บ๊วย เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ยุติ “ช่องส่องผี” ไม่ได้หนีดราม่า

บ๊วย เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้ยุติ “ช่องส่องผี” ไม่ได้หนีดราม่า

บ๊วย เชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ / หลังจากที่ บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ เจ้าของรายการช่องส่องผี ประกาศเตรียมยุติการทำรายการที่ทำมา เกือบ 3 ปี ล่าสุด บ๊วย เผยกับข่าวสดออนไลน์ แจงถึงสาเหตุที่ต้องยุติรายการดัง

ปิดรายการช่องส่องผี “อย่างแรกรายการช่องส่องผี คือมีสองด้าน ด้านหนึ่งคือทำกับเพื่อนรวมทีมกับซัพพอร์ตเพื่อน นี่คือเหตุผลเริ่มต้น แต่ทีนี้อีกด้านหนึ่งคือด้านจิตวิญญาณ จากคนที่ไม่เชื่อๆ จนทำไปทำมาก็โอเค มั่นใจว่าเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ด้านจิตวิญญาณเราเหมือนทำงานรับใช้สิ่งศักดิ์สิทธ์ ทำไมถึงพูดคำนี้ เพราะว่าเรื่องบางเรื่องยากมากมันก็ง่าย วัดบางวัดที่ไม่น่าจะขอได้ก็ได้ หรือเรื่องราวที่ผู้ใหญ่ไม่น่าจะเอ็นดูท่านก็เอ็นดูแบบนี้ครับ เรื่องดราม่าที่เรายังทำอยู่ อย่างเรื่องเงินบริจาคกับเรื่องความตรงไปตรงมาเราก็ผ่านมันมาได้ เพราะฉะนั้นเชื่อว่าสิ่งที่เรายังคงทำได้ในช่องส่องผีคือ เชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์จริง และเรื่องของบาปบุญคุณโทษ ก่อนหน้าเริ่มรายการเมื่อแรกๆ เราคุยกันว่าเราจะทำรายการถึงเมื่อไหร่ เพราะว่าเราอยากรู้เนอะ แล้วสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็บอกว่า 3 ปี ตอนนั้นเรายังคิดเลยว่าทำไมเร็วจัง แล้วพอ 19 เมษายน ก็จะครบ 3 ปีพอดี พอมันเป็นเรื่องของความเชื่อ คนก็จะมองอีกด้านหนึ่ง แต่เราเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกให้พอได้แล้ว เราก็เพียงพอแล้ว”

“ตอนนี้ผมก็กำลังเคลียร์คิวว่าจะสามารถบวชได้ไหม เพื่อทดแทนบุญคุณครูบาอาจารย์ เพราะสิ่งที่ผมได้มาจากช่องส่องผีเยอะนะ เรื่องของงาน ความเข้าใจในบาปบุญคุณโทษ มันทำให้เราเข้าใจชีวิต เหมือนเราเรียนหนังสือ ดูฤกษ์ดีก็อาจจะบวชพร้อมกัน ส่วนตัวผมขอเช็คคิวก่อน เพราะตั้งใจว่าจะบวชพร้อมกัน 19 เมษายนนี้”

สิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกให้ยุติใช่ไหม “ถึงบอกไงว่ามันคือความเชื่อ ถ้าให้พูดผมก็ต้องระวังนิดนึง คือเราทำงานรับใช้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดูจากรายการที่ดังขึ้นมา ยอดติดตามเป็นหลักล้าน เรามองว่าเรื่องนี้คือสมองเราทำงานก็เรื่องหนึ่ง อีกด้านหนึ่งก็คือมีครูอาจารย์ช่วยเหลือ ถ้าจะบอกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกก็คงใช่ที่ เอาเป็นว่าครูบาอาจารย์บอกแล้วกัน ท่านบอกว่า 3 ปี แล้วมันถึงวาระแล้วด้วยครับ เท่าที่คุยกันพี่เจมส์ก็ต้องไปทำราชการครับ อาจารย์เรนนี่เขาก็จะบวชครับ”

มีสิ่งที่ทำให้ต้องจดจำไปตลอดชีวิต “อีพีที่ไปวัดสุทัศน์ครับ ไปดูเรื่องเปรตวัดสุทัศน์ ก็มีเหตุการณ์ที่ทำให้ไวเลสใช้การไม่ได้ แต่ผมเองเป็นหัวหน้าทีมก็ต้องดูว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วผมก็ไปยกมือเพื่อถวายความดีกับพระอัฐิของพระสังฆราชแพ อดีตเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ ก็ยกมือขึ้นมาว่าจะถวายความดีอะไรนะ ก็โพล่งไปในใจว่า “ขอถวายด้วยถือศีล5 ตลอดชีวิต” ผมก็คิดในใจว่า เฮ้ยคิดอะไรของมึง ซึ่งคือคิดว่าไม่น่าจะทำได้ แต่สิ่งหนึ่งตั้งแต่วันนั้นเราก็ตั้งใจทำให้สมบูรณ์ เรียกได้ว่าเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร เพราะฉะนั้นอันนี้คือความประทับใจ เพราะว่าเปลี่ยนชีวิตเราไปเลย”

เรื่องของเงินบริจาคและมูลนิธิทำยังไงต่อ “มูลนิธิยังมีอยู่ ยังขับเคลื่อนอยู่ อย่างตอนนี้ก็ซื้อเรือช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วมที่อยุธยา ตั้งใจซื้อเพราะว่าน้ำยังท่วมอีก 2 เดือน แล้วเราลงพื้นที่จริงๆ ส่วนเงินบริจาคก็ยังอยู่เพราะเป็นเรื่องที่ตรวจสอบได้ อันนี้ค่อนข้างโปร่งใสมากๆ ผมเองยังเป็นกรรมการมูลนิธิอยู่ ยังช่วยเหลือคนอยู่ เพจก็ยังไม่ได้ปิด ช่องยูทูบก็ยังอยู่”

เสียดายไหม ต้องหยุดทำรายการนี้ “เสียดายอยู่แล้ว ไม่มีอะไรไม่เสียดาย แต่เราเชื่อว่าเราเชื่อฟังพ่อแม่ พ่อแม่บอกไม่ให้ไปเราก็ไม่ไป เราใช้คำว่าครูบาอาจารย์บอกว่าหยุดเถอะ ผมคิดว่าเสียดายนะเสียดาย แต่เราเชื่อก็ทำตาม และก็คิดว่าน่าจะมีโอกาสที่ดีกว่า”

บางกระแสบอกว่า ทนดราม่าไม่ไหว “คนจะพูดอะไรก็พูดไป ถามว่าตอนนี้ช่องส่องผีมีดราม่าไหม ก็ไม่มี เราเพิ่งถวายกฐินพระราชทานไป เพราะฉะนั้นเชื่อว่าไม่มีอะไรไม่เสียหาย จะพูดว่ามันมีทั้งคนชอบและคนไม่ชอบ เราจะอยากให้ทุกคนชอบเราก็ไม่ได้”

ยังยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับดราม่า “ต้องขอบคุณทุกคนครับ ไม่ว่าจะรับชมด้วยอารมณ์ไหนก็ตาม ขอบคุณครับที่ทำให้ช่องส่องผีได้เป็นที่รู้จัก ในฐานะคุณพ่อคนหนึ่งของน้องช่องส่องผี ก็เสียดายครับ แต่ไม่ว่าคุณจะว่าลูกผม น้องช่องส่องผียังไง ที่ผมหยุดทำไม่เกี่ยวกับทนดราม่าไม่ไหวนะครับ อันนี้ขอปฏิเสธ แต่สิ่งที่เราทำคือมีความเชื่อว่าเราเชื่อครูบาอาจารย์ เขาให้หยุดเราก็หยุด เพราะฉะนั้นมันคือความท้าทายใหม่ครับ ก็ฝากติดตามกันครับ”