รีเซต

"Vesper" เกี่ยวกับอะไร? ผู้กำกับซ่อนอะไรไว้ในหนังดาร์กไซไฟโลกล่มสลายสุดเข้ม

"Vesper" เกี่ยวกับอะไร? ผู้กำกับซ่อนอะไรไว้ในหนังดาร์กไซไฟโลกล่มสลายสุดเข้ม
Major Cineplex
30 กันยายน 2565 ( 15:30 )
2.1K

นวนิยายวิทยาศาสตร์เป็นแนวที่มีความซับซ้อนแต่น่าดึงดูด เป็นแนวที่ไม่เพียงแต่มอบโอกาสในการสร้างโลกใบใหม่ แต่ยังเปิดโอกาสในการพูดถึงปัญหาในสังคมปัจจุบันอย่างเปรียบเปรย VESPER คือเทพนิยายแนวดาร์กไซไฟที่พูดถึงแนวคิดนิยัตินิยมในเชิงภูมิศาสตร์ สังคมศาสตร์ และพันธุศาสตร์ ชะตาชีวิตของแต่ละบุคคลถูกกำหนดจากสถานที่เกิด จากธรรมเนียมทางวัฒนธรรม และ/หรือจากพันธุกรรมหรือไม่ หรือเป็นไปได้ไหมที่จะก้ามข้ามข้อกำหนดเหล่านี้และสร้างทางเดินของพวกเราเอง

นอกเหนือจากฉากไซไฟ ใจความสำคัญของ VESPER คือเรื่องราวแนว Coming of age ที่มาพร้อมเมสเสจถึงสังคมที่หลีกหนีความเป็นจริงของเรา ตัวละครหลักของเรา เวสเปอร์ ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น เธอเป็นเด็กวัยรุ่นที่มีความสามารถสูง สามารถใช้ทักษะและความแข็งแกร่งของเธอหลบหนีจากความเป็นจริงแสนน่าเจ็บปวดได้ ด้วยการไล่ตามความฝันใน “ดินแดนแห่งพันธะสัญญา (Promised land)” แต่เมื่อเธอตระหนักว่าดินแดนนั้นไม่มีอยู่จริง เธอจำเป็นต้องใช้ศักยภาพของเธอสร้าง “ดินแดนแห่งพันธะสัญญา (Promised land)” ในที่ที่เธออยู่

ยิ่งไปกว่านั้น ภาพยนตร์ยังพูดถึงใจความสำคัญเรื่องการปลดแอกและบทบาทของผู้หญิงในสังคมผ่านสองตัวละครหลัก อย่างเวสเปอร์ เด็กสาวสุดห้าวผู้ดื้อรั้นแต่เต็มไปด้วยอารมณ์ และคามิเลีย ผู้เป็นตัวแทนของผู้หญิงที่มีหน้าที่เพียงทำตามความปรารถนาของผู้ชาย ตัวละครหญิงทั้งสองนี้ยังไม่ค้นพบตัวเอง แม้ว่าพฤติกรรมของพวกเขาจะถูกบงการโดยสิ่งที่อยู่รอบกาย ในขณะที่ทั้งคู่ค้นหาสิ่งที่ตนเองตามหา พวกเขาได้ก้าวข้ามผ่านแต่ละขั้นของกระบวนการปลดแอกนี้ สำหรับพวกเขาสิ่งที่ยากที่สุดคือการทลายข้อจำกัดภายในตนเอง อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างทั้งคู่ช่วยทำให้พวกเขาก้าวข้ามกำแพงเหล่านี้ไปได้ และท้ายที่สุดก็มุ่งไปสู่การบรรลุศักยภาพในตนเอง แก่นใจความสำคัญของ VESPER นี้เป็นสิ่งหนึ่งที่จะเบ่งบานขึ้นได้ด้วยการแลกเปลี่ยนและร่วมมือกันกับผู้อื่นเท่านั้น

เมืองซิทาเดลในเรื่องเป็นสัญลักษณ์ของความสะดวกสบายด้านวัตถุ ความปลอดภัย และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ต้องแลกมาด้วยความเห็นอกเห็นใจและมนุษยธรรม ซิทาเดลไม่พึ่งพาใคร เป็นระบบปิด และหยุดนิ่ง ไม่สามารถพัฒนาและก้าวหน้าต่อไปได้อีก ในทางตรงกันข้าม พื้นที่แถบชนบทนอกซิทาเดลเป็นสัญลักษณ์ของการถูกลิดรอนสิทธิ์และสัญลักษณ์ความโหดร้ายของการเอาชีวิตรอด ด้วยสภาวะแวดล้อมแบบนั้นเวสเปอร์ได้พบกับราคาของการคงไว้ซึ่งการยึดมั่นทางศีลธรรมและการการเข้าอกเข้าใจผู้อื่นในโลกที่คนต้องสละคุณสมบัติเหล่านี้ทิ้งไปเพื่อหาทางเอาชีวิตรอด ความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครโจนาสและเวสเปอร์ก็เป็นสัญลักษณ์ของการต่อสู้ระหว่างโลกที่คุณค่าของอัตนิยมและการคัดเลือกโดยธรรมชาติที่ซึ่งคนที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะมีชีวิตรอด กับโลกที่คุณค่าของการร่วมมือและแบ่งปันกัน ภาพยนตร์ยังวิพากษ์วิจารณ์ระบบที่เอื้อต่อการฉ้อโกงว่าเป็นระบบที่ทำลายล้างทรัพยากรโลก ทำให้เกิดช่องว่างระหว่างผู้มีอำนาจและประชาชนทั่วไปมากขึ้น และทำให้ช่องว่างนี้ขยายกว้างมากขึ้นด้วยการขายและควบคุมนวัตกรรมทั้งหมดไว้ที่คนกลุ่มเดียว

พวกเราคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับการทำอย่างไรเพื่อนำเรื่องราวในจักรวาลวิชวลถ่ายทอดออกมาเป็นชีวิต พวกเราหาข้อมูลกันอย่างหนักเกี่ยวกับนวัตกรรมล่าสุดเรื่องสถาปัตยกรรมอินทรีย์ การออกแบบเชิงชีววิทยา พันธุวิศวกรรม แม้กระทั่งเพศสภาพของพืช ทั้งหมดนี้นำไปสู่การสร้างภาพยนตร์ที่มีจักรวาลวิชวลในแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ดังนั้นงานด้านภาพ ภาพแทนโลกอนาคตของเราจะมีเอกลักษณ์แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากภาพยนตร์เรื่องอื่นที่มี เราเรียก VESPER ว่าเป็น ‘เทพนิยายแนวไซไฟ’ เรากำลังสร้างโลกที่ถูกเปลี่ยนแปลงโดยพันธุวิศวกรรม โลกที่น่าขยะแขยง โลกที่มีแนวหินอันมีเลือดเนื้อและเต็มไปด้วยอันตรายที่พบเจอได้ในป่าอันน่าหดหู่นั้น

อย่างไรก็ตาม พืชในสวนลับของเวสเปอร์จะมีลักษณะตรงข้ามกับสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ สวนลับนี้เต็มไปด้วยพืชสวยงามที่ส่องประกายแวววาวและขยับไหวตามการสัมผัส เวสเปอร์นำเอาพืชที่เหี่ยวเฉาและร่วงโรยออกมาจากสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรม และเปลี่ยนพืชเหล่านั้นให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่สวยงามและมีสีสันสดใส ความแตกต่างนี้ถูกนำมาใช้เพื่อแสดงถึงแนวคิดที่ว่ามนุษย์สามารถเลือกได้ว่าจะทำลายโลกหรือทำให้โลกอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ใน VESPER เรายังมีเป้าหมายที่จะสื่อให้เห็นถึงการผสานกันระหว่างสิ่งมีชีวิตกับเครื่องจักร อย่างสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เก็บสะสมพลังงานไฟฟ้าให้แก่โดรนที่จะบินไปยังซิทาเดล ก็มีร่างกายส่วนหนึ่งเป็นเครื่องจักร ส่วนหนึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต

เราประกอบรวมมุมมองด้านภาพที่แตกต่างกันเพื่อสร้างภาพลักษณ์และความรู้สึกอันมีเอกลักษณ์ และยกระดับมูลค่าการผลิตเป็นภาพยนตร์ที่สเกลใหญ่กว่าเดิม ดังนั้นในโลกของการสร้างภาพยนตร์ เราผสมผสานเทคนิคชั้นสูงมากมายอย่างการใช้เอฟเฟคต์จริงที่ดีกว่าวิชวลเอฟเฟคต์บนโมเดลและแบบจำลองภาพสามมิติ มันยังเป็นหนทางสำหรับพวกเราที่จะสื่อสารสาระสำคัญที่แท้จริงที่เราต้องการนำขึ้นไปฉายบนจอภาพยนตร์ ซึ่งการทำแบบนั้นจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากใช้วิชวลเอฟเฟกต์เพียงอย่างเดียว  

นอกจากการเป็นภาพยนตร์แนวไซไฟ เป้าหมายหลักของเราคือการสร้างภาพยนตร์ที่น่าเชื่อถือและส่งผลกระทบที่สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลก ด้วยเหตุนี้จึงหยิบยกแนวทางที่นำเสนอความเป็นจริงจนเกือบจะคล้ายสารคดีมาใช้เพื่อสื่อถึงความโหดร้ายและน่าสลดของโลกที่กำลังจะตายใบนี้ และเพื่อเพิ่มความน่าสลดขึ้นอีกเราใช้แสงแบบ clair-obscur  (เทคนิคของจิตรกร แรมบรันต์) เป้าหมายของเราคือเพื่อชะล้างสีสันออกไป เหลือเพียงสีซีดจางในภาพยนตร์ มีเพียงพืชของเวสเปอร์เท่านั้นที่มีสีสันตระการตาราวกับความหวังอันริบหรี่ ป่าไม้เน้นให้เห็นระบบนิเวศแบบใหม่ที่มีต้นไม้อันแห้งแล้ง มอสสีเขียว และแนวหินที่มีเลือดเนื้อ ซึ่งส่งต่อแนวคิดที่ว่ามนุษยชาติแพร่กระจายดีเอ็นเอของตัวเองและจับจองทุก ๆ มุมโลกที่เราเดินผ่าน

ธรรมชาติและภูมิประเทศคือส่วนที่สำคัญอย่างมากในภาพยนตร์สำหรับพวกเรา สำคัญมากสำหรับแทบทุกตัวละครด้วยเช่นกัน พวกเราถ่ายทำในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิตอนที่ต้นไม้ไร้ใบ และสภาพแวดล้อมยังเป็นสีเทาหม่น ยังไม่ตื่นขึ้นมาพร้อมเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ สภาพของฤดูกาลแบบนี้เอื้อต่อการสื่อถึงภาวะหยุดนิ่งและเหนื่อยล้าในโลกที่ล่มสลายนี้

ดังนั้น เราพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะสร้างเสียงในระบบนิเวศแบบใหม่ที่ซึ่งไม่มีแม้แต่สัตว์หรือนกขึ้นมา เราสร้างเสียงของความเงียบซึ่งสร้างมาจากสายลม ต้นไม้ และสัตว์ในระบบนิเวศแบบใหม่นั้น พวกเราต้องการที่จะเข้าไปสั่นคลอนจิตใต้สำนึกของคนดูเพื่อสร้างความรู้สึกอย่างรุนแรงต่อโลกที่เราอยู่ เราจินตนาการให้ภาพยนตร์เป็นเหมือนสิ่งที่ให้ประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสและเป็นประสบการณ์ที่ดื่มด่ำไปกับมันได้ ที่ซึ่งภาพ เสียง และเรื่องราวถูกใช้เพื่อดึงดูดผู้ชมให้ตกลงไปอยู่ในสภาพที่เหมือนต้องมนต์

สำหรับแฟนหนังเมเจอร์ ห้ามพลาดกับบัตรดูหนังสุดคุ้ม M PASS ที่จะทำให้คุณคุ้มเต็มอิ่มกับการดูหนังตลอดทั้งปี เตรียมไปมันส์กับกองทัพหนังดังมากมาย สมัครง่ายๆเพียงแค่คลิก ที่นี่