เครดิตภาพ WarnerBrosหนังเล่าถึงเหตุการณ์ประหลาดในเมืองเดอรี่ คือมีเด็กหายและตายหลายคน จนในเมืองต้องมีการออกมาตรการเคอร์ฟิวส์ห้ามออกจากบ้านหลัง 1 ทุ่ม ตำรวจยังหาสาเหตุและตัวคนร้ายไม่ได้ แต่มีเด็กกลุ่มหนึ่งบอกว่ามีปิศาจหน้าตาคล้ายตัวตลกออกมาจับเด็กไปกิน จบสืบรู้ว่าปิศาจตัวนี้มีชื่อ เพนนี่ไวซ์ และทุก ๆ 27 ปี มันจะออกมาจากท่อระบายน้ำเพื่อจับเด็ก ๆ กิน และมันสามารถแปลงกายเป็นอะไรก็ได้ในช่วงแรกของหนัง จะค่อย ๆ ถ่ายทอดช่วงวัยเด็กทั้ง 7 คนที่เป็นเพื่อนกันและได้ขนานนามว่าเป็นพวกขี้แพ้ การรวมตัวกันทำให้พวกเขามีพลังใจ ร่วมแรงร่วมใจกันช่วยป้องกันและสืบหาเจ้าปิศาจร้าย ในความคิดของผมไม่ได้คิดว่านี่เป็นหนังสยองขวัญอะไรเท่าไหร่มาก หนังอาจจะสื่อให้เด็กกลัวได้เพราะเป็นตัวตลกปิศาจ แต่ถ้ามองในมุมผู้ใหญ่ซึ่งไม่ได้เป็นเหยื่อของปิศาจนั่นก็เลยมองว่าหนังไม่ได้สยดสยองเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นเด็กก็อาจจะรู้สึกกลัวและสยดสยองกับภาพรวมของหนัง แต่มองว่าอาจจะเกิดจากความไม่ไหลลื่นของหนังที่ทำให้ผมรู้สึกไม่ได้กลัวคือเดี๋ยวดราม่า เดี๋ยวตลก เดี๋ยวก็ระทึกอีกแล้ว เครดิตภาพ WarnerBrosแต่เมื่อถึงฉากระทึก หนังก็ทำออกมาได้ดีครับ ตื่นเต้นและน่าติดตามไม่น้อยเลย คือทำให้ระทึกและตกใจได้ในขณะนั้นจริง ๆ แต่ถ้าว่ากันที่ภาพรวมมันก็ยังไม่ได้สยองอะไรมากเท่านั้นเอง เพราะหนังมีการตัดสลับบทของอารมณ์หนัง คือกำลังตื่นเต้น น่ากลัว แล้วก็ตัดฉากไปที่เด็ก ๆ จนผมคิดว่าเป็นหนังหลอกเด็กมากกว่าจะเป็นหนังสยองขวัญ ทำให้นึกไปในช่วงเด็ก ๆ ที่ผมมักจะถูกแม่หลอกให้กลัวนั่นนี่โน่นจะได้ไม่ดื้อและไม่ออกไปซนในเวลากลางคืนครับตัวตลกปิศาจที่เป็นMainหลักของเรื่อง และเป็นจุดศูนย์กลางความกลัวของเด็กในเรื่อง และด้วยความที่เจ้าปิศาจนี้สามารถแปลงกายเป็นอะไรก็ได้ที่เด็กหวาดกลัว หนังก็พยายามสอดแทรกว่า พวกเด็กที่กล้าหาญทั้ง 7 คนนั้น ต้องเจอความสยองในรูปแบบของที่ตัวเองกลัวไปก่อนเรื่อย ๆ จนสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็ก ค่อย ๆ เข้าไปจัดการความกลัวที่เป็นต้นตอจริง ๆ นั่นก็คือการปรับจิตใจและพยายามมีความกล้าหาญมากขึ้น นี่เป็นสิ่งที่หนังอาจจะพยายามสื่อ ว่าความกลัวต่างหากที่กลืนกินเรา และความกล้านั้นจะช่วยให้ชนะปิศาจเพนนีไวซ์ได้เครดิตภาพ WarnrBrosหนังไม่ได้ใส่จุดเชื่อมไปภาคสองเลย คงเป็นเพราะไม่ได้คาดคิดกับรายได้ที่จะเกิดขึ้น แต่หนังกลับเปิดตัวแรงเกินคาด และได้ทำสถิติใหม่โดยการเปิดตัวรายได้สูงสุดของเดือนกันยายน (ไม่ใช่ Summer) และมองว่าถ้าหนังมีพาร์ทถัดไปคงเป็นการเล่าเรื่องในช่วงโตของเด็ก ๆ เพราะเป็นเรื่องราว 27 ปีหลังจากนั้น ตามกำหนดที่เจ้าปิศาจเพนนีไวซ์จะโผล่ขึ้นมาอีกครั้งและมาปรากฎตัวในเมืองแห่งนี้คะแนนเนื้อเรื่อง 8/10 หนังมีฉากตื่นเต้นไม่มากนักแต่ก็ทำออกมาได้ดี แม้จะมีข้อติติงนิดหน่อยในเรื่องการสลับฉากตัดอารมณ์คนดูแบบว่าน่ากลัวอยู่ดี ๆ ก็ตัดฉากไปหาเด็กชิล ๆ ซะอย่างนั้น แต่ว่าโดยรวมทำได้ดีเครดิตภาพ WarnerBrosข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์1. คนขี้แพ้เมื่อรวมตัวกันก็กล้าหาญกว่าคนอื่น เหมือนเด็กทั้ง 7 ในเรื่องที่ถูกตราหน้าว่าเป็นพวกขี้แพ้ แต่เมื่อพวกเขารวมตัวกัน พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีกแล้ว เพราะขนาดปิศาจที่เด็ก ๆ หวาดกลัวพวกเขายังชนะได้2. เอาชนะปิศาจด้วยความกล้า เพราะเจ้าปิศาจ เพนนีไวซ์ สามารถแปลงกลายเป็นทุกสิ่งที่เรากลัวได้ และการจะชนะปิศาจได้คือการกำจัดความกลัวออกไป เมื่อไม่มีความกลัวปิศาจเพนนีไวซ์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้อีกหนังก็ให้ความเพลิดเพลินในระดับหนึ่งเช่นกัน ให้ข้อคิดในหลาย ๆ อย่างแม้ว่าพล็อตเรื่องจะดูเหมือนไม่มีอะไรแต่ก็สร้างความลุ่นระทุกและตื่นเต้นได้ไม่น้อยเลย สำหรับผู้ใหญ่อาจจะไม่น่ากลัวมาก แต่กับเด็กนี่ไม่แน่จริง ๆ ครับเครดิตภาพปก WarnerBros