ภาพ: ผู้เขียนสำนักพิมพ์: Live Rich / ผู้เขียน: ไมเคิล ค็อกซ์ / ผู้แปล: วิศรุต / พิมพ์ครั้งแรก: มีนาคม 2562พรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลสูงสุดของอังกฤษ และลีกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากทั่วโลก ไทม์ไลน์ในหนังสือ The Mixer เริ่มตั้งแต่ปีแรกที่พรีเมียร์ลีกก่อตั้ง คือฤดูกาล 2535-2536 และไปจบที่ 2559-2560 รวมระยะเวลา 25 ปี ตรงกับจำนวนบทของหนังสือพอดี แต่หนังสือไม่ได้เล่าแบบเจาะจงลงไปแบบหนึ่งฤดูกาลต่อหนึ่งบท หากจะเน้นไปที่วิวัฒนาการ การปฏิวัติ ความสร้างสรรค์ของโค้ช นักเตะที่เข้ามาเปลี่ยนวิถีของฟุตบอล ทีมที่เป็นแรงบันดาลใจ การพัฒนาการนอกสนามซึ่งส่งผลต่อการเล่นในสนาม และแนวคิดเชิงแท็กติกจากการเป็นแค่ลีกทั่วไปในประเทศ สู่การเป็นลีกสากลที่คนทั้งโลกให้ความสนใจ จากวันที่ในสนามมีแต่นักเตะท้องถิ่น สู่ตอนนี้ที่นักเตะแกนหลักของแต่ละสโมสร กับโค้ชล้วนเป็นชาวต่างชาติทั้งนั้น จากการโยนบอลมั่วไร้จุดหมายไปลุ้นประตูหน้ากรอบเขตโทษของทีมคู่แข่ง สู่การเล่นแบบฟอลส์ไนน์อัจฉริยะภาพ: ผู้เขียนก่อนหน้านี้ผมเคยอ่านหนังสือแปลเกี่ยวกับกีฬามาหลายเล่ม เช่น เล่มเจอร์ราร์ด ของสำนักพิมพ์ Move, เล่มอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ของสำนักพิมพ์ Nation แล้วไม่ค่อยประทับใจกับสำนวนการแปล แต่ซื้อเล่มนี้มาแล้วไม่ผิดหวัง หนังสือหนาเกือบ 600 หน้า (นึกว่า Yellow pages หรือคัมภีร์ไบเบิล) แต่อ่านเพลินมาก จบภายใน 6 วัน ด้วยสำนวนการเขียนที่เหมือนผมได้อ่านบทความทางเพจของคุณวิศรุต-ผู้แปล นั่นแหละ, และจากคลังความรู้และประสบการณ์ของคุณวิศรุตที่สะท้อนออกมาผ่านทุกบทความที่เขาเขียนในเพจ ถ้าชื่อนักเขียนบนปกเล่มนี้คือ ‘คุณวิศรุต’ ผมก็พร้อมจะเชื่อโดยไม่นึกสงสัยใดๆ (ขอนอกเรื่อง, นอกจากเล่มนี้ ผมอยากแนะนำ ‘Sportlight’ หนังสือรวมบทความจากในเพจของเขาเอง)ปกติผมเป็นคนดูบอลอยู่แล้ว มาอ่านเล่มนี้ก็ยิ่งอินเข้าไปใหญ่ อีกทั้งพรีเมียร์ลีกก่อตั้งปี 2535 ก่อนผมเกิดแค่ปีเดียว ผมก็ตามดูลีกนี้มาตั้งแต่จำความได้ คล้ายเราเติบโตมาด้วยกัน ชื่อนักเตะและโค้ชส่วนใหญ่ในเล่มก็เป็นคนที่ผมคุ้นเคยทั้งนั้น ใครที่เป็นแฟนบอลก็น่าจะอินเช่นกัน ไม่ว่าจะติดตามพรีเมียร์ลีกหรือลีกอื่นภาพ: ผู้เขียนภายในเล่ม นอกจากเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทีมใหญ่ หรือเรียกว่า ‘ทีมบิ๊กโฟร์’ เช่นการคว้าทริปเปิลแชมป์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2541-2542 และแชมป์ไร้พ่ายของอาร์เซนอลในฤดูกาล 2546-2547 ยังมีเรื่องที่ผมสนใจเป็นพิเศษคือ พวกเรื่องเกี่ยวกับทีมที่ไม่ใข่บิ๊กโฟร์ โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาล 2537-2538 ของแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, การเกือบคว้าแชมป์ลีกเมื่อฤดูกาล 2538-2539 ของนิวคาสเซิล, การทุ่มบอลไกลเข้ากรอบเขตโทษคู่แข่งของรอรี ดีแลป จากสโต๊ก ซิตี้, การเข้าถึงรอบชิงยูฟ่า ยูโรป้าลีก ของฟูแลม และการคว้าแชมป์ลีกของเลสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาล 2558-2559ฤดูกาลปัจจุบัน พรีเมียร์ลีกเหลือการแข่งขันอีกเพียงทีมละ 6 นัด (นับถึง 3 กุมภาพันธ์ 2563) ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูลยังนำเป็นจ่าฝูง ทิ้งห่างอันดับ 2 ถึง 22 คะแนน ประวัติศาสตร์หน้าใหม่กำลังจะถูกเขียนขึ้น การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกของหงส์แดง ซึ่งหากหนังสือเล่มนี้ต้องการทำฉบับปรับปรุงในวันข้างหน้า คงต้องเพิ่มเติมเนื้อหาอีกหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือการวิเคราะห์ว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ (โค้ชชาวเยอรมันของทีม) เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นในลีกเมืองผู้ดีอย่างไร เหตุใดเขาจึงทำให้นักเตะธรรมดาๆ เมื่อย้ายมาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ กลายมาเป็นซูเปอร์สตาร์ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปีภาพ: ผู้เขียนThe Mixer เป็น 1 ในหนังสือเพียง 2 เล่มที่ผมเพิ่งซื้อมาจากงานสัปดาห์หนังสือครั้งล่าสุด เพราะสถานที่จัดงานถูกย้ายจากศูนย์สิริกิติ์ ไปจัดไกล (จากบ้านผม) ถึงเมืองทอง ทำให้เดินทางลำบาก ผมขี้เกียจแบกหนังสือจำนวนมากแล้วนั่งรถสาธารณะกลับเข้าเมือง, เรื่องน่าเศร้าเพียงอย่างเดียวของการซื้อหนังสือเล่มนี้มาจากงานสัปดาห์หนังสือ คือ หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน ผมไปร้านหนังสือมือสองที่ห้างซีคอนสแควร์ แล้วเจอหนังสือเล่มนี้ในสภาพดีวางขายอยู่… ลด 50% จากราคาปก (ซื้อที่งานสัปดาห์หนังสือลดแค่ 15%)…อยากรู้ว่าใครเอามาปล่อยขายต่อ ทำไมไม่กระซิบมาทางผม!