็ยังคงจัดเต็มความระทึกในทุกตอน ทั้งฉากแอ็กชันหนีคนคลั่ง ปมความสัมพันธ์ที่เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เบาะแสใหม่ๆ ของเรื่องราวเบื้องหลังการระบาดที่เริ่มเปิดเผยออกมาทีละน้อย และความลุ้นระทึกที่ทำให้คนดูตามเกาะขอบจอทุกสัปดาห์ ปฏิกิริยาของผู้ชมในโซเชียลยังคงคึกคัก มีทั้งเสียงชื่นชมถึงการดัดแปลงที่เข้ากับสังคมไทย และบางเสียงวิจารณ์ในบางรายละเอียด ซึ่งเป็นธรรมดาสำหรับการรีเมคจากต้นฉบับเกาหลีที่มีฐานแฟนคลับแน่นหนาเดิมอยู่แล้ว แต่ซีรีส์ก็จัดเต็มทั้งฉากแอ็คชั่นหนีตาย ดราม่าความสัมพันธ์ ปมลึกลับที่เริ่มค่อยๆ เผยให้คนดูได้ติดตามอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเล่าเรื่องที่ปรับรายละเอียดให้เข้ากับบริบทไทย แต่ยังคงกลิ่นอายความกดดันแบบดิสโทเปียเหมือนต้นฉบับเกาหลี จุดเด่นที่แฟนๆ ชื่นชม: โปรดักชั่นคุณภาพดีได้มาตรฐานสมจริงทั้งฉากฝูงคนคลั่งและบรรยากาศการเอาชีวิตรอดในพื้นที่ปิด การตีความใหม่ที่ไม่ลอกต้นฉบับ 100% เพิ่มความเป็นไทยเข้าไปในเนื้อเรื่อง เช่น ปัญหาสังคม คอนโดหรูใจกลางเมือง และชนชั้นทางสังคม การเล่าเรื่องค่อยๆ ปูพล็อตและเพิ่มความเข้มข้น ความระทึกขึ้นเรื่อยๆ ดึงคนดูให้ติดตามมากขึ้น นักแสดงหลักถ่ายทอดบทบาทได้น่าประทับใจ ประเด็นที่หลายคนหยิบมาพูดถึง: บางซีนยังรู้สึกว่าสามารถทำให้ตึงเครียดกว่านี้ได้อีก ความเข้มข้นของบางตัวละครยังต้องใช้เวลาในการปูเรื่องให้ชัดเจนขึ้น หลายคนที่เคยดูเวอร์ชั่นเกาหลีมาก่อนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า "เวอร์ชั่นไทยทำออกมาได้ดีเกินคาด!" ไม่ใช่แค่การรีเมคแบบถอดแบบมาเท่านั้น เพราะทีมผู้สร้างเลือกที่จะหยิบโครงเรื่องหลักมาปรับใหม่ในหลายจุดให้เข้ากับสังคมไทย ทั้งการออกแบบสถานที่ให้เป็นคอนโดสุดหรูใจกลางกรุงเทพฯ ที่กักขังตัวละครหลายชีวิตเอาไว้ในสถานการณ์สุดระทึก โดยเฉพาะการดีไซน์ฉากแอ็คชั่น ความสมจริงของฝูงคนคลั่ง และความสัมพันธ์ตัวละครที่น่าติดตามไม่แพ้ต้นฉบับ ความน่าสนใจคือ การผสมผสานระหว่างฉากดราม่าชีวิตประจำวันของผู้คนในคอนโดที่สะท้อนความเหลื่อมล้ำในสังคม ปมเบื้องหลังการระบาดที่โยงไปถึงหน่วยงานระดับสูง และฉากแอ็คชั่นหนีตายจากฝูงคนคลั่ง ที่ทำให้แต่ละตอนเต็มไปด้วยความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง บนโซเชียลมีเดีย ทั้ง Twitter, TikTok, Facebook ต่างมีแฟนๆ ออกมารีวิวและพูดคุยกันอย่างคึกคัก หลายกระทู้รีวิวใน Pantip ยังมีคนตั้งหัวข้อชวนถกกันถึงรายละเอียดต่างๆ ทั้งการดัดแปลงพล็อต คาแรคเตอร์นักแสดง และแนวทางการเล่าเรื่องที่มีความเป็นไทยผสมเข้าไปอย่างลงตัว อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วเสียงชื่นชมในโลกโซเชียลต่างพูดไปในทางเดียวกันว่า "สนุกมาก", "รีเมคได้ดี", "เซ้นต์-อร เล่นดีมาก" สำหรับคนที่ไม่ได้คาดหวังมากนักกับเวอร์ชั่นรีเมค แต่กลับถูกดึงให้ติดตามต่อไปโดยไม่รู้ตัว ทำให้ซีรีส์ติดอันดับคำค้นหายอดนิยมในช่วงนี้ โปรดักชั่นคุณภาพ ฉากหนีคนคลั่งสุดระทึก สิ่งที่ทำให้ Happiness เวอร์ชั่นไทย ได้รับคำชมอย่างต่อเนื่องคือการออกแบบฉากแอ็คชั่นที่สมจริง ฝูงคนคลั่งถูกถ่ายทอดออกมาได้อย่างน่ากลัวและกดดันมากพอจะทำให้คนดูต้องลุ้นตามในทุกซีน โดยเฉพาะฉากหนีตายในพื้นที่แคบอย่างบันไดหนีไฟ หรือในห้องคอนโดเอง ที่ทำให้คนดูรู้สึกถึงความอึดอัดและไร้ทางหนีจริงๆ ทีมงานสามารถปรับบรรยากาศให้ออกมาเป็นความกดดันได้ดีมาก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในจุดแข็งของเรื่องแนวโรคระบาดแบบนี้ แม้จะรีเมคจากซีรีส์เกาหลีสุดฮิต แต่ Happiness เวอร์ชั่นไทย (2025) ก็ไม่ได้ถอดแบบ 100% กลับปรับเนื้อหาให้เข้ากับสังคมไทย เพิ่มความระทึก ดราม่า และมุมมองใหม่ๆ ที่น่าติดตามไม่น้อยเลยทีเดียว ความแตกต่าง Happiness เวอร์ชั่นไทย VS เกาหลี พล็อต: เมื่อโรคระบาดทดสอบความเป็นมนุษย์ ในเวอร์ชั่นเกาหลี Happiness (2021) วางเรื่องไว้บนฉากหลังของการเมือง อำนาจ และผลประโยชน์เบื้องหลังบริษัทผลิตยา แต่เวอร์ชั่นไทย กลับเลือกขยายประเด็นดราม่าเรื่อง "ครอบครัว" “ความไว้ใจ” และ “ความเหลื่อมล้ำในคอนโดหรู” ให้เด่นชัดขึ้น เมื่อคนแปลกหน้า กลุ่มชนชั้นต่างๆ ต้องติดอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ท่ามกลางฝูงคนคลั่งที่อาจบุกเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ — และสิ่งที่อันตรายไม่แพ้ไวรัส อาจเป็นความไม่ไว้ใจกันเองในหมู่มนุษย์ด้วยกัน โลเคชั่น: จากอพาร์ตเมนต์รัฐสวัสดิการ สู่คอนโดหรูใจกลางกรุงเทพฯ ในเวอร์ชั่นต้นฉบับ โลเคชั่นสะท้อนภาพความเหลื่อมล้ำในเกาหลีใต้ผ่านอพาร์ตเมนต์รัฐ แต่ Happiness เวอร์ชั่นไทยเลือกใช้ "คอนโดหรู" เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตเมืองแบบไทย ๆ ที่ชนชั้นทางสังคมหลอมรวมอยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ทั้งเศรษฐี เจ้าของบริษัท ไปจนถึงเจ้าหน้าที่รัฐและคนทำงานธรรมดา — สร้างบรรยากาศความกดดันที่คนไทยดูแล้วอินง่าย ฝูงคนคลั่ง: ระทึกคนละสไตล์ ต้นฉบับเกาหลีใช้ความกดดันทางจิตวิทยา เล่นกับความหวาดระแวง และภาวะความกลัวของผู้คน แต่เวอร์ชั่นไทยปรับให้ฝูงคนคลั่งดูดิบขึ้น ดุเดือดขึ้น แอ็คชั่นหนีตายจึงเข้มข้นทุกตอน ยิ่งในพื้นที่แคบๆ อย่างบันไดหนีไฟ ห้องพัก หรือล็อบบี้คอนโด — ทำให้คนดูต้องลุ้นทุกวินาทีว่าจะเอาชีวิตรอดได้ยังไง ประเด็นสังคม: เวอร์ชั่นไทยเสียดสีได้ตรงจุด เวอร์ชั่นเกาหลี: เสียดสีระบบราชการ การทุจริต การใช้คนเป็นหนูทดลอง เวอร์ชั่นไทย: เล่นกับความเหลื่อมล้ำ ความกลัวของคนรวย-คนจน ความไว้ใจที่เปราะบางในคอนโดหรู สไตล์นักแสดง: เคมีพระ-นางช่วยดึงคนดู ฝั่งไทยนำโดย เซ้นต์-ศุภพงษ์ และ อร-พัศชนันท์ ที่เคมีเข้ากันเกินคาด ช่วยเติมความดราม่าให้คนดูอินทั้งฉากหวาน ซีนตัดสินใจในภาวะคับขัน รวมถึงฉากแอ็คชั่นระทึกๆ ที่ต้องพึ่งพากันหนีคนคลั่งอย่างสมจริง เดินเรื่องเข้มข้นถึง EP.6 ใครยังไม่ดู ต้องรีบเก็บแล้ว! Happiness เวอร์ชั่นไทย เดินทางมาถึง EP.6 แล้ว เนื้อเรื่องกำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ปมความลับเริ่มถูกคลี่คลาย ท่ามกลางสถานการณ์ไวรัสคลั่งที่ยังไม่มีทีท่าจะสิ้นสุด ใครที่ยังไม่ได้เริ่มดู ยังมีเวลาเก็บความลุ้นระทึกแบบต่อเนื่อง เพราะยังเหลืออีกหลายตอนให้ตามลุ้นชะตากรรมของตัวละครแต่ละคน! ซึ่งผู้ชมสามารถรับชมได้แบบถูกลิขสิทธิ์ผ่าน TrueID ช่องทางรับชม ผ่านแอปพลิเคชั่น TrueID ผ่านกล่อง TrueID TV ผ่านเว็บไซต์ www.trueid.net ซีรีย์ที่ทำให้คุณต้องตั้งคำถามว่า...ในวันที่ไวรัสคลั่งแพร่ระบาด คุณจะเลือกเชื่อใจใคร? ติดตามความระทึก ลุ้นทุกตอนของ Happiness เวอร์ชั่นไทย ได้ที่นี่! อัพเดตทุกวันศุกร์-เสาร์ เครดิต ภาพปก True CJ Creations Facebook ภาพประกอบบทความ ภาพที่ 3-22, 23, 28, 37, 38-40 จาก True CJ Creations Facebook ภาพที่ 2, 24, 25, 26, 27, 29, 30, 31, 32, 33, 34, 35, 36 จาก TrueID X วิดีโอที่ 1 จาก TrueID YouTube #Happinessเวอร์ชั่นไทย #รีวิวHappinessไทย #เซ้นต์ศุภพงษ์ #อรBNK #ซีรีส์โรคระบาด #ไวรัสคลั่ง #ซีรีส์ไทย #TrueID #ซีรีส์ระทึกขวัญ #ซีรีส์น่าดู #HappinessThaiVersion #ซีรีส์ที่ต้องดู #ซีรีส์ลุ้นระทึก #ซอมบี้ เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !