สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ที่น่ารักทุกคน ไหนใครเป็นคนที่แพ้ทางให้กับภาพยนตร์โรแมนติกที่แฝงมาด้วยการจากลากันบ้างคะ เชื่อเลยว่าคอหนังต้องไม่มีพลาดกับผลงานภาพยนตร์เรื่อง The Last 10 Years สุดท้ายและตลอดไป ผลงานภาพยนตร์จากประเทศญี่ปุ่นที่มาเล่าเรื่องราวของความรักที่แสดหวานแต่มิอาจจะลืมไปได้ว่าทุกชีวิตล้วนแล้วต้องดับสลาย แค่เกริ่นเรื่องมาก็ชวนน้ำตานองกันแล้วใช่ไหมคะ วันนี้จึงจะถือโอกาสมาป้ายยาและมารีวิวตามความรู้สึกจริง ๆ หลังจากรับชมผลงานภาพยนตร์เรื่อง The Last 10 Years สุดท้ายและตลอดไป ขอแอบบอกนิดหนึ่งว่าผลงานภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากเรื่องจริงและเคยเป็นนิยายขายดีมาก่อน เรื่องราวที่ถูกนำมาแต่งเติมนี้เป็นการถ่ายทอดจากนักเขียนนิยายเอง ไปตามดูกันเลยกับรีวิวหนังเข้าใหม่เข้าโรง The Last 10 Years สุดท้ายและตลอดไปชื่อ : The last 10 Years / สุดท้ายและตลอดไปกำกับ : Michihito Fujiiเขียนบท : Yoshikazu Okada, Mako Watanabeความยาว : 124 นาทีhttps://www.youtube.com/watch?v=79iyuwtq1uIเรื่องย่อภาพยนตร์เรื่อง The Last 10 Years สุดท้ายและตลอดไป เป็นการเล่าเรื่องราวของหญิงสาวที่ชื่อว่า มัตสึริ หญิงสาวที่มาพร้อมกับโรคร้ายที่มีคนน้อยคนมากที่จะเป็นโรคนี้ เธอมาด้วยข้อจำกัดของชีวิตเพราะเธอมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้อีกเพียง 10 ปีเท่านั้นและเมื่อใดที่โรคร้ายนี้กำเริบขึ้นมามันก็พร้อมที่จะปลิดชีวิตของเธอไปได้เมื่อนั้น ดังนั้นเธอก็ใช้ชีวิตด้วยความหดหู่และเศร้าหมอง ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอไม่คิดที่จะมีความรักกับใครอีกเลย จนในงานเลี้ยงรุ่นมัตสึริก็ได้พบกับชายคนหนึ่งที่เป็นเพียงเพื่อนร่วมห้องเรียนของเธอ นั้นก็คือ คาซึโตะ มานาเบะ ชายผู้ที่สับสนและหมดหวังในชีวิต งานเลี้ยงรุ่นในครั้งนี้ก็ทำให้เขาและเธอได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น ทั้งสองก็ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในการสร้างความสุขในชีวิตและความรู้สึกของเขาทั้งสองคนก็เริ่มเปลี่ยนจากคนรู้จักกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แล้วเรื่องราวจะเป็นอย่างไรไปตามดูเอานะคะ งดสปอยนักแสดงนานะ โคมัตสึ รับบทเป็น มัตสึริ หญิงสาวที่พบว่าตัวเองนั้นป่วยเป็นโรคร้ายไม่มียาตัวไหนรักษาได้ เธอเป็นเพียง 1 ในคน 10000 คนที่จะเป็นโรคนี้ ชีวิตของเธอถูกจำกัดด้วยการป่วยเป็นโรคนี้ เธอปิดกั้นตัวเองจากการที่จะรักใครสักคนมานานแสนนาน อีกทั้งยังปิดกั้นโอกาสที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากคนรอบกาย ชีวิตของเธอช่างน่าเศร้าและหดหู่มาก ๆ และข่าวร้ายที่สุดคือเธอมีชีวิตอยู่เพียง 10 ปีเท่านั้น แน่นอนว่าตัวละครมัตสึริคือตัวละครหลักที่จะมาเล่าเรื่องราวของเธอผ่านภาพยนตร์เรื่องนี้ ตัวละครนี้ก็มีคาแรกเตอร์เด่น ๆ คือแววตาที่น่าสงสาร สายตาอันหมดหวังและหัวใจที่แสนห่อเหี่ยว ภาพรวมฝีมือทางด้านการแสดงของนานะ โคมัตสึ ในบทบาทของ มัตสึริ คือปังอยู่เด้อทำเอาคนดูน้ำตงน้ำตาท่วมจอกันไปตาม ๆ กัน เธอคนนี้เข้าถึงอารมณ์ของตัวละครจริง ๆ และเธอสามารถที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้คนดูได้เชื่อว่าเธอคือมัตสึริ ส่วนคนดูอย่างนักเขียนก็อินตาม หลังดูจบก็ดาวน์ไปหลายชั่วโมงเหมือนกัน การแสดง 10 เต็ม 10 ไปเลยเคนทาโร่ ซาคากุจิ รับบทเป็น คาซึโตะ มานาเบะ ชายหนุ่มผู้ที่สับสนในชีวิต ช่วงชีวิตของเขาพบเจอแต่ความสิ้นหวัง จนในบางครั้งเขาแทบจะไม่อยากจะมีชีวิตอยู่และเคยแก้ปัญหาด้วยการปลิดชีพตัวเองแต่ไม่เป็นผล ชีวิตของคาซึโตะ มานาเบะถึงแม้ว่าจะไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบแต่เขาก็ไม่ได้มีข้อจำกัดทางร่างกาย คาซึโตะ มานาเบะได้รับแรงผลักดันในการใช้ชีวิตจากมัตสึริเสมอมาและยังมีมัตสึริคอยเป็นที่ปรึกษาที่ดี ตัวละครคาซึโตะ มานาเบะเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่จะมาแสดงความขัดแย้งของตัวละครมัตสึริและทำให้เราได้เห็นความแตกต่างของทั้งสองคนนี้ได้ชัดมากยิ่งขึ้น คาแรกเตอร์ของคาซึโตะ มานาเบะก็จะแสดงให้เห็นเลยว่าเขาเป็นคนที่หมดหวัง สิ้นหวังและไม่มีแรงผลักดันใด ๆ ในชีวิตเลย แน่นอนว่าเคนทาโร่ ซาคากุจิก็งัดจุดเด่นและเล่าเรื่องราวของคาซึโตะ มานาเบะในตัวละครนี้ได้น่าสนใจและเข้าถึงอารมณ์มาก ๆ ทำให้เห็นถึงวิธีคิดและการแก้ไขปัญหาของตัวละครนี้อย่างลงตัวภาพรวมของการแสดงให้ 10 เต็ม 10 ไปเลยพล็อตเรื่องชวนดูขอเอ่ยปากชมเลยว่าเนื้อเรื่องนี้คอนข้างเรียกกระแสคนดูได้ดีเป็นอย่างมาก เพราะเมื่อจะมาขายพล็อตเรื่องด้วยความทรงจำและเรื่องราวของเวลาคือทำได้ดีน่าใจ อย่างนักเขียนเองก็เป็นทาสของแนวภาพยนตร์เศร้า ๆ เล่าถึงความสัมพันธ์ที่แฝงไปด้วยน้ำตาและสายดราม่าคือปังนะ การที่ตัวภาพยนตร์เรื่องนี้เล่าถึงเงื่อนไขของชีวิตผ่านช่วงเวลาที่มีจำกัด แน่นอนว่าเมื่อรู้ว่าเราเองจะตายตอนไหนมันก็มีความเศร้าอยู่ในใจอยู่แล้ว แต่ก็เลือกที่จะเก็บความทรงจำในช่วงที่มีชีวิตอยู่ให้ได้มากที่สุดและทำทุกอย่างให้ดีที่สุด เมื่อได้มองเรื่องราวเหล่านี้ผ่านห้วงของความทรงจำของเรามันเป็นอะไรที่ดีมาก ๆ เลย และพล็อตเรื่องนี้ที่สร้างตัวละครเคนทาโร่ คาซึโตะและมัตสึริที่มาสร้างความแตกต่างของแนวคิด การตัดสินใจ การเติบพลังให้กันและกัน จนกลายมาเป็นความผูกพันความหวังดีที่มีให้กัน เป็นโจทย์ที่ทำได้ดีมาก ๆ เลยเพราะในความเศร้าก็ยังมีความโรแมนติกทำให้เนื้อเรื่องไม่ได้เป็นกราฟเส้นตรง แต่เป็นกราฟที่ขึ้นและลงทำให้มีสีสันมากยิ่งขึ้น ในส่วนของพล็อตเรื่องให้ 9 เต็ม 10 หักนิดหน่อย 1 คะแนนเพราะว่าพล็อตเรื่องแบบนี้ค่อนข้างมีเยอะมาก ๆ แต่ในเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องที่สร้างความแตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ ได้ดี เช่นการที่ได้แง่คิดในชีวิต หากเราเอาตัวเองไปอยู่ในเรื่องก็จะแอบอินตามและตกผลึกว่าชีวิตทุกชีวิตล้วนดับสลายบรรยากาศสุดปังขอบอกตั้งแต่ต้นเลยว่าเรื่องบรรยากาศต้องให้เขา 10 คะแนน จริง ๆ เนื่องมาด้วยความตั้งใจและทุ่มเทในการทำงานมาก ๆ โดยใช้เวลาในการทำหนังเรื่องนี้เกือบ 1 ปีเต็มเพราะจากในเรื่องในช่วงเวลา 10 ปีของการมีชีวิตของนางเอกก็จะเห็นการแปรเปลี่ยนของฤดูกาล ไม่ว่าจะหนาวหิมะตก แสงแดดอุ่น ๆ ริมทะเลในหน้าร้อน และในวันที่ซากุระผลิบานในความโรแมนติก บรรยากาศในซีรีส์ที่สวยงามก็เพิ่มอรรถรสในการรับชมและเข้าถึงช่วงอารมณ์ในตอนนั้น ๆ มากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย ยิ่งในฉากที่ริมทะเลกับการสาดแสงแดดอุ่น ๆ ยิ่งอบอุ่นหัวใจเรื่องย่อ The Last 10 Years สุดท้ายและตลอดไปฉากที่ประทับใจฉากที่ประทับใจที่สุดยกให้ The best scene เลยก็คือหลังจากที่พระเอกได้ปลิดชีพตัวเองด้วยการฆ่าตัวตายแต่ยังไม่ตายและมีชีวิต ซึ่งกำลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแล้วนางเอกก็ได้เข้ามาเยี่ยมพอดี ขอแอบสปอยนิดนึงพระเอกพูดประมาณว่า"ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปอีกทำไม"พระเอกตัดพ้อด้วยความท้อแท้ในชีวิตช่วงนั้นมาก ๆ แล้วนางเอกตอบกลับมาว่า"แบบนั้นมันขี้โกงชะมัด" เพียงแค่ประโยคไม่กี่คำก็ทำให้เห็นถึงความต่างของตัวละครและได้กลับมาคิดกลับตัวเองว่าถ้าหากเรามีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาที่จำกัดเราก็คงใช้ชีวิตที่มีให้เต็มที่กับทุกอย่างที่ทำและความกลัวต่าง ๆ ไม่ว่าจะกลัวล้มเหลว กลัวผิดพลาด มันคงเป็นเพียงสายลมที่ไม่สามารถมาทำลายช่วงเวลาที่มีค่าของเราได้ ภาพปก:Sahamongkolfilm International:1ภาพประกอบ:Sahamongkolfilm International:1/2/3/4/5/6วิดีโอประกอบ:Major Group:1คอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน