รีวิวหนังสือ :: เด็กชายในชุดนอนลายทาง (The Boy in the Striped Pyjamas)เขียน :: จอห์น บอยน์แปลโดย :: วารี ตัณฑุลากรสำนักพิมพ์ :: แพรวเยาวชน ราคา :: 145 บาท“เรื่องราวของมิตรภาพซึ่งงอกงามขึ้นในสถานที่เหนือความคาดหมาย เด็กชายในชุดนอนลายทาง (The Boy in the Striped Pyjamas)"เป็นข้อความจากปกหนังสือที่มีภาพวาดเด็กผู้ชาย 2 คนนั่งอยู่คนละฝั่งของลวดหนาม และภาพลักษณะนี้ก็ยังปรากฏอยู่บนโปสเตอร์โปรโมทภาพยนตร์ภายใต้ชื่อเดียวกัน แต่เปลี่ยนจากภาพวาดมาเป็นภาพเด็กชาย 2 คน ซึ่งเป็นนักแสดงหลักของภาพยนตร์เรื่องนี้จากเพียงแค่ภาพที่ได้เห็นก็พอจะมองเห็นถึงภาพราง ๆ ของเรื่องได้ว่าหนังสือและหนังน่าจะนำเสนอถึงเรื่องราวของความแตกต่างบางอย่าง แต่มีมิตรภาพเป็นตัวเชื่อมของความแตกต่างนั้น และเมื่ออ่านเรื่องราวจึงได้รู้ว่าสิ่งที่อยู่เบื้องหลังของความแตกต่างนี้คือสงคราม โดยสงครามครั้งนี้ถูกมองผ่านมุมมองของเด็กวัย 9 ขวบเท่านั้น “จอห์น บอยด์” นักเขียนชาวไอริช ถ่ายทอดเรื่องราว “The Boy in the Striped Pyjamas” ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม หนังสือถูกแปลเป็นภาษาต่าง ๆ ทั่วโลก 46 ภาษา ในประเทศไทย ผู้แปลคือ “วารี ตัณฑุลากร” สำนักพิมพ์ “แพรวเยาวชน” ได้ลิขสิทธิ์ในการพิมพ์ เริ่มพิมพ์ครั้งแรก พ.ศ. 2551 และในปี พ.ศ. 2562 ถูกตีพิมพ์เป็นครั้งที่ 22 ครั้งแล้ว เป็นหนังสือที่มียอดขายอันดับ 1 ของหลาย ๆ ประเทศ และถูกสร้างเป็นภาพยนตร์เมื่อปี ค.ศ. 2008 โดยค่ายมิราแมกซ์ หนังประสบความสำเร็จอย่างงดงามเช่นกันหนังสือที่ถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ หรือสร้างเป็นละคร มักจะเป็นหนังสือที่ถูกคาดหวังจากคนอ่าน หรือคนดูหนังมากกว่าหนังสือทั่วไป เพราะจะต้องมีอะไรที่โดดเด่นมาก จึงถูกนำมาสร้างเป็นเรื่องราวให้คนเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหวสำหรับ “เด็กชายในชุดนอนลายทาง” อารมณ์ที่โดดเด่นออกมาจากความรู้สึกของผู้คนที่ได้อ่าน หรือชมภาพยนตร์คือความสะเทือนใจ ไม่เพียงแต่สะเทือนใจในชะตาชีวิตของเด็กน้อยที่ไร้เดียงสา แต่ความคิดยังถูกต่อยอดไปถึงความสะเทือนใจจากเหตุการณ์ที่ประเทศเยอรมันนี ที่อยู่ภายใต้การปกครองของ “อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” แห่งพรรคนาซี เป็นผู้นำฝ่ายอักษะในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวและชาติอื่น ๆ มากถึง 11 ล้านคนหลังจากที่ยึดครองยุโรปไว้หลายประเทศฉากหลังของเนื้อหาของเรื่อง “เด็กชายในชุดนอนลายทาง” เกิดขึ้นที่ค่ายกักกันใช้แรงงาน ทางตอนใต้ของประเทศโปแลนด์ ซึ่งเป็นค่ายที่สังหารเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดของนาซี โดยเรื่องราวในเรื่องเล่าผ่าน “บรูโน” เด็กชายวัย 9 ขวบ ลูกชายของนายทหารระดับสูงของเยอรมัน ซึ่งไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับสงคราม เขารู้แต่ว่าตัวเขา แม่ และพี่สาวต้องย้ายบ้านออกจากเบอร์ลิน ไปอยู่บ้านหลังใหม่ ตามหน้าที่การงานของพ่อ บ้านหลังใหม่สำหรับเด็กชายตัวน้อย ๆ นั้นไม่น่าอยู่เอาเสียเลย เพราะเป็นหลังเดียวโดด ๆ ไม่มีบ้านของคนอื่น ๆ อยู่เลย สิ่งเดียวที่เด็กชายเห็นก็คือค่ายขนาดใหญ่ที่มีรั้วเป็นลวดหนาม ซึ่งเขาไม่รู้เลยว่าหลังลวดหนามนั้นเต็มไปด้วยความโหดร้าย สิ่งที่เขารู้ก็คือ หลังลวดหนามนั้นมีมิตรภาพที่งดงาม เพราะเขาได้รู้จัก “ชมูเอล” เด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ที่สวมชุดนอนลายทาง เหมือนกับทุกคนที่อยู่หลังรั้วใส่กัน และเด็กผู้ชายคนนี้ กลายมาเป็นเพื่อนรักเพียงคนเดียวที่บรูโนเหลืออยู่ และเป็นคนเดียวที่เขากุมมือไว้อย่างมั่นคง ในวันที่เขาไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น แม้ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาเราได้พบคนที่มีหนังสือ “เด็กชายในชุดนอนลายทาง” 2 คน คนแรก เป็นคนที่อ่านหนังสือ เมื่อไปที่ร้านหนังสือแล้วเห็นชื่อเรื่องกับหน้าปกหนังสือน่าสนใจ จึงหยิบขึ้นมาอ่านข้อมูลจากปกหลัง และพลิกไปอ่านคำนำสำนักพิมพ์ ที่เขียนเล่าถึงหนังสือเล่มนี้ไว้ว่าเป็นวรรณกรรมเยาวชนที่ผู้ใหญ่ก็อ่านได้ จึงตัดสินใจซื้อมาอ่านแต่ยังไม่ได้ดูหนัง กับอีกคนที่ดูหนังเรื่องนี้แล้วประทับใจมาก จึงซื้อหนังสือมาเก็บไว้ แต่ตอนนี้ยังไม่ได้อ่านทั้งจากคนที่อ่านหนังสือและคนที่ดูหนัง เมื่อได้มานั่งคุยกัน โดยมี “เด็กชายในชุดนอนลายทาง” เป็นหัวข้อในการสนทนา แบ่งปันความรู้สึกจากสิ่งที่ได้อ่านและได้ดู การสนทนาของทั้งสองคน ถ่ายทอดความรู้สึกออกมาได้อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงสงครามที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วจบลง ไม่ว่าจะครั้งใด ก็สร้างรอยแผลแห่งความเจ็บปวดไว้ในหัวใจของผู้คนเสมอวรรณกรรมที่ถูกเขียนขึ้น โดยมีฉากหลังเป็นสงคราม อ่านครั้งใดก็สะเทือนใจภาพประกอบโดย “ฉันท์ชมา” ผู้เขียน