แบงค์ ปวริศร์ รับเจอผลกระทบโควิด กลับไปถ่ายหนังที่จีนไม่ได้ โดนแคนเซิลงานรวด
แบงค์ ปวริศร์ รับเจอผลกระทบโควิด กลับไปถ่ายหนังที่จีนไม่ได้ โดนแคนเซิลงานรวด
เป็นอีกหนึ่งนักแสดงไทยที่ได้ไปโลดแล่นในวงการบันเทิงจีน สำหรับ แบงค์ ปวริศร์ มงคลพิสิฐ ที่เจ้าตัวได้เผยว่าไปถ่ายหนังอยู่ที่จีนมีผลงานกว่า 10 เรื่องแล้ว โดยเป็นหนังแนวบู๊ แอคชั่น
“ก็สนุกดีครับ ได้ประสบการณ์อีกแบบหนึ่งเพราะว่าภาษาเราก็ไม่ได้แต่ว่าจะเป็นการทำงานอีกแบบก็คือผ่านล่ามด้วยแล้วก็เวลาถ่ายทำมันต่อบทกับคนจีน นักแสดงจีนก็จะต้องเหมือนทำความเข้าใจอีกไรงี้ครับ”
“ถ้าเป็นไดอะล็อกอ่านอะไรแบบนี้ไม่ได้ต้องใช้ฟังเอาแล้วก็จับประโยคสุดท้ายแล้วก็มาต่อเราแล้วก็พูดไป”
“ยากมากครับ ทั้งเขาทั้งเราด้วยแหละเพราะว่ามันต่อบทกันลำบากเพราะว่าต่อกันหลายๆคนเราต้องจับประโยคสุดท้ายของเขาแล้วเราก็พูดออกไป เขาก็ต้องจับประโยคสุดท้ายของเราแบบว่าต้องรู้ว่าซีนอันนี้เนื้อเรื่องเป็นยังไงก่อนแล้วก็มาต่อบทอีกที ยากครับ”
ก่อนที่แบงค์จะเล่าถึงประสบการณ์ในวงการบันเทิงจีนว่า
“โห โตมาก ก็คือเขาเหมือนกับประชากรเขาเยอะอยู่แล้ว ประมาณว่าเขาทำเป็นอุตสาหกรรมหนังที่ฉายในประเทศเขาก็พอแล้วไม่ต้องถึงกับส่งออกต่างประเทศอะไรแบบนี้ ก็ได้ไปร่วมงานกับผู้กำกับเก่า เขาเป็นชาวฮ่องกง เขาไปทำอุตสาหกรรมที่จีนแล้ว เขาก็ไม่ได้ทำที่ฮ่องกงเพราะว่าที่จีนเป็นอุตสาหกรรมที่ใหญ่มาก”
ซึ่งในช่วงโควิดที่ผ่านมา เจ้าตัวยอมรับว่าได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก
“กระทบมากเลยครับ เพราะว่าตอนแรกช่วงโควิดมีเซ็นไว้อีกประมาณหลายเรื่องเหมือนกันครับ ต้องแคนเซิลหมดเลยมีถ่ายไปแล้วคิวนึงก็ต้องแคนเซิลอีกเรื่องหนึ่ง คือมันไปไม่ได้จริงๆ”
“ช่วงโควิดเกิดผมกำลังไปพอดีแต่ว่ามันไม่ดังเท่าไหร่ กำลังเพิ่งเริ่มมีข่าวอันนั้นไปถ่ายมาคิวนึง ไปแถลงข่าวอะไรมาเรียบร้อยแล้วพอกลับมาถึงเพิ่งเกิดเขาก็เลยแคนเซิลหมดทุกอย่าง ตัดจบหมดเลย ก็เลยยังไม่รู้ว่า ผมว่ามาตรการเขาเข้มงวดมากเรื่องโควิดจนปัจจุบันนี่ก็ยังเข้มงวดเลยครับ”
แนวโน้มที่จะได้กลับไปทำงานที่จีนอีก แบงค์ ก็ง่าคงต้องรอการดีลงานชิ้นใหม่แทน
“ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่าเรื่องที่เราคุยไว้มันปิดโปรเจ็คไปแล้วหรือเปล่า คือตอนนี้ต้องรอให้ผู้จัดการจีนดีลเรื่องใหม่ก่อนเพราะว่าอันนี้มันเริ่มซา”
ซึ่งตอนนี้ก็กลับมารับงานที่ไทยแทน “ก็เต็มที่ครับคือคุยไว้อีกเรื่องนึงเหมือนกัน ซีรี่ย์น่าจะช่องจีเอ็มเอ็มเร็วๆนี้”
“ก็เริ่มชินกับไทยแต่ตอนแรกก็ไม่ค่อยชินเท่าไหร่เพราะว่าตอนแรกมาทำซีรี่ย์มูลนิธิมันเป็นแบบไทยแล้วก็อันนั้นห่างจากไทยไปประมาณ2ปีแล้วก็มีเกร็งๆเหมือนกันตอนแรกเพราะว่าการทำงานมันต่างกันพอสมควร”