สวัสดีค่ะ วันนี้มีภาพยนตร์จาก Netflix แนวสืบสวน ระทึกขวัญมาฝากกันค่ะ กับเรื่อง The Guilty ผลงานของหนุ่ม เจค จิลเลนฮอล Jake Gyllenhaal นักแสดงมากความสามารถที่โลดเล่นในฮอลลีวู้ดมานานกว่า 20 ปี หลายคนคงจำเขาได้จากบทวายร้าย Myterio ในเรื่อง Spider-Man: Far From Home สำหรับภาพยนตร์ Netflix เรื่อง The Guilty หนุ่มเจค รับบทเป็นตำรวจสืบสวน ที่ถูกย้ายมาทำงานหน้าโต๊ะ เป็นเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 911 ถึงแม้หลายเสียงที่ดูเรื่องนี้แล้วจะบอกให้หนีไป แต่กระแสหนังก็ดีมากถึงขั้นติดอันดับหนึ่ง Top 10 หนังน่าดูใน Netflix มากกว่า 10 ประเทศ และในบ้านเราก็กำลังอยู่อันดับสาม 😱 อ้าว!! แล้วอย่างนี้ 😎 ควรดู หรือข้ามดี เชิญไปติดตามกับรีวิวหนัง The Guilty ภาพยนตร์พากย์ไทยทาง Netflix กันค่ะ เมื่อตำรวจสืบสวนถูกลดขั้นมาเป็นเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุ 911 ภาพยนตร์ The Guilty (2021) เป็นเรื่องราวของโจ เบย์เลอร์ Joe Bayler เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนที่กำลังโดนสอบสวนในคดีที่ตนเองเคยรับผิดชอบ จึงถูกย้ายมาทำงานหน้าโต๊ะเป็นเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 911 ด้วยปัญหารุมเร้าทั้งเรื่องคดีที่กำลังโดนสอบสวน และปัญหาความสัมพันธ์กับภรรยาและลูกสาว บวกกับความเบื่อหน่ายในงานรับแจ้งเหตุทางโทรศัพท์ ทำให้เป็นคนอารมณ์ร้อนและหยาบคาย เมื่อได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุขอความช่วยเหลือจากคนที่มีปัญหาจากการใช้สารเสพติด หรือคนที่โดนปล้นเพราะซื้อบริการทางเพศ จึงไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่เมื่อได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุการณ์ลักพาตัวจาก เอมิลี่ คุณแม่ลูกสอง ด้วยสัญชาตญาณของนักสืบ (อดีตตำรวจสืบสวน) เขาจึงไม่ปล่อยผ่าน แต่พยายามหาทางช่วยให้เธอรอดพ้นจากผู้ร้าย แต่มันไม่ง่ายเลยเพราะโจเป็นเพียงเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย เขาจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากหลายหน่วยงาน ซึ่งการประสานงานผ่านทางโทรศัพท์เท่านั้นจะทำให้โจสามารถไขคดีลักพาตัว และช่วยเหลือเอมิลี่ได้หรือไม่ ต้องไปติดตามกันใน ภาพยนตร์ The Guilty ทาง Netflix ผ่านกล่องทรูไอดีทีวี มีพากย์ไทย หนังยาว 91 นาที นักแสดงคับคั่ง ถึงจะไม่ได้เห็นหน้าทุกคนก็เถอะ เจค จิลเลนฮอล Jake Gyllenhaal รับบทเป็น โจ เบย์เลอร์ อดีตนักสืบที่ถูกลดขั้นมาเป็นเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้าย 911 มีอาการป่วยเป็นโรคหอบหืด เป็นคนเครียด อารมณ์ร้อน ไม่มีมนุษย์สัมพันธ์ กลุ้มใจเมียทิ้งไม่ค่อยได้เจอหน้าลูก บุคลิกไม่เหมาะกับงานรับโทรศัพท์เลยแม้แต่นิดเดียว เบื่อหน่ายกับงานรับแจ้งเหตุที่ทำอยู่ จนได้รับโทรศัพท์จากเอมิลี่ หญิงสาวที่ถูกลักพาตัว สัญชาติญาณนักสืบทำให้เขาหาทางช่วยเอมิลี่ จนพบว่าจริง ๆ แล้วหลายสิ่งอาจไม่ได้เป็นอย่างที่คิด แค่รูปลักษณ์ภายนอก หนุ่มเจคก็ดูเหมือนเป็นตำรวจจริง ๆ แล้ว ทั้งทรงผม หุ่น คือใช่ อีกทั้งการใช้เครื่องไม้เครื่องมือติดต่อสื่อสารในเรื่องทำให้เชื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่ 911 การแสดงอารมณ์ผ่านสีหน้าทั้งอารมณ์โกรธ ดุดัน รู้สึกผิด กลัว โล่งอก สามารถสื่ออารมณ์ได้ชัดเจน นี่ยังไม่รวมฉากอ้วกในห้องน้ำ และการแสดงอาการหอบหืดที่ต้องพ่นยา แสดงได้ดีอย่างเหลือเชื่อ สมกับที่อยู่ในวงการมานานกว่า 20 ปี 👍 นึกไม่ค่อยออก ว่าถ้าไม่ใช่หนุ่มเจค จิลเลนฮอล แล้วจะให้ใครเล่นดี ?? https://twitter.com/netflix/status/1444052299463094275/photo/1 ไรลีย์ คีโอ Riley Keough รับบทเป็น เอมิลี่ สาวที่โทรศัพท์เข้ามาขอความช่วยเหลือเรื่องลักพาตัว ตอนโทรเข้ามาเอมิลี่ ทำทีว่าเธอโทรหาลูกสาว บอกว่าแม่ออกมาไม่นานเดี๋ยวก็กลับบ้าน จนโจต้องตีความเอาเองว่าเอมิลี่กำลังโดนลักพาตัว จากนั้นโจถามคำถามต่าง ๆ เพื่อขอข้อมูลการลักพาตัวโดยทุกคำถามให้เธอตอบแค่ YES กับ NO ถึงแม้จะไม่ได้เห็นหน้าสาวไรลีย์ เพราะมาแต่เสียงแต่การแสดงเสียงของเธอก็ทำเอาลุ้นระทึก ลุ้นตามทุกซีนhttps://twitter.com/netflix/status/1445137997804888066/photo/2 คริสตินา วิดัล Christina Vidal รับบทเป็นเจ้าหน้าที่ เดนิส เวด หัวหน้าโจ คนที่คอยควบคุมการทำงานของโจในหน่วย 911 ในเรื่องเราจะพอได้เห็นหน้า คริสตินาอยู่บ้างแต่บทก็ไม่ได้มีเยอะ แต่ที่ประทับใจที่สุด คงจะเป็นบทพูดของเดนิสที่ว่า "Broken people save broken people." คนที่แหลกสลายช่วยคนแบบเดียวกันได้ 👉 โดน 👏 อีธาน ฮอว์ค Ethan Hawke รับบทเป็นจ่า บิล มิลเลอร์ อดีตหัวหน้าของโจที่ต้องทำเวรเป็นเจ้าหน้าที่ศูนย์สื่อสารแอลเอพีดีชั่วคราว เป็นคนที่โจขอความช่วยเหลือ ให้ไปดูบ้านที่ลูก ๆ ของเอมิลี่อยู่กันตามลำพัง ถึงอีธานจะมาแค่เสียงแต่ก็มีซีนที่ดราม่าหนัก รู้สึกเหมือนคุยกันต่อหน้ามากกว่าแค่โทรศัพท์ และที่สำคัญรู้มาว่าเพราะสถานการณ์โควิด การถ่ายทำเลยให้หนุ่มอีธาน WFH ส่งเสียงผ่านระบบซูมมาเข้าฉาก โห!! 👏 จะว่าไปโควิดก็เปลี่ยนวิถีชีวิตไปเยอะเหมือนกันนะ นอกจากเรียนกับทำงานออนไลน์แล้ว ยังถ่ายหนังออนไลน์อีกด้วย 😂https://twitter.com/netflix/status/1445139149401432067/photo/2 ยังมีนักแสดงคนอื่น ๆ อีกหลายคน ที่ถึงจะมาแค่เสียง แต่ก็ทำได้ดีอย่างเหลือเชื่อ อย่าง อีไร กอลี่ Eli Goree ที่รับบทเป็น Rick คู่หูของหนุ่มเจค หรือ หนูน้อย คริสติน่า มอนทายา Christiana Montoya ที่รับบทเป็น แอ็บบี้ ลูกสาวของเอมิลี่ที่อยู่บ้านกับน้องชายและโทรมาขอความช่วยเหลือกับศูนย์รับแจ้งเหตุ 911 แม้จะมาแค่เสียงแต่หนูน้อยคริสติน่าก็ทำซะเห็นภาพว่า กำลังนั่งร้องไห้น้ำตานองหน้า แม่ไม่อยู่ น้องชายนอนหลับ 👏https://twitter.com/netflix/status/1445138786862522369 The Guilty หนังรีเมกจากเดนมาร์ก เรื่อง Den Skyldige (2018) The Guilty เป็นหนังรีเมกจากเดนมาร์กเรื่อง Den Skyldige (2018) โดยชื่อภาษาอังกฤษคือ The Guilty เหมือนกัน เวอร์ชั่นเดนมาร์กได้นักแสดงนำ Jakob Cedergren ซึ่งเนื้อเรื่องมีความคล้ายคลึงกันเกือบทั้งหมด จะต่างกันบ้างตรงที่ในเวอร์ชั่นอเมริกัน มีการสอดแทรกความเป็นอเมริกัน ที่ทุกอย่างดูค่อนข้างตึงเครียด เพิ่มความกังวลใจให้กับคนดูด้วยปัญหารุมเร้าของโจ (รับบทโดยเจค จิลเลนฮอล) ที่ทั้งป่วยเป็นหอบหืด หย่าร้างกับภรรยา ไม่ค่อยได้เจอลูก และยังมีเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าในแคลิฟอร์เนีย เป็นพื้นหลัง ทำให้กำลังเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอเพราะต้องไปช่วยไฟป่า เป็นต้น ถึงแม้หลายเสียงจะบอกว่า The Guilty (2021) เทียบไม่ได้กับเวอร์ชั่นเดนมาร์ก ที่ทำไว้ดีมากถึงขั้นได้คะแนนจากนักวิจารณ์ 98 % จากเว็บมะเขือเทศ (rottentomatoes.com) แต่ The Guilty เวอร์ชั่นเจค ก็ทำได้ไม่แย่นะ ได้คะแนนจากนักวิจารณ์ถึง 70 %https://www.instagram.com/p/BcHM176ljHa/?utm_source=ig_web_copy_link ผลงานของผู้กำกับชื่อดัง Antoine Fuqua เจ้าของผลงาน Training Day The Guilty (2021) เป็นผลงานของผู้กำกับ Antoine Fuqua อังตวน ฟูกัว ผู้กำกับชื่อดังที่เคยฝากผลงานสร้างชื่อไว้มากมายอย่าง Training Day, The Magnificent Seven, King Arthur, The Equalizer เป็นต้น ซึ่งในเรื่อง The Guilty นี้ถือเป็นการร่วมงานกันครั้งที่สองของ อังตวนกับเจค หลังจากเคยพบกันในภาพยนตร์เรื่อง Southpaw (2015) ซึ่งไม่รู้เพราะว่าความคุ้นเคยหรือเพราะความสามารถของทั้งผู้กำกับและนักแสดง หรือทั้งสองอย่าง ทำให้การถ่ายทำเรื่อง The Guilty ใช้เวลาเพียงแค่ 11 วัน 😱 โอ้ว!! แม่เจ้า!! คือถ้าได้ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คงไม่แปลกใจว่าทำไมใช้เวลาถ่ายทำสั้นจัง แต่ถึงเวลาจะสั้นแต่ว่าก็ทำได้ดี จนหลายเสียงกล่าวชื่นชมทั้งผู้กำกับและนักแสดงhttps://www.instagram.com/p/CQhLbKThojd/?utm_source=ig_web_copy_link นอกจากผู้กำกับเก่งและนักแสดงฝีมือเยี่ยมแล้ว อีกสาเหตุที่ทำให้หนังที่ทั้งเรื่องมีแค่บทสนทนาทางโทรศัพท์ น่าตื่นเต้นและน่าติดตาม ก็เพราะได้คนเขียนบทอย่าง นิค พิซโซลัตโต้ (Nic Pizzolatto) ที่เคยฝากผลงานไว้อย่างซีรีส์ True Detective ซีรีส์ทาง HBO ซึ่งเป็นแนวดราม่า สืบสวน ระทึกขวัญเช่นกัน https://www.instagram.com/p/CUdDem7Aepz/ เป็น 91 นาทีที่ลุกไปไหนไม่ได้ การดำเนินเรื่อง The Guilty นั้นใช้สถานที่อยู่ไม่กี่แห่ง คือ ห้องรับแจ้งเหตุรวม ห้องรับแจ้งเหตุส่วนตัว ทางเดินระหว่างห้องทั้งสอง และห้องน้ำในศูนย์รับแจ้งเหตุ มีแค่นี้จริง ๆ และส่วนใหญ่จะเป็นการโทรศัพท์ ที่บรรยายเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เวลาดูจะมีสมาธิมาก หลุดโฟกัสไม่ได้ เพราะกลัวจะพลาดอะไรสำคัญไป ถึงแม้จะมีแค่บทสนทนา แต่ก็ทำให้เห็นภาพสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด อีกสิ่งที่ทำให้ละสายตาไม่ได้ก็น่าจะเป็นชื่อเรื่อง The Guilty เพราะตลอดเวลาที่ดูก็ตั้งคำถามว่าความรู้สึกผิดที่ว่านี่มันคือเรื่องอะไร ชอบตรงมีปมทวิสต์ตอนท้ายอยู่นิดนึง ทำให้ยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีก ช่วงแรกอาจจะน่าเบื่อสักหน่อย น่าจะเป็นเพราะหนังต้องการสื่อให้เห็นภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่รับแจ้งเหตุว่าเนื้องานมันจะเป็นประมาณนี้นะ แต่ส่วนตัวดูแล้วก็มีอารมณ์ไม่ชอบใจอยู่พอสมควร เรียกได้ว่าอิน เพราะถ้าลองนึกภาพว่าตัวเองกำลังโทรไปแจ้งเหตุ แล้วดันเจอเจ้าหน้าที่กวนอารมณ์ แบบคนกำลังเดือดร้อน เจ้าหน้าที่ก็ดันไม่สนใจอีก 😡 แต่บอกเลยว่าเพราะตรงนี้แหละ ที่ทำให้หนังน่าติดตาม หลังจากได้รับโทรศัพท์จากเหยื่อโดนลักพาตัว การแก้สถานการณ์และการพยายามไขคดีของโจ ผ่านการสั่งการและขอความช่วยเหลือทางโทรศัพท์ ยิ่งทำให้เนื้อเรื่องน่าติดตามเข้าไปอีก ทำเครียด ลุ้น เรียกว่ายิ่งดูยิ่งติด ยิ่งดูยิ่งละสายตาไม่ได้ ตรงนี้เอาตรง ๆ ไม่ใช่ทุกคนจะชอบ เพราะทั้งเรื่องคุยโทรศัพท์ตลอด 91 นาที มีแค่บทพูดและการแสดงสีหน้าของนักแสดง ถ้าใครชื่นชอบการแสดงและผลงานของหนุ่มเจคอยู่แล้ว ก็คงไม่ยากอะไรที่จะชอบภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะก็นับว่าเป็นหนังที่ต้องอาศัยความสามารถของนักแสดงล้วน ๆ ซึ่งหนุ่มเจคก็ทำไว้ดีเลิศ** หมายเหตุ : รีวิวบนพื้นฐานการรับชมภาพยนตร์แบบ Soundtrack https://www.instagram.com/p/CUiHbILAnhN/?utm_source=ig_web_copy_link ให้คะแนน 7.9/10 อย่างที่บอกถ้าไม่ชอบนักแสดงนำเจค เรื่องนี้อาจจะต้องคิดเยอะก่อนดู เพราะหนังไม่มีอะไรเลย คุยโทรศัพท์ตลอดทั้งเรื่อง แต่การแสดงของหนุ่มเจคทำพูดไม่ออก เพราะทำไว้ต๊าชมาก ทำให้การคุยโทรศัพท์มันมีอะไรมากกว่าแค่คุยโทรศัพท์ เป็น 91 นาทีที่ติดหนึบ ให้คะแนน The Guilty 7.9/10 หักคะแนนตรงเนื้อเรื่องบางส่วนที่ดูแล้ว แอบคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ส่วนดูแล้วคุณจะชอบไหม ต้องไปตัดสินกันเอง สามารถรับชม The Guilty ได้ทาง Netflix ผ่านกล่องทรูไอดีทีวี หนังไม่ยาวมาก และมีพากย์ไทย เครดิตภาพ :Netflix YouTube : วีดีโอ1 Netflixjp IG : ภาพปก/9/10BoldFilms IG : ภาพ1 / ภาพ7 Netflix Twitter : ภาพ2 / ภาพ3 / ภาพ4 / ภาพ5 jcder : ภาพ6 jakegyllenhaal : ภาพ8 / ภาพ11 บทความรีวิวหนัง/ซีรีส์ Netflix อื่น- รีวิวซีรีส์ Maid ชีวิตเปื้อนเหงื่อ ซีรีส์ดราม่าชีวิตแม่เลี้ยงเดี่ยว - รีวิวหนัง ห้องเช่าขังตาย No One Gets Out Alive หอพักสุดสะพรึง- รีวิวซีรีส์ มิดไนท์ แมส Midnight Mass ปฏิหาริย์จากความศรัทธา พากย์ไทย ใน Netflix- รีวิวหนัง ผู้บุกรุก Intrusion หนังระทึกขวัญ ชวนลุ้นปมปริศนา- รีวิวหนังแฟนตาซี Nightbooks ไนต์บุ๊คส์- รีวิว SAS: Red Notice | Rise of the Black Swan หงส์ดำผงาดอัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!