Juror 8 (2019) 8 คนพิพากษาสามารถรับชมได้ทาง : https://www.viu.com/ott/th/th/vod/212057/Juror-8หนังเล่าถึงเรื่องราวในปี 2008 ที่ คิมจุนคยอม (So-Ri Moon) ผู้พิพากษาหญิงที่ได้รับมอบหมายให้ตัดสินคดีมาตุฆาต ซึ่งผู้ที่ตกเป็นจำเลยในคดีก็คือ คังดูซิก (Seo Hyun-Woo) ชายพิการ ที่อาศัยอยู่กับแม่ตามลำพังในคืนเกิดเหตุ ความพิเศษของการพิจารณาคดีนี้ก็คือ การใช้คณะลูกขุน 8 คน ร่วมในการพิจารณาตัดสินคดีเป็นครั้งแรกของเกาหลี มันจึงกลายเป็น Talk of the town ที่ประชาชนและสื่อมวลชนให้ความสนใจเป็นพิเศษแต่อีกด้านหนึ่งมันก็เท่ากับ เป็นการโยนความกดดันให้กับ คิมจุนคยอม ที่ต้องพยายามรักษาภาพลักษณ์ขององค์กรเอาไว้ ไม่ให้เกิดดราม่าวุ่นวายระหว่างการพิจารณาคดี รวมทั้งคณะลูกขุนทั้ง 8 คน ที่พวกเขาจะต้องตัดสินชีวิตของคนคนหนึ่งเป็นครั้งแรกในชีวิต เพียงแค่เขียนคำตัดสินลงในกระดาษเท่านั้น ก็สามารถชี้เป็นชี้ตายให้กับคนคนหนึ่งได้แล้วแต่คำตัดสินที่น่าจะได้ผลสรุปอย่างง่ายดาย เมื่อหลักฐานของอัยการแน่นหนาจนมัดตัวผู้ต้องหา เสียงโหวตที่ต้องเป็นเอกฉันท์ 8 ต่อ 0 เท่านั้น จึงจะตัดสินคดีได้ กลับมี ควอนนัมอู (Hyung-shik Park) ลูกขุนหมายเลข 8 ที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ เขาจึงอยากให้ทุกคนในห้องนั้น นั่งลงถกเถียงกันถึงหลักฐานอีกครั้งว่า คังดูซิค ควรจะมีความผิดจริงหรือไม่ขออนุญาตใช้รูปภาพประกอบบทความจาก : VIU #ReViu***เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ******ตอนอ่านเรื่องย่อในทีแรกผมเข้าใจว่าหนังหยิบเอาเรื่องจริง การพิจารณาคดีโดยใช้คณะลูกขุนเป็นครั้งแรกในเกาหลีมาใช้ แต่กลายเป็นว่าพอได้ดูเต็มเรื่องแล้ว หนังน่าจะสมมติเหตุการณ์ขึ้นมาโดยใช้หนังคลาสสิกเรื่อง 12 Angry Men (1957) 12 คนพิพากษา มาเป็นแรงบันดาลใจ โดย Juror 8 บิดเนื้อหาที่ต้องการสื่อและประเด็นให้แตกต่างออกไปสิ่งที่ Juror 8 (2019) นำเสนอแตกต่างไปก็คือ หนังไม่ได้ใช้เวลาทั้งหมดในห้องพิจารณาคดีเท่านั้น แต่ยังมีการออกมาค้นหาข้อเท็จจริง ตามสมมติฐานนอกห้องพิจารณาคดีอีกด้วย ซึ่งต่างจาก 12 Angry Men (1957) ที่ตลอดทั้งเรื่องคณะลูกขุนทั้ง 12 คนอยู่ในห้องประชุมพิจารณาคดีกันตลอดเวลา นอกจากความต่างที่กล่าวมาแล้ว อีกส่วนที่ไม่เหมือนกันเลยก็คือ อารมณ์ของหนังที่ Juror 8 (2019) ค่อนข้าง มีอารมณ์ขัน ดราม่าเบามากกว่า ส่วน 12 Angry Men (1957) ดราม่าจัดเต็ม ตัวละครสาดใส่อารมณ์กันเหมือนพายุประเด็นที่ Juror 8 (2019) ขับเน้นก็คือ “ครั้งแรก” ของการใช้คณะลูกขุน การสื่อสารให้คนธรรมดา ตระหนักถึงความสำคัญของกฎหมาย รวมทั้งที่จู่ ๆ พวกเขาก็มีอำนาจตกมาอยู่ในมือ สามารถชี้เป็นชี้ตายคนได้ ฉะนั้นการจะตัดสินไปในทางใดทางหนึ่ง ก็ควรจะหาคำตอบให้ตัวเองเป็นที่ยุติได้เสียก่อน พิจารณาทุกแง่มุม ข้อสงสัย อย่างรอบด้าน เพราะหลายชีวิตที่จะได้รับผลกระทบอยู่ในกำมือพวกเขาในตอนนี้ขออนุญาตใช้รูปภาพประกอบบทความจาก : VIU #ReViuหนังพยายามชี้ให้เห็นความสำคัญของกฎหมายว่า มันจะถูกต้องได้อย่างไร หากจะลงโทษผู้คนโดยไม่มีมาตรฐานใด ๆ เลย กฎหมายจึงเป็น เครื่องมือที่สร้างขึ้นมา เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษคนอย่างไม่เป็นธรรมและเพื่อเป็นมาตรฐานเดียวกัน เมื่อพวกเขากระทำความผิด การใช้กฎหมายหรือการพิจารณาความผิด จึงต้องทำโดยรอบคอบ ระมัดระวัง เหมือนอย่าง ควอนนัมอู ลูกขุนหมาย 8 ที่จะยังไม่ตัดสินใจอะไร จนกว่าเขาจะได้ข้อยุติให้กับตัวเองเสียก่อนตลอด 1.50 ชั่วโมงของหนังถึงเนื้อหาจะไม่ได้เข้มข้น ขับเน้นอารมณ์มากเหมือนกับ 12 Angry Men (1957) แต่กับตัวผมเองที่ได้ดูต้นฉบับแรงบันดาลใจมาก่อนแล้ว ก็ยังถือว่า Juror 8 ยังสนุกดึงความน่าสนใจของคนดูเอาไว้ได้นะ ส่วนหนึ่งอาจจะด้วยเราอยากรู้ว่าตกลงแล้ว ลูกขุนทั้ง 8 คนจะตัดสินใจอย่างไร หนังจะบิดเนื้อเรื่องไปจากต้นตำหรับหรือเปล่าจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน จะให้บทสรุปเรื่องราวเหมือนกันหรือไม่ ซึ่งผมคงจะไม่เปิดเผยเนื้อหา หากใครอยากทราบไปลองรับชมดูเอาก็แล้วกันครับ ฮ่าฮ่าขออนุญาตใช้รูปภาพประกอบบทความจาก : VIU #ReViuสรุปแล้ว Juror 8 (2019) 8 คนพิพากษา เป็นหนังที่หากไม่คาดหวังจะได้ความเข้นข้น ดราม่าจัดเต็ม หรือคนที่ไม่อยากดู 12 Angry Men (1957) เพราะคิดว่าเก่าแล้วกลัวไม่สนุก (แต่จริง ๆ สนุกมาก) อยากจะดูหนังที่คล้ายกันเล่าในประเด็นใกล้เคียงกัน ก็ถือว่าเรื่องนี้พอจะตอบโจทย์ความบันเทิงและเนื้อหาสาระได้ ถึงแม้ผมจะยังอยากแนะนำให้ดู 12 Angry Men (1957) ด้วยก็ตามDirector: Seung-wan Hongขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบบทความจากภาพยนตร์ : Juror 8 (2019)สามารถรับชมได้ทาง : https://www.viu.com/ott/th/th/vod/212057/Juror-8เขียนโดยแอดมิน เพจ ปีนรั้วดูหนัง