รีวิวหนัง "Smile ยิ้มสยอง" ยิ้มล้า ยิ้มเหนื่อย ยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่ และยิ้มในใจ
ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณความหลอนที่รองรับและต้อนรับการมาของเทศกาลวันปล่อยผี และนี่คือจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการกับรอยยิ้มที่น่าสยดสยองกับหนังเขย่าขวัญเรื่องล่าสุด "Smile ยิ้มสยอง" ที่จะมาเปลี่ยนมุมมองของผู้ชมต่อรอยยิ้มสง่าไปตลอดกาล นี่คือหนังที่มาพร้อมกับไอเดียและแนวคิดของหนุ่มนักสร้างหนังรุ่นใหม่ไฟแรง ที่พรั่งพรูด้วยลูกเล่นและกิมมิกอันฉวัดเฉวียนที่หยอดกับใส่มาในหนังตลอดทั้งเรื่องนี้
Smile ยิ้มสยอง เล่าเรื่องหลังจากที่ผ่านพบเห็นกับอุบัติเหตุสุดประหลาดและสะเทือนใจที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยของตัวเอง ดร.โรส คอตเตอร์ ก็เริ่มพบว่าตัวเองประสบพบกับความน่ากลัวอะไรบางอย่างที่เธอก็อธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ เธอต้องเผชิญหน้ากับอดีตที่หนักอึ้ง พร้อมกับแบกจิตใจของตัวเองหลีกหนีออกมาจากความจริงในปัจจุบันที่่ยิ่งน่าสะพรึงมากกว่า ภายใต้รอยยิ้ม..สยองนั้น
นี่คือผลงานเดบิวต์หนังใหญ่เรื่องแรกของ "พาร์คเกอร์ ฟินน์" นักสร้างหนังหนุ่มเจนใหม่ที่มีประสบการณ์การทำงานหนังสั้นและอยู่เบื้องหลังโปรเจกต์อื่น ๆ มาได้สัก 4-5 ปี บัดนี้เขาก็ได้รับโอกาสยิ่งใหญ่ในการปลุกปั้นหนังเขย่าขวัญจากไอเดียและแนวคิดของตัวเอง ด้วยการหยิบเอากิริยาอันเป็นธรรมชาติของมนุษย์มากลั่นกรองออกมาเป็นหนังสยองขวัญและน่าสะพรึงกลัว
แม้ว่าคอนเซ็ปต์และไอเดียของ Smile ยิ้มสยอง จะค่อนข้างดูแล้วเวิร์กก็ตาม แต่เมื่อลองมาสัมผัสเนื้อหาและเนื้อในจากในตัวหนังทั้งเรื่องนั้น ยังพบว่าหนังยังมีช่องโหว่อยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะการใส่ใจเรื่องน้ำหนักของแกนเรื่อง ที่น่าเสียดายที่หนังเกือบจะทำออกมาได้ดีใช้ได้แล้ว แต่น้ำหนักในองค์ประกอบหลักต่าง ๆ ยังค่อยข้างเบาโหวงไปสักหน่อย จึงทำให้แกนความดราม่าและความสยองต่าง ๆ เหมือนยังเล่นได้ไม่สุดทางเสียทีเดียว
การเล่าเรื่องของ Smile ยิ้มสยอง ก็ถือว่าเป็นจุดที่บกพร่องไปอย่างน่าเสียดาย เพราะนี่กลายเป็นหนังสยองขวัญที่มีความยาวเกือบ 2 ชั่วโมง แต่น้ำหนักของแกนเรื่องต่าง ๆ ยังไม่สามารถแบกตัวเรื่องไปได้ตลอดทางนัก จึงทำให้หนังให้ความรู้สึกที่ยืดยาวไปสักหน่อย หากทำให้กระชับขึ้นกว่านี้สักหน่อย หั่นออกไปสัก 15 นาที คิดว่าหนังจะสมบูรณ์กว่านี้ได้ยิ่งขึ้น เพราะโทนการเล่าเรื่องที่แสนจะธรรมดาของหนัง พอมาผนวกกับเรื่องราวที่สูตรสำเร็จไปเสียหมด จึงทำให้กลายเป็นหนังสยองที่ยังไม่มีอะไรที่โดดเด่นและธรรมดาเดิม ๆ ไป
ต้องยอมรับว่าไอเดียของ Smile ยิ้มสยอง ค่อนข้างใช้ได้เลยทีเดียว แต่หนังยังค่อนข้างกระท่อนกระแท่นในส่วนของการเล่าเรื่องไปสักหน่อย ยังไม่สามารถสร้างแรงจูงใจและอารมณ์ร่วมกับคนดูได้ตลอดทาง ช่วงแรก ๆ หนังทำการปูเรื่องค่อนข้างนานไปหน่อย กว่าจะมาเข้าเส้นเรื่องในองก์ต่อไป อารมณ์ของผู้ชมก็เกือบเตลิดไปแล้ว และจุดต่าง ๆ ของหนังก็ใส่เข้ามาตามสูตร แค่ดูไปเรื่อย ๆ ก็จะสามารถจับทางและคาดเดาทิศทางของหนังได้ไม่ยากเท่าไหร่
ปมต่าง ๆ ของ Smile ยิ้มสยอง ที่ใส่เข้ามาได้อย่างมีนัยยะ แต่ปรากฏว่าไม่ได้รับการขยี้ได้อย่างถึงกึ๋น เพราะเมื่อมาถึงช่วงท้ายเรื่องที่เกือบจะเป็นองก์ที่สะเปะสะปะและใกล้จะออกทะเล เพราะหนังพยายามมองหาทางลงให้สวยงาม แต่หารู้ไม่ว่าคนดูก็น่าจะคาดเดาถึงบทสรุปกันได้อยู่แล้ว หนังยังค่อนข้างทำบทสรุปต่าง ๆ เอาไว้ได้ไม่ค่อยตรึงตาตรึงใจสักเท่าไหร่ เป็นการคลี่ปมเอาไว้แบบกล้าได้กล้าเสีย ที่ในท้ายที่สุดก็กลายเป็นปมที่คลายได้ไม่ถึงแก่น
ส่วนทางพาร์ทการแสดงนั้น ต้องบอกว่าหนังไม่ได้ใช้บริการนักแสดงแถวหน้าสักเท่าไหร่ นำทีมมาโดย "โซซี่ เบคอน" ที่ถือว่ารับหน้าที่แบกหนังเรื่องนี้เอาไว้ทั้งเรื่องเกือบจะคนเดียว และการแสดงของเธอก็ถือว่าน่าพอใจ แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกว้าวและตื่นตาตกใจอะไรสักเท่าไหร่ แต่ทั้งซีนหลอนและซีนอารมณ์ต่าง ๆ ของเธอ ก็ถือว่าทำออกมาได้คล่องแคล่วและพยายามทำให้คนดูเชื่อจริง ๆ กับสิ่งที่เธอกำลังเผชิญอยู่
โดยสรุปแล้ว Smile ยิ้มสยอง ก็เป็นหนังสยองขวัญที่มีไอเดียค่อนข้างน่าสนใจ แต่ยังไม่สามารถขยี้จุดต่าง ๆ ได้เร้าถึงใจถึงอารมณ์ได้สักเท่าไหร่ สูตรสำเร็จต่าง ๆ ถูกนำมาใช้ในหนังเรื่องนี้ แต่นับว่ายังดีที่มีไอเดียและลูกเล่นของมือใหม่สร้างหนังเข้ามาสร้างสีสันให้ตัวหนังแบบรายทางอยู่บ้าง ทั้งงานภาพและงานเพลงประกอบที่ถือว่าหนังเรื่องนี้ดีไซน์ออกมาได้แปลกแตกต่างอย่างน่าสนใจ แต่การเล่าเรื่องของหนังยังไม่ค่อยราบรื่นเท่าที่ควร และความกล้าได้กล้าเสียของหนังที่หยิบนำมาใช้นั้น กลับบั่นทอนทำให้รอยยิ้มนี้ยังไม่ค่อนเป็นที่จดจำในใจผู้คนได้มากนัก
ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง Smile ยิ้มสยอง
- ประเภท: สยองขวัญ
- ผู้กำกับ: พาร์คเกอร์ ฟินน์
- นำแสดงโดย: โซซี่ เบคอน, ไคล์ กัลเนอร์, เจสซี่ ที. อัชเชอร์
- ความยาว: 115 นาที
- กำหนดฉายในไทย: 29 กันยายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์)
Movie.TrueID METRIC: Smile ยิ้มสยอง
- ภาพรวม
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การเล่าเรื่อง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰ (6/10) - การแสดง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - เทคนิคงานสร้าง
⭐⭐⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰ (7/10) - บทภาพยนตร์
⭐⭐⭐⭐⭐✰✰✰✰✰ (5/10)
พิเศษสำหรับลูกค้าทรู! รับสิทธิ์ตีตั๋วดูหนังในราคาพิเศษ
- ลูกค้าทรูบลูการ์ด กรีนการ์ด ไวท์การ์ด ซื้อตั๋วหนังที่ Major Cineplex ได้ในราคา 119 บาท กดรับสิทธิ์คลิกเลย [ https://privilege.trueid.net/privileges/0XE16q9aDeVX ]
- ลูกค้าทรูบลูการ์ด กรีนการ์ด ไวท์การ์ด ซื้อตั๋วหนังที่ SF ได้ในราคา 119 บาท กดรับสิทธิ์คลิกเลย [ https://privilege.trueid.net/privileges/vAmWGl44v7wy ]
- ลูกค้าทรูเรดการ์ด ซื้อตั๋วหนังที่ Major Cineplex ได้ในราคา 99 บาท กดรับสิทธิ์คลิกเลย [ https://privilege.trueid.net/privileges/Z01pDjW6d4mK ]
- ลูกค้าทรูแบล็คการ์ด ซื้อตั๋วหนังที่ Major Cineplex ได้ในราคา 99 บาท กดรับสิทธิ์คลิกเลย [ https://privilege.trueid.net/privileges/d4ZN2erb1mG4 ]
- ลูกค้าทรูแบล็คการ์ด ซื้อตั๋วหนังที่ SF ได้ในราคา 99 บาท กดรับสิทธิ์คลิกเลย [ https://privilege.trueid.net/privileges/X0z2B1jjJBQ0 ]
-------------------------------------
ดูหนังออนไลน์ได้ที่ >> Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย https://bit.ly/3xEgdAa