Short CommentThe Big 4 (2022)ทั้งโหด ทั้งมันส์ ทั้งฮา มีแสบมีคัน แต่ลงตัวเกินบรรยายแบบ "สนุกเป็นบ้า"วลีที่ว่า "บางครั้งการขึ้นรถผิดสายอาจพาไปสถานที่งดงาม" ยังใช้ได้เสมอเช่นเดียวกับการที่ดูไปบ่นไปได้ดูหนังเรื่องนี้ แรกเลยที่ตัดสินใจเปิดดูเพราะเข้าใจว่าเป็นหนังอินเดียเพราะเห็นหน้าพระเอกนางเอกน่าจะไปทางนั้น ทว่าไม่ใช่ก็ใกล้เคียงเหมือนกันเพราะอินเหมือนกันเพราะเป็นหนังจากอินโดนีเซียที่ผู้เขียนมีความทรงจำที่ดีกับหนังจากประเทศนี้อยู่บ้างจาก The Raid (2011) ที่สร้างชื่อให้กับ Iko Uwais , Joe Taslim และทำให้คนดูทั่วโลกได้รู้จักหนังแอ็กชันดุเดือดดิบของอินโดนีเซีย หลังจากนั้นมาผู้เขียนก็ได้ดูอยู่เรื่อยมาแต่ก็ไม่บ่อยเอาที่น่าสนใจและดูตามนักแสดงมากกว่าจนมาถึงเรื่องนี้ที่เข้าใจผิดอย่างที่เอ่ยมาข้างต้น กระนั้นเมื่อเริ่มดูยังมีความคิดว่าเมื่อไม่ใช่หนังอินเดียที่อยากดูก็ปิดดีกว่าแต่เมื่อผ่านไปไม่กี่นาทีหนังเรื่องนี้กลับทีแรงดึงดูดให้ผู้เขียนดูต่อได้อย่างน่าประหลาด จากความไม่คาดหวังอะไรเพราะหน้าหนังออกมาเป็นงานแอ็กชันคอมมิดี้ที่ปกติจะไม่ค่อยมีอะไรให้ติดใจแต่พลังงานบางอย่างสามารถทำให้การดูเพราะเข้าใจผิดครั้งนี้ยาวไปจนเวลาสองชั่วโมงกว่าผ่านไปอย่างรวดเร็วและกลายเป็นงานที่ประทับใจเข้าให้ซะงั้นเรื่องของกลุ่มมือสังหารที่รับงานเด็ดหัวคนพาลอภิบาลคนดีเจ้าของสมญานาม The Big 4 ที่ประกอบด้วย Topan (Abimana Aryasatya) ผู้เชี่ยวชาญศิลปะการต่อสู้และการใช้อาวุธ Jenggo (Arie Kriting) สไนเปอร์มือหนึ่งของเอเชียที่หุ่นไม่ค่อยให้เท่าไหร่ Alpha (Lutesha) หญิงสาวผู้เชี่ยวชาญวัตถุระเบิดและ Pelor (Kristo Immanuel) ผู้ไม่เชี่ยวชาญกล้วยไข่อะไรเลยนอกจากการเป็นเหยื่อล่อ ทั้งสี่เป็นเหมือนพี่น้องที่ถูกเลี้ยงดูและสั่งสอนจัดการบริหารงานโดยป๋า (Budi Ros) และป๋าก็มีลูกสาวหนึ่งคนคือ Dina (Putri Marino) ที่เป็นตำรวจฝีมือดีที่ห่างเหิน กระทั่งวันที่ Dina ได้รับการติดยศร้อยโทป๋าถูกมือสังหารฆ่าตายในบ้านและ Dina มาเจอตอนที่ Topan อยู่ข้างศพป๋า ด้วยความเข้าใจผิด Dina จึงตามล่า Topan ตลอดมาแล้วในที่สุดเธอก็พบว่า Topan ไปเปิดโรงแรมอยู่บนเกาะเธอจึงตามไปเพื่อสืบหาความจริง ทว่ากลุ่มนักฆ่าปริศนาก็ตามเธอมาเช่นกันและพวกมันก็ไล่ล่ากลุ่ม The Big 4 ที่ใช้ชีวิตโลโซเป็นคนปกติถอนตัวจากวงการและดูเหมือนพวกมันจะเอาชนะได้ แต่เมื่อถึงเวลาจวนตัวผู้ถูกล่าก็ลุกขึ้นมาสู้เพื่อทวงคืนศักดิ์ศรีที่คราวนี้สะบักสะบอมกันไปง่ายๆไม่ซับซ้อนไม่ยุ่งยากแต่มีเป้าหมายมีทิศทางชัดเจนแล้วเล่นสนุกไปกับมัน สารภาพว่าผู้เขียนดูหนังเรื่องนี้ยิ่งเวลาผ่านไปยิ่งขอบตาร้อนด้วยความอิจฉาด้วยความที่วัตถุดิบและอะไรหลายอย่างหนังของแถวนี้ดูดีกว่าแต่สิ่งที่หนังเรื่องนี้บอกออกมาชัดเลยว่าทุกอย่างต้องมาจากบทที่ดีเป็นที่ตั้ง เพราะถ้าว่ากันที่พล็อตเรื่องไม่มีอะไรใหม่เลยเรื่องนักฆ่าผู้มีมโนธรรมบุญคุณความแค้นการต่อสู้เพื่อเป็นมือหนึ่งผู้ล่าและผู้ถูกล่า หนังเดินเรื่องง่ายๆเป็นไปตามขั้นตอนไม่มีอะไรซับซ้อนให้ระทมกบาลแต่บทหนังมีทิศทางที่ชัดเจนว่าจะมาโหดมันส์ฮาตามประสาแอ็กชันคอมมิดี้ดีๆสักเรื่องที่คนดูจะต้องดูไปพร้อมกับความตื่นเต้นเร้าใจที่มาพร้อมเสียงหัวเราะขำกลิ้งน้ำลายกระเซ็นเป็นเป้าหมาย ที่เหลือก็คือเล่นสนุกไปกับมันโดยที่ไม่ต้องพยายามให้เยอะไม่ต้องจับนู่นนี่นั่นมายัดเหมือนตัดเอามุขตลกมาแปะต่อๆกันเพื่อขายความขบขันถ่ายเดียว สิ่งตามมาคือเมื่อคนดูดูไปสักห้านาทีจะเห็นว่าเรื่องนี้มีของรออยู่ให้ค้นหาแม้ว่าจะรู้จุดจบกลายๆ และแม้กระทั่งฉากเปิดที่ระเบิดระเบ้อยังขำกลิ้งได้เพราะตั้งใจมาเล่นสนุกเต็มที่ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานบทที่ดีพอเมื่อความโหดเลือดสาดมาพร้อมกับอารมณ์ขันที่ทั้งคันทั้งแสบได้แสนลงตัว ความโหดเลือดสาดแขนขาขาดหัวระบิดกระจุยกับอารมณ์ขันไม่น่าจะไปด้วยกันได้แต่เรื่องนี้ทำให้เป็นไปแล้ว แว่บหนึ่งผู้เขียนนึกถึงหนังผีแถวนี้อย่าง "บุปผาราตรี" (ภาคแรก) ที่ความน่ากลัวกับอารมณ์ขันทั้งแสบทั้งคันดันมาด้วยกันแบบจะดูก็กลัวผีจะไม่ดูก็กลัวพลาดฉากฮา เช่นกันเรื่องนี้จัดความรุนแรงมาเต็มที่จนเป็นหนังคอมมิดี้ที่ไม่น่าจะดูได้ทุกวัยแต่ดันตลกเป็นบ้าจนน่าเสียดายที่เด็กเล็กๆจะดูไม่ได้ ทั้งที่มุขแต่ละมุขอารมณ์ขันหลายอย่างไม่ใช่เรื่องที่จะเข้าถึงกันได้เพราะเรื่องของภาษาและบริบททางชนชาติแต่หนังกลับเล่าได้ถึงใจและคนดูสนุกไปกับสิ่งที่เห็นบนจอ นั่นหมายความว่าอะไรก็ตามที่ตั้งใจให้ขำคนดูก็จะขำมาจากการถูกวางไว้ในบทไม่ใช่เอาข้างหน้าเป็นไปหรือการใช้ความสามารถส่วนตัวนักแสดงด้นสด นั่นก็คือความตลกตามบทแม้จะฟังไม่รู้เรื่องแต่ความตลกมันไม่ได้มาจากบทสนทนาแต่มาจากสถานการณ์ที่ทั้งแสบทั้งคันทั้งยียวนทั้งกวน ที่น่าทึ่งคือมาพร้อมกับภาพความรุนแรงที่คนขวัญอ่อนเบือนหน้าหนีแต่กับเรื่องนี้ภาพอาจดูโหดแต่ตลกกระจุยกระจายการไม่มีภาพจำทำให้การแสดงกลายเป็นที่จดจำไม่ต้องเยอะให้มากความแบบเล่นน้อยได้มาก ข้อดีอย่างที่สุดของเรื่องนี้คือการไม่รู้จักนักแสดงที่เอาตามจริงมาตรฐานการแสดงก็ประมาณหนังแถวนี้เพราะถ้าดูแล้วคิดตามว่านักแสดงแถวนี้ก็มีที่เล่นหนังเรื่องนี้ได้แบบเนียนๆ แต่สิ่งที่ต่างไปคือบทไม่พยายามยากไม่เล่นมากเกินเบอร์ทำให้การแสดงในหนังที่ไม่น่าจะมีอะไรให้เล่นกลับมีมิติให้จับต้อง หนังจึงกุมหัวใจคนดูได้ตั้งแต่ต้นในเรื่องของป๋าซึ่งต้องยกความดีความชอบให้ Budi Ros ที่อาจไม่รู้จักแต่สัมผัสได้ถึงความเก๋า ส่วน The Big 4 บวกหนึ่งคือ Abimana Aryasatya,Arie Kriting,Lutesha,Kristo Immanuel และ Putri Marino ที่เอาแค่มาฟาดฟันการทางสีหน้าแววตาคารมให้ทั้งมันส์ทั้งฮาก็ได้ใจแล้ว เรื่องความผูกพันยังทำให้เชื่อได้ว่านี่คือลูกๆของป๋าที่ทำให้ดราม่าที่แฝงไว้อย่างเนียนๆทำหน้าที่ได้จับใจเมือถึงเวลาทั้งที่ใช่ว่าตั้งท่ามาเล่า ทั้งนี้มาจากการเล่นแบบเล่นน้อยได้มากเพราะบทวางตัวละครไว้ดีแล้ว ส่วนตัวร้ายก็นะกวนจนอยากกระโดดถีบทีวีเสียเหลือเกินจนทำให้การแสดงกลายเป็นที่น่าจดจำหนังจบยังจำได้อยู่เลยถ้าไม่ดูคือพลาด เพราะสิ่งที่ได้มาคือยากจะบรรยายทั้งรอยยิ้มเสียงหัวเราะและอารมณ์ดราม่ามาถูกจังหวะถูกที่ถูกเวลาทำให้ออกมาค่อนข้างจับใจ ทั้งที่หนังแนวนี้ส่วนมากถ้าจะมีจุดสลบมักจะเป็นเรื่องดราม่าที่บางครั้งมาแบบประดักประเดิดแต่เรื่องกลับดูลงตัวดีและจับใจในระดับที่น่าพอใจเพราะคนดูรู้สึกได้ตามความต้องการของบท ส่วนเรื่องความบันเทิงไม่ต้องพูดถึงเพราะนี่คือหนังที่ดูสนุกมากจนเวลาสองชั่วโมงเกือบครึ่งผ่านไปเร็วโดยไม่ต้องห่วงเข็มนาฬิกาข้างฝา แน่นอนหนังตั้งใจมาเป็นความสนุกเป็นงานแอ็กชันปนตลกที่คนดูต้องดูอย่างสนุกซึ่งหนังก็ทำหน้าที่ได้ครบถ้วนจนลืมหรือมองข้ามริ้วรอยมากมายที่มีทั่วไปในหนังทั้งการมองเห็นเงาหนังเรื่องอื่นๆทาบทับอยู่หรือความสมเหตุผลในบางจุด แต่นั่นไม่ใช่สาระสำคัญเพราะหนังไม่ได้ตั้งใจมาซีเรียสอะไรปานนั้นอยู่แล้วแล้วเมื่อคนดูดูสนุกอย่างที่ต้องการยังจะเอาอะไรอีก ส่วนหากจะลองหาเหตุผลที่ทำให้ผู้เขียนดูหนังเรื่องนี้อย่างสนุกสุดๆจนไม่ผุดลุกไปไหนเลยอาจเพราะไม่ได้คาดหวังด้วยส่วนหนึ่ง แต่ถ้าหนังไม่สนุกจริงต่อให้ไม่คาดหวังก็ไม่สนุกอยู่ดีส่วนเรื่องนี้คือสนุกเป็นบ้าเลยดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก จาก Instagram arie_kritingภาพที่ 1,2,3,4,5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 จาก Instagram netflixid ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้รีวิวหลังชม Gunpowder Milkshake : นรกเรียกแม่ (2021) เท่ เสียดสี ฉูดฉาด จัดจ้าน บันเทิงเต็มที่ตามสูตรเป๊ะ ดูได้ที่ทรูไอดีความเห็นหลังชม Hitman's Wife's Bodyguard (2021) "โหด มันส์ ฮา แม้ว่าจะไม่สดใหม่ก็ยังสนุกถึงใจ"รีวิวหลังชม The Lost City : ผจญภัยนครสาบสูญ (2022) "ตามสูตรเป๊ะไม่มีบิดเบี้ยว แต่สุข สนุก ลื่นไหล ฮาน้ำตาเล็ด" ใหม่ทาง TrueIDรีวิว Bullet Train ระห่ำด่วน ขบวนนักฆ่า(2022) โหด มันส์ ฮา สนุกสนานประมาณ "ยิ่งเกายิ่งมันส์ยิ่งคันยิ่งเกา" ใหม่ที่ TrueID จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !