ทุกเย็นย่ำและค่ำคืนหลังจากกลับถึงบ้าน เรากดรีโมททีวีเพียงเพื่อใช้เสียงนั้นฆ่าความเงียบที่ปกคลุม ไม่ได้หวังจะได้ดูหรือได้พบอะไรที่แปลกแตกต่างในแต่ละช่องที่พูดว่าเพื่อฆ่าความเงียบ มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะไม่ว่าจะกดปุ่มไปเลขไหน ซ้าย-ขวา ขึ้น-ลง เราพบว่าผลที่ได้ไม่ต่างกัน หมายความว่า “กดไปช่องไหนก็มีรายการเหมือนกัน” แม้ว่าจะไม่รวมถึงช่องข่าว แต่ก็แอบมี “รูปแบบการนำเสนอข่าวไม่ต่างกัน” เท่าใดนักเช่นกันPhoto by Jakob Owens on Unsplashนี่ทีวีผิดปกติ หรือ วงการบันเทิงที่ปกติ ต้นตอที่วงการบันเทิงจอแก้วมีแต่คอนเทนต์ซ้ำ ๆ เดิม ๆ ขาดความแตกต่างก็เพราะช่องหรือผู้ผลิตตั้งเป้าและคาดหวังที่ผลกำไรจากโฆษณาซึ่งมีมูลค่ามากมาย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีผู้ชมมากที่สุด หรือที่เขาเรียกกันเก๋ ๆ ว่าช่วงไพรม์ไทม์ (prime time) ปกติจะเป็นเวลาระหว่าง 19.00 - 22.30 น. ช่วงนี้ยัดอะไรที่ได้คนดูจำนวนมากได้รีบยัด อะไรนำเสนอแล้วได้เรทติ้งดีรีบใส่ เพราะมูลค่าของโฆษณา เรียกว่าสถานีโทรทัศน์ทำรายได้สูงก็ช่วงไพรม์ไทม์นี่แหละ ผลของเวลาทำให้คนดูอย่างเรา ๆ ได้เห็นรายกายแข่งขันร้องเพลง รายการที่บีบคั้นความรู้สึก รายการตลก รายการผี ไสยศาสตร์ และแน่นอนละครในรูปแบบเดิม ๆ ซ้ำเหมือนกันแทบทุกช่องPhoto by Startaê Team on Unsplashทำ Targeting เพื่อโตได้ใน Blue Oceanขอส่งเสียงสะท้อนนี้ไปถึงผู้บริหารจอแก้วต่าง ๆ ว่าสร้างคอนเทนต์ที่แตกต่าง หรือคอนเทนต์ทางเลือกให้กับคนดูสักนิดช่องอาจพิจารณาทำ Targeting กลุ่มคนดูของตัวเอง เพศ อายุหรือช่วงวัย ระดับการศึกษา ความสนใจ ฯ คือเป็นการแสวงหาตลาด Blue Ocean แทนที่จะไปแข่งขันช่วงชิงใน Mass Market ที่ทั้งเหนื่อย และทั้งหนัก นอกเหนือจากนั้น ข้อดีของการสร้างคอนเทนต์ที่แตกต่างก็คือตอบความต้องการของผู้บริโภคความบันเทิงที่มีความต้องการ ความชอบที่เจาะจงมากกว่าอดีต Photo by Scheier .hr on UnsplashBlue Ocean Strategy หรือกลยุทธ์น่านน้ำสีคราม เกิดขึ้นในทางตรงกันข้ามกับ Red Ocean Strategy โดยที่ Blue Ocean Strategy จะทำในสิ่งที่ตลาดยังไม่ทำ หรือพยายามเล่นที่ตลาดใหม่ หาตลาดใหม่ ๆ เพราะว่าการแข่งขันมีอัตราที่ยังต่ำ และมีโอกาสช่วงชิงรายได้ได้มากกว่า วงการบันเทิงไทย ไม่ว่าจะจอไหนแทนที่จะไปแข่งขันกันแย่งคนดู หรือทำต่คอนเทนต์เดิม ๆ เป็นเสมือนกบที่อยู่ในหม้อน้ำเดือด ยิ่งไปแย่งชิงกับคู่แข่งเยอะๆ อาจเสี่ยงกับขาดทุนได้ การทำตลาดด้วยกลยุทธ์ Blue Ocean แล้วปังจนขึ้นแท่นและเปลี่ยนโลกแห่งการสื่อสารไปทั้งใบคือการเปลี่ยนให้โทรศัพท์ไม่มีปุ่มและทำทุกอย่างได้อย่างชาญฉลาดของ iPhone นั่นทำให้โทรศัพท์ค่ายยักษ์ใหญ่ในสมัยน้ำล้มครืนและหายในจากสารบบ การผลิตเนื้อหาในวงการนี้ หากสร้างอย่างมีคุณภาพจะสามารถสร้างมูลค่า และเป็นผู้นำให้คนอื่นเดินตามได้ ในด้านของคนดูและผู้บริโภคความบันเทิงเองก็เช่นกัน ลองถามตัวเองว่าเบื่อหรือไม่กับเนื้อหาเดิม ๆ หรือยัง การเลือกเสพหรือบริโภครายการหรือเนื้อหาที่ดีมีคุณภาพจะช่วยเพิ่มความรู้ และเติมวิสัยทัศน์ นอกจากนี้ ยิ่งคนดูมีคุณภาพนี่จะเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่ช่วยเปลี่ยนให้วงการบันเทิงเกิดมาตรฐานใหม่ในการสร้างเนื้อหาที่ดี และทรงคุณค่า ภาพปกจาก Photo by Scheier .hr on Unsplash