โหนกระแสล่าสุด : "หมอสอง" เล่าเหมือนเกิดใหม่ หลังถูกจับตัวเรียกค่าไถ่!
โหนกระแสล่าสุด : กลายเป็นประเด็นใหญ่ กรณีที่ "หมอสอง นพ.นพรัตน์ รัตนวราห” ศัลยแพทย์ชื่อดังของเมืองไทย ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวที่ประเทศมาลี แต่ในที่สุดใช้เทคนิคเจรจา และจ่ายเงิน 5.7 ล้าน ทำให้รอดปลอดภัยกลับเมืองไทย ด้วยการช่วยเหลือของแฟนสาวที่ช่วยประสานช่วย
- เปิดใจ "หมอสอง" กลับไทย พร้อมเปิดตัวแฟนสาวผู้ประกาศข่าว "เฟร้นช์ฟราย"
- หมอสอง คือใคร? เปิดประวัติ หมอสอง นพรัตน์ พร้อมไทม์ไลน์ถูกลักพาตัว เรียกค่าไถ่
โหนกระแสล่าสุด : "หมอสอง" เล่าเหมือนเกิดใหม่ หลังถูกจับตัวเรียกค่าไถ่!
รายการโหนกระแสวันที่ 27 ต.ค. 65 ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดเลข 33 ได้สัมภาษณ์ หมอสอง ที่มาพร้อมหวานใจ “เฟร้นฟราย รินทร์ณฐา อัจฉริยวัฒนกุล” นักข่าวช่องโมโน ได้เปิดใจเล่าถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น
ตกลงคนนี้คือแฟน?
หมอสอง : ใช่ครับ (หัวเราะ)
วันนี้เปิดตัวเลย?
หมอสอง : ครับผม วันนี้ต้องเรียนก่อนว่าเราอยากออกมาสัมภาษณ์มั้ย ก็ไม่ได้อยากเท่าไหร่ แต่เนื่องด้วยว่าคนอยากรู้ว่าเหตุเกิดยังไงบ้าง แล้วก็ผมอาจแตะได้บางเรื่องที่ไม่เซนซิทีฟ เกี่ยวกับความปลอดภัยของผมเองด้วย และอีกประการ การที่ผมออกมาพูด อาจช่วยเรื่องคนต่อไปที่จะไปเที่ยว อุทาหรณ์สอนใจ การระวังตัวควรทำยังไง อีกอย่างข่าวบิดเบือน คลาดเคลื่อน มีแหล่งข่าวเยอะมาก ซึ่งบางทีมันไม่ใช่ ก็อยากเคลียร์ให้ชัดในวันนี้ และจะพยายามเคลียร์ที่สุดเท่าที่ผมจะบอกข้อมูลได้
ขอบคุณคลิปจากรายการ โหนกระแส
หมอสองไปเที่ยวที่ไหนมาก่อน?
หมอสอง : บางข่าวออกมาว่าผมไปกับทัวร์เถื่อน ไกด์เถื่อน ต้องบอกว่าผมไปกับบริษัททัวร์ที่ถูกต้อง บริษัททัวร์บริษัทนี้ผมไปกับเขาเป็นประจำ และผมไว้ใจมาก ไปกันมาหลายทริปแล้ว ทุกครั้งผมย้ำเรื่องความปลอดภัย ตรงไหนไม่ปลอดภัยไม่ต้องจัดให้ผม ดังนั้นเขาลิสต์โปรแกรมออกมา ตอนบรีฟโปรแกรมยังย้ำว่าปลอดภัยมั้ย เขาก็บอกว่าปลอดภัย
ไปที่ไหน?
หมอสอง : เริ่มจากอัฟกานิสถาน จริงๆ ตอนนี้ไปได้แล้วเพราะเป็นรัฐบาลตาลีบัน ซึ่งก็เหมือนรัฐบาลปกติ จากนั้นไปประเทศชาด ไปตั้งแต่ 12 ก.ย.เฟร้นฟรายเขาจะทำแม่น แล้วโปรแกรมผมธรรมดาจะเป็น 3 สัปดาห์ แล้วไปที่ชาด , ไนเจอร์, บูร์กินาฟาโซ
9 ประเทศที่ไป อัฟกานิสถาน ปากีสถาน , ชาด, ไนเจอร์, บูร์กินาฟาโซ, มาลี, แคเมอรูน,อิเควทอเรียลกินี, เซาตูเม ไปทำไมหลายๆ ประเทศ?
หมอสอง : คนอาจสงสัยว่าทำไมผมต้องไปเที่ยวประเทศแบบนี้ ผมเป็นหมอศัลยกรรม นอกจากเรามีความสุขในการผ่าตัด อีกอย่างนึงในชีวิตผมคือการท่องเที่ยว ซึ่งต้องบอกว่ามันเป็นแพชชั่นของผม ตอนนี้เที่ยวมาทั้งหมด 190 ประเทศ เป้าหมายคือผมต้องเที่ยวให้ครบทุกประเทศในโลก ประมาณ 198 ประเทศ ดังนั้นประเทศท้ายๆ ที่เหลือก็เป็นประเทศแปลกๆ ซึ่งประเทศเหล่านี้ความปลอดภัยก็ต้องระวังเป็นพิเศษอยู่แล้ว แต่ว่าเขาก็มีเสน่ห์ เช่นแหล่งน้ำสวย ๆ วัฒนธรรมแปลกๆ ซึ่งประเทศแบบนี้จะมีเสน่ห์ในตัวเอง การท่องเที่ยวของผม ก็จะเที่ยวให้มันครบ จริงๆ ผมไปทุกประเทศในโลก ตอนนี้เหลืออีกประมาณ 10 ประเทศทั่วโลกที่ไม่ได้ไป
ทำเพจด้วย?
หมอสอง : ใช่ครับ เพจหมอสองท่องโลก ในคลิปก็จะมีประเทศแปลกๆ ที่หลายคนอาจไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ แต่อยู่ตรงไหนของโลกเข้าไปดูได้ ซึ่งแรกๆ ทำไว้ดูเอง หลังๆ มีคนมาตาม ก็รู้สึกแฮปปี้ อย่างน้อยเป็นการให้ข้อมูลในการท่องเที่ยว คนอยากไปประเทศนี้ก็หาข้อมูลเพิ่มได้
หลังเดินทางไป หมอสอง ไปโดนอะไรจุดไหน?
หมอสอง : ทริปนี้ค่อนข้างมีอุปสรรค ตอนอยู่ที่ไนเจอร์เอง ก็มีการสไตรล์ในสนามบิน เลื่อนเดือนทางออกไป จริงๆ โปรแกรมผมมันรันอยู่แล้ว ไม่มีโปรแกรมอะไรนอกเหนือ แต่ระหว่างเดินทางออกจากประเทศ บูร์กินาฟาโซ เข้าสู่มาลีเป็นการเดินทางยาวๆ บนถนนใหญ่เลย เราเริ่มผ่านเช็คพอยท์ เตรียมตัวไปแสตมป์เข้ามาลี ซึ่งผมเองไม่สามารถระบุได้ว่าตรงไหนกันแน่เพราะผมเองก็งง และหลับ ตอนนั้นมีคนขับรถ 1 คน และไกด์อีก 1 คน ซึ่งเป็นคนประเทศ บูร์กินาฟาโซ ซึ่งมาทราบทีหลังว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นโปรเฟสชั่นแนล โดยปกติเวลาไปเที่ยวต่างประเทศเราไว้ใจบริษัททัวร์ เราให้เงินเขา ให้ไปประสานงานให้ ที่โน่นก็จะเตรียมมาให้ว่าโรงแรมที่ไหน ไฟลต์อะไร ไกด์ คนรถ เอามาให้เรา ซึ่งตอนนี้อาจดูว่าสัมภาษณ์แล้วยิ้ม แต่จริงๆ ก่อนหน้านี้ผมน้ำตาไหลได้ตลอดเวลา มันเศร้ามาก แต่พอเราเข้าประเทศไทยปุ๊บ ฟีลลิ่งต่างๆ ได้กลับมาเห็นหน้าญาติ ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ ได้มาผ่าตัดเมื่อวาน ก็รู้สึกว่าชีวิตได้กลับมาใช้อย่างปกติ แต่เห็นยิ้มๆ แบบนี้ ผมคิดว่าเดี๋ยวออกไปจะไปพบจิตแพทย์อีกที
พอถึงจุดแสตมป์ แล้วยังไงต่อ?
หมอสอง : ยังไม่ถึงจุดแสตมป์ ผมนั่งหลับแล้วผมได้ยินเสียงปืนดังมาก ปั้งๆ ก็ตกใจมาก ตื่นมายังงงๆ อยู่ ก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาก็บอกว่าเขายิง ซึ่งเหตุการณ์ตอนนั้นผมไม่ทราบว่าอยู่ตรงไหน ยังไง หลังจากนั้นรถก็ผ่านตรงนั้นไปได้ แล้วเจอข้างหน้าอีกจุด เจอสองคนจ่อปืนเข้ามาแล้วให้เราจอด รถอาจถูกอะไรสักอย่าง ทำให้เร่งเครื่องไม่ขึ้น ดังนั้นผมตัดสินใจอะไรไม่ได้เลย คนรถกับไกด์ก็ทำตามคำสั่งวกรถกลับไปจุดเดิมจุดแรก จากนั้นไปจอดปุ๊บ เขาก็วิ่งกรูกันเข้ามา
ประมาณกี่คน?
หมอสอง : ตอนนั้นตื่นเต้นและหัวใจไปอยู่ตาตุ่มเหมือนอยู่ในหนัง อาจจะงงๆ คิดว่าเขาอยู่กันสัก 5-6 คน
ลักษณะการแต่งกายเป็นยังไง?
หมอสอง : เหมือนในหนัง ลักษณะการแต่งกายอาจบอกไม่ได้ เพราะตกใจและยังงงๆ รู้แค่ว่ามีปืนเข้ามา มันก็เป็นภาษาของเขา ไกด์ก็บอกให้นั่งลงคุกเข่า เอามือประสานท้ายทอย เขาก็เข้ามาจับกุม แล้วผูกตา เอามือไขว้หลัง เขาดันเราขึ้นรถ เราก็ไม่ทราบแล้วว่าไปไหน หลังจากนั้นมาทราบอีกที เขามาเปิดตา แวดล้อมเป็นป่า
ตอนเขาปิดตา ใช้เวลานานหรือเปล่ากว่าเขาจะเปิด?
หมอสอง : ผมก็กะไม่ถูก ตอนนั้นหัวใจเต้นตุ๊บๆ คิดว่าน่าจะสัก 20 กว่านาที
เขาพาจากจุดนั้นไปอีกจุดนึง จุดนี้เป็นรอยต่อประเทศมาลีกับบูร์กินาฟาโซ เหมือนเป็นชายแดน หลังจากนั้นพอเปิดตามาก็เป็นป่า แล้วยังไงต่อ?
หมอสอง : เขาขอโทรศัพท์มือถือไปเก็บทุกอย่าง ทรัพย์สินก็อยู่กับเขา เขาก็พาเราไปนั่งใต้ต้นไม้ พาไปพูดคุย แล้วข้อมูลที่เขาแจ้งเข้ามา เขาพูดตลอดเวลาว่าแค่ตรวจเฉยๆ ถ้าไม่ใช่คนที่เขาต้องการค้นหาเขาก็จะปล่อย ในใจตอนนั้นก็คิดตลอดเวลาว่าไม่เกินคืนนี้คงได้ออก เพราะพรุ่งนี้เรามีไฟลต์บิน เราก็คิดว่าเรามีความหวังว่าจะได้ออก เพราะห่วงทางบ้านมากว่าเขาจะรู้สึกยังไงถ้าเราหายไป ตัวเราเองก็ไม่รู้ชะตากรรมว่าเขาจะเอาเราไปฆ่าหรือเปล่า หรือเอาไปทำอะไร เขาก็ไม่ยอมบอก ไกด์กับคนขับรถก็ถูกจับไปด้วยกัน แล้วไปนั่งใต้ต้นไม้รอตั้งแต่สายๆ จนกระทั่งดึก วันนั้น 28 ก.ย.
หมอไป 12 ก.ย. โดนล็อก 28 ก.ย.?
หมอสอง : เที่ยวได้ 10 กว่าวันแล้ว แต่โปรแกรมมันยังไม่หมด ยังเหลืออีก 3-4 ประเทศ
ระหว่างนั้นโทรหาแฟนตลอด?
หมอสอง : ใช่ ติดต่อกันตลอด
พอ 28 ปุ๊บ เขาพาเราไปที่ไหน?
หมอสอง : พาไปนั่งใต้ต้นไม้ให้รอจนมืด แล้วเขาบอกว่าเขาแจ้งหัวหน้าแล้วว่ามีการจับตัว อาจต้องเข้าไปคุยกับหัวหน้าก่อนว่าคุณเป็นคนที่เขาต้องการหามั้ย สรุปเขาก็พาเราเข้าไปต่อ ซึ่งผมดูแล้วน่าจะเป็นการเตรียมตัวเดินทางไกลแน่นอน เพราะเขามีการแพ็กกระเป๋าอย่างดีขึ้นมอเตอร์ไซค์ ผมก็ใจแป้วแล้ว ตลอดเวลาคิดว่าถ้ามีจังหวะไหนหนีได้ ผมก็จะหนี หนีเข้าป่าให้หลบรอดจากตรงนั้นให้ได้
ถ้าหนีคิดว่าหมอตาย เขายิงหมอตรงนั้น?
หมอสอง : ใช่ๆ มีโอกาส ขับรถเข้าไปปรากฏว่าทางเข้าไปผมก็จำทิศทางไม่ได้เลย แต่รู้ว่าลึกมากเพราะนั่งมอเตอร์ไซค์ไปก็ 8 ชม. แล้วก็จำทางไม่ได้เลย รู้แค่ว่าเป็นป่าบ้าง เป็นไร่ข้าวโพดบ้าง เป็นบ้านหลังเล็กๆ บ้าง บางจุดเหมือนหินๆ จำทางไม่ได้เลย ไม่รู้ไปตรงไหน รู้ว่าลึกมาก บางช่วงต้องข้ามน้ำด้วย ถ้าจำไม่ผิดไปถึงสักตีสาม ไปประมาณ 8 ชม.ได้ ทั้งหมดนี้ก็ถามไกด์ให้ดูนาฬิกาว่ากี่โมง พอไปถึงลึกๆ ผมก็เริ่มถอดใจว่าไม่ได้ เราคงต้องปล่อยตามน้ำ เดินออกมาน่าจะลำบาก เขาพาเราไปจุดนึง ที่เป็นลักษณะเหมือนต้นไม้ต้นใหญ่ต้นนึง ด้านหลังเป็นบ้านดินของคนแถบนั้น เห็นเต็นท์สีส้มๆ เขาเอาเราพักตรงนั้น ซึ่งผมก็คิดว่าเขาคงไม่ปล่อยเราเร็ว เพราะมันเข้ามาลึกมาก
ตอนนั้นรู้แล้วว่าถูกลักพาตัว?
หมอสอง : เรารู้ว่าถูกลักพาตัว แต่ถึงตอนนี้ยังไม่รู้ว่ากลุ่มไหน แต่รู้ว่าเขาคือกลุ่มติดอาวุธ เขาบอกมีหลายกลุ่มมาก เรารู้ว่าเป็นกลุ่มติดอาวุธ เพราะทุกคนมีอาวุธหมดเลย
เขาดูแลเราดีมั้ย?
หมอสอง : เขาไม่ได้กรรโชกโฮกฮาก ไม่ได้ทำร้ายร่างกายเรา ไม่เหมือนในหนัง เขาคุยดีทุกอย่าง
เขาคุยภาษาอะไร?
หมอสอง : ประเทศแถบนั้นเขามีภาษาถิ่นเยอะมาก ดังนั้นหลายคนในนั้นคุยกันไม่รู้เรื่อง แต่คนไหนพูดภาษาฝรั่งเศสได้ หรือภาษาท้องถิ่น ที่ไกด์หรือคนขับรถสื่อสารได้ก็คุยกันได้ ผมพูดเป็นภาษาอังกฤษคุยกับไกด์ ไกด์ก็แปลไปเป็นภาษาถิ่นคุยกับเขาอีกที ซึ่งอึดอัดมากเพราะคุยกับใครไม่ได้นอกจากไกด์คนเดียว ตอนอยู่ในนั้นถามว่ามันลำบากมั้ย ต้องบอกว่าลำบากสุดๆ
เขากักเรา มีอะไรพันธนาการเรามั้ย?
หมอสอง : เริ่มต้นเขาเอาเราไปไว้เฉยๆ แต่เนื่องด้วยวันแรกผมกลัวมาก ไม่รูเขาเป็นใคร ไม่รู้เขาจะฆ่าเรามั้ย อีกอย่างคือห่วงคุณแม่มาก ตอนนั้นคุณแม่ปวดหลัง ต้องพาไปรพ.เพื่อผ่าตัด เราเลยคิดว่าเรามีโอกาสหนีรอดมาได้ เราก็จะพยายาม เช้านั้นก็หลบหนีออกมาคนเดียว ซึ่งเราคิดว่าจะหนีไปให้ไกลที่สุดแล้วไปขอความช่วยเหลือข้างหน้า ผมก็หนีไปได้จริง ไปได้สัก 8 กิโลเมตร ผมออกแต่เช้ามืดเขามาจับตัวผมได้อีกทีก็บ่ายๆ เย็นๆ แล้ว เขาจับได้ตัวเพราะผมเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือว่าถนนใหญ่ไปทางไหน เราต้องการไปถนนใหญ่ สรุป เขาเป็นพวกเดียวกันหมด เขาก็โทรไปแจ้ง หาคนมาจับกลับไป พอจับกลับไปก็ถูกล่ามข้อเท้า เอาตรวนข้อเท้ามาใส่สองข้าม มีโซ่ตรงกลาง เราก็เดินได้สั้นๆ ใส่กุญแจมือในคืนแรก ผมก็นอนพร้อมกุญแจมือ และข้อเท้าด้วย
ถ้าไม่มีเฟร้นช์ฟรายคุณไม่ได้กลับมา?
หมอสอง : ใช่ครับ ต้องบอกว่าเป็นคีย์แมนสำคัญในการประสานงานต่างๆ
ที่หมอสองเอามาวางคืออะไร?
หมอสอง : ต้องบอกว่าอยู่ในนั้นเราเครียดมาก เราไม่มีอะไรจะทำ อันนี้คือถุงยังชีพผม คือถุงพลาสติกธรรมดา เอาติดไปด้วยอยู่ในกระเป๋าอยู่แล้ว เวลาออกจากเต็นท์ตอนเช้าก็เอาอันนี้ออกมาวางนอนบนเสื่อ หลบแสงแดดไปเรื่อย กลางคืนก็นอนเต็นท์ กลางวันอยากให้ผ่านไปเร็วก็พยายามหลับเพื่อให้เวลาการรอคอยของเรามันสั้นลง แล้วก็มีพวกยาดม ดมไปเรื่อยๆ แล้วก็ปลอกแขน ยุงกัดเต็มแขน แล้วก็ส้อมพลาสติกที่ใช้จริงๆ ที่โน่นเวลาเสิร์ฟอาหาร จะมีถาดเหมือนตอนถวายสังฆทาน เขาไม่มีช้อน ใช้มือกิน ผมก็ใช้ช้อนอันนี้ บางทีเขาไม่ซื้อน้ำมาให้ก็กินน้ำบ่อ มีกลิ่นน้ำมัน ก็ค่อนข้างทรมาน
เขาจะเอาอะไรจากหมอสอง?
หมอสอง : เขาไม่ได้บอก ผมไม่แน่ใจว่าเขาไม่ได้แพลนแต่ต้น หรือแพลนแต่ต้น อันนี้บอกไม่ได้ เพราะแพลนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่ละวัน เขามีการมาบอกเราว่าเดี๋ยวก็ได้กลับแล้ว เดี๋ยวจะปล่อยแล้ว หัวหน้ามาแล้วคุยแล้วก็ปล่อย ให้ความหวังเราไปเรื่อยๆ เราก็รอคอย
มีคนอื่นถูกจับนอกจากเราสามคนมั้ย?
หมอสอง : อันนี้ขอไม่พูดถึงดีกว่า คนอื่นขออนุญาตไม่กล่าวถึง
ถามเฟร้นฟราย เขาไป 12 จนถึง 28 ก่อนถูกจับตัวไป เขาก็ติดต่อเรามาตลอด ตั้งแต่ 28 เขาหายไปเลย ตกใจมั้ย?
เฟร้นฟราย : จริงๆ วันนั้นที่พี่เขาเข้าชายแดนไป เขาก็เล่าให้ฟังอยู่แล้วว่าเดี๋ยวพี่จะเข้าบูร์กินาฟาโซผ่านมาลีนะ 8 ชม.จะไม่มีสัญญาณ เราก็เข้าใจระดับหนึ่ง ทีนี้เขาก็พยายามคุย โทรคุยกับเราตลอด หนูขับรถพี่เขาเข้าชายแดน โทรจนสัญญาณหาย ในวันนั้นเลย คุยเป็นสายสุดท้ายสัญญาณหาย ก็คิดว่าไม่มีสัญญาณ นับไป 8 ชม. เดี๋ยวก็ติดต่อกลับมา เพราะธรรมชาติพี่เขาต้องติดต่อเราตลอดเวลา ทำให้เราวางใจด้วย พอหลังผ่านไป 8 ชม.หาย ก็รู้สึกว่าแปลก แต่รอดูก่อนเพราะเขาจะมีไฟลต์บอร์ดไปต่อที่โมรอกโค ถึงเวลาต้องถึงไฟลต์ เขาน่าจะติดต่อมา ถึงแม้มีเวลาแค่ 5-10 นาที เขาก็ต้องติดต่อมาให้ได้ ก็เงียบ ก็ตัดสินใจไปเช็ก ว่ามีชื่อนพรัตน์บอร์ดหรือเปล่า สรุปว่าไม่มี
ไปเช็กที่?
เฟร้นฟราย : ให้บริษัททัวร์เช็กค่ะ ว่ามีชื่อเขาเช็กอินมั้ย ก็แปลกใจแล้ว อันดับแรกตกใจและเครียดมาก วันนั้นคือ 29 ก.
ย.ค่ะ
คิดว่าตุกติกหรือเปล่า ไปกับผู้หญิงหรือเปล่า?
เฟร้นฟราย : ไม่ค่ะ ไม่ได้คิดค่ะ เพราะเราไว้ใจ พี่เขาก็โตแล้ว
หายไปวันนึง สงสัยขนาดนั้นเลยเหรอ?
เฟร้นฟราย : สงสัยค่ะ แปลก เพราะปกติเขาจะติดต่อทุกครั้งเวลาเขาจะบอร์ดเครื่องบินเขาจะโทรมาบอกตลอดว่าจะบินไปต่อตรงนี้ เขาจะบอกเรา แต่นี่หายไปเลย เช็กแล้วไม่มี ก็คิดว่าน่าจะเกิดอะไรกับเขา ทางทัวร์ก็บอกให้ใจเย็นก่อน แต่ตอนนั้นเราคิดว่าแปลกไปจากเดิม เพราะเราเป็นคนใกล้ชิด ก็พยายามคิดว่าหนักสุดที่คิดคือตอนนั้นน่าจะเกิดอุบัติเหตุ ก็ขอให้ทัวร์ส่งคนไปตามเส้นทางที่พี่เขาไปได้มั้ย หรือพยายามเช็กให้หน่อยได้มั้ยว่ามีรพ.รับแจ้งอุบัติเหตุมั้ย หรือระหว่างทางรถจะเสียหรือเปล่า เราก็คิดได้หมดในตอนนั้น พยายามทำอะไรก็ได้ที่ช่วยพี่เขาหรือให้เราได้รู้ว่าเขาปลอดภัยดี ซึ่งก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเป็นยังไง ทำเท่าที่ทำได้ค่ะ
เขาหายไป 20 กว่าวันนั้นทำยังไง?
เฟร้นฟราย : ก็ทรมานมากในความรู้สึก เราเป็นห่วงเขา เขาจะอยู่จะกินยังไง แต่เรื่องอุบัติเหตุพอติดต่อแล้วไม่มีปั๊บ อาจเป็นเรื่องหายตัวไปหรือเปล่า ทำไมหายไป
ไม่คิดว่าจะถูกลักพาตัว?
เฟร้นฟราย : มีการอ่านข้อมูลบ้างทุกประเทศที่ไป ก็จะดูข้อมูลว่ามีอะไรตรงนั้น แต่ครั้งแรกไม่ได้คิดว่าจะเป็นประเด็นนี้ เพราะเราเชื่อมั่นในตัวเขา เพราะเขาจะบอกว่าปลอดภัย ไปได้
แจ้งตร.มั้ย?
เฟร้นฟราย : ทำทุกขั้นตอนค่ะ ให้ถูกต้องตามที่ควรจะทำ
มารู้ได้ยังไงว่าถูกลักพาตัว?
เฟร้นฟราย : เป็นหลักฐานแวดล้อมที่ลงไปพื้นที่ไม่มีร่องรอยอุบัติเหตุค่ะ ทัวร์เขาพูดอย่างนั้นให้เรา ตอนนั้นเราอยู่เมืองไทย เรามีทางเดียวคือต้องเชื่อเขา ไม่มีร่องรอยอุบัติเหตุ ไม่มีการเช็กอินโรงแรม ไม่มีการเข้าไปรักษาตัวในรพ. ก็คิด่วาอาจมีอะไรสักอย่าง ตอนนั้นทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องรอ แล้วคนรอมันทรมาน แต่มีความหวังทุกวันว่าเขาต้องกลับมา แต่ระหว่างนั้นไม่ได้นิ่งดูดาย พยายามไปปรึกษาผู้รู้ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้จะทำยังไงได้บ้าง แต่ ณ ตอนนั้นมันเหมือนมืดแปดด้าน เราดีลกับอะไรที่เราไม่รู้ มันเป็นเรื่องใหม่ เรื่องไกลตัว
วันที่ 18 มีโทรศัพท์เข้ามา?
เฟร้นฟาย : ใช่ค่ะ พอถึงสัปดาห์ที่ 3 ระหว่างทางที่เขาหายตัวไป เราพยายามเข้าใจเหตุการณ์แล้วว่าน่าจะเป็นแบบนี้ เราติดโทรศัพท์ไว้กับมือตลอด แม้แต่ตอนนอน เพราะเวลาที่มาลีช้ากว่าเรา 7-8 ชม.เขาติดต่อมาช่วงหัวค่ำที่นี่ตี 3
25 วัน เรานอนจับโทรศัพท์มาตลอด และมีโทรศัพท์จากเขาจริงๆ?
เฟร้นฟราย : ใช่ค่ะ เพราะหนูยังเชื่อว่าพี่เขายังอยู่
หมอสอง : จริงๆ มีเรื่องไสยศาสตร์ด้วย (หัวเราะ) ทุกคนก็อยากให้เรากลับมา เขาก็ไปตรวจดวงชะตาว่ายังมีชีวิตอยู่ ไปตรวจสอบทั้งเจ้าหน้าที่คลินิก ทั้งเขา ทั้งคุณแม่ พี่ชาย น้องชาย เอาทุกทาง เขาก็บอกว่ายังมีชีวิตอยู่ และจะติดต่อกลับมาช่วงนี้ ยิ่งโฟกัสว่าต้องมีคนโทรกลับมา
พอวันที่เขาโทรมา?
เฟร้นฟราย : รู้อยู่แล้วเบอร์ประเทศมาลีขึ้นบวกอะไร เรารับเลย พอรับปั๊บตอนแรกเขาไม่พูด สักพักเขาก็บอกว่าพี่เอง เราก็ห๊ะ พี่ไหน พี่สอง อ๋อ โอเค สัญญาณมันไม่ดี มันดีเลย์ พยายามฟัง ระหว่างนั้น เราก็ตื่นเลย ขึ้นไปจดข้อมูลที่เขาบอกเราทุกอย่างว่าเขาอยากให้เราทำอะไร
คุณเอาโทรศัพท์ที่ไหนโทร ทั้งที่เขาไม่ให้ใช้โทรศัพท์ คุณโทรหาเขาได้ยังไง?
หมอสอง : ระหว่างอยู่ที่นั่น เราพยายามพูดคุยกับคนจับตัวไป สร้างบรรยากาศที่ดีให้กับเขา เจรจา เกลี้ยกล่อมไปเรื่อยๆ ว่าเราป่วยด้วยนะ ยาหมดโน่นนนี่ จนเขายอมให้เราโทรศัพท์เพื่อติดต่อญาติ วันนั้นปลดล็อกชีวิตผมเลย เพราะตอนนั้นผมกังวลเรื่องคุณแม่มากว่าจะเป็นยังไง ไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น ห่วงพี่ชาย น้องชาย ห่วงเฟร้นฟราย วันนั้นผมได้ปลดล็อก ผมโทรหาคุณแม่ก่อนเพื่อขอเบอร์เฟร้นฟราย แต่ผมไม่ได้อยากบอกรายละเอียดคุณแม่มาก กังวลว่าท่านจะไม่สบาย ก็ขอเบอร์เฟร้นฟรายจากคุณแม่ ผมจำเบอร์เขาไม่ได้และจำเบอร์ใครไม่ได้ เราเมมไว้เป็นชื่อ คุณแม่ก็สบายใจว่าผมังมีชีวิตอยู่ แล้วได้เบอร์เฟร้นฟรายก็ให้เขาประสานต่อ ให้เฟร้นฟรายประสาน เพราะเขาภาษาอังกฤษดี ก็ต้องขอบคุณเฟร้นฟรายมากๆ ขอบคุณพี่ชาย น้องชาย คุณแม่ รวมตัวกันช่วยกันเอาผมกลับคืนมาประสานเรื่องราวต่างๆ
เฟร้นฟรายมีโอกาสคุยกับคนที่จับตัว?
เฟร้นฟราย : ได้คุยอีกครั้งหลังเขาติดต่อมา เพราะเราถามว่าคุณจะให้เราประสานยังไง พี่สองบอกว่าจะมีคนติดต่อ จากนั้นพยายามเช็กแล้วว่าเขาพูดภาษาอังกฤษได้คล่องมั้ย เฟร้นฟรายอยากให้ทุกขั้นตอนมันไวที่สุด ซึ่งเขาพูดไม่ได้ ตอนนั้นตีสามเขาบอกว่าอังกฤษเล็กๆ ก็เลยไม่เป็นไร เตรียมล่ามภาษาฝรั่งเศสให้ โทรหาแม่เฟร้นฟรายปลุกน้องชายมาเป็นล่ามให้หน่อย น้องเราพูดได้ ก็ให้คุยกัน อยากส่งตัวยังไง ให้ทำยังไงบ้าง ก็เจรจากับคนร้าย หลายคนอาจมองว่าภาพในหนังต้องคุยกระโชกโฮกฮาก แต่เขาคุยบรรยากาศเหมือนเพื่อน ตอนแรกนึกภาพไม่ออกก็ตื่นเต้นมาก แต่พอเริ่มคุยปั๊บก็ถามว่าต้องการให้ทำอะไร จะส่งตัวพี่เขากลับมายังไง ทำตามที่เขาบอก
เขาเรียกเงิน?
หมอสอง : ใช้คำว่าเจรจาต่อรอง แต่ไม่ขอลงรายละเอียดในจุดนี้
ไม่กลัวเขาได้สิ่งที่ต้องการแล้วจะยิงหมอทิ้ง?
หมอสอง : คิดตลอดเวลา เวลาอยู่ข้างในเราไม่มีช้อยส์ให้เลือก เราต้องทำให้เซฟที่สุด เฟร้นฟรายก็ทำให้เซฟได้ โดยโปรเซสผ่านไปได้ด้วยดี คืนนั้นเป็นคืนต้องปล่อยตัว ในใจก็แอบคิดว่าเขาจะปล่อยตัวเราจริงหรือเปล่า หรือพาเราไปยิงที่ไหนหรือเปล่า แต่เราสนทนาพยายามสร้างสัมพันธ์ที่ดี เวลาเราคุยกับเขา หรือเวลาเราคุยกับคุณแม่ ดูแล้วเขาคงไม่ฆ่าเราหรอก มั่นใจว่าเขาน่าจะปล่อยตัวเรา
มีข้อตกลงมั้ย?
หมอสอง : ไม่มีครับ เขาก็แค่บอกว่าจะปล่อยตัว แล้วเดี๋ยวจะไปตามขั้นตอน
ฝั่งโน้นไม่รู้ว่าเป็นหมอสอง เป็นหมอดังในประเทศไทย เฟร้นฟรายต้องปิดข่าวนี้?
เฟร้นฟราย : ใช่ค่ะ ต้องให้คนรู้น้อยที่สุด แล้วพยายามฟอร์มทีมขึ้นมาดูในออนไลน์ให้หน่อยว่ามีใครโพสต์หรืออะไร เพราะเราปิดข่าวให้นานที่สุด 1 เดือน เพราะพี่เขาคือซัมบอดี้ คนรู้จักเขาเยอะ อย่างน้อยๆ คนไข้ในคลินิกก็ถามกันมาแล้ว ว่าจะกลับมาเมื่อไหร่ แต่เราก็ตอบเขาไม่ได้
แต่ก็มีข่าวออกมานะ ตอนนั้นทำยังไง?
เฟร้นฟราย : ก็ให้เพื่อนมอนิเตอร์ให้ อะไรที่โพสต์แล้วทำให้พี่เขาไม่ปลอดภัยก็ช่วยคุยให้หน่อย มันเป็นสิ่งใหม่ค่ะ เราทุกข์ใจก็จริง แต่สิ่งสำคัญคือสติ เราต้องทำงานของเราปกติ แต่เราจะทำยังไงให้พี่เขาเสี่ยงน้อยที่สุด ปลอดภัยที่สุด ก็ต้องช่วยกันค่ะ
หมอสอง : น้ำหนักเขาลง 6 กิโล ใน 3 สัปดาห์ ผอมมาก
เป็นนางงามมาก่อนนะ?
เฟร้นฟราย : เป็นมิสไทยแลนด์เวิลด์ 2015 หลายปีมาแล้วค่ะ (หัวเราะ)
หมอก็ไม่ธรรมดา?
หมอสอง : (หัวเราะ)
หมอรู้ใช่มั้ยเพื่อนเป็นห่วงกันเยอะมาก?
หมอสอง : ผมไม่อยากคิดเลยเรื่องความเป็นห่วงคุณแม่ พี่ชาย น้องชาย ญาติสนิทต่างๆ
ผมรู้เรื่องนี้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ เหมือนกัน เพราะพี่อาร์ต สนิทกับหมอสอง แกอยู่บนเครื่องบินไปเกาหลี แกมีโอกาสคุยกับเฟร้นฟราย พอลงเครื่องแกโทรหาผมว่าจะทำยังไงดี แต่ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ จะเอายังไงต่อดี เขาก็พยายามหาทางช่วยในทางลับ ผมอ่านข่าวก็โคตรคันปาก แต่พูดไม่ได้ เป็นความปลอดภัย?
หมอสอง : ใช่ครับ ถ้าเป็นข่าวดังขึ้นมาผมอาจไม่ได้มาอยู่ตรงนี้
เฟร้นฟราย : ตอนนั้นเฟร้นฟรายคิดมาแล้วค่ะว่าพี่เขาน่าต้องทำอะไรสักอย่างให้เขารู้ว่าโลว์โปรไฟล์มากที่สุด
หมอสอง : ใช่ ผมก็พยายามบอกว่าผมเป็นหมอธรรมดาคนนึง รายได้มีเท่านี้ พยายามอธิบายว่าเราก็อยู่ลำบากนะ ที่สำคัญประเทศเรา ไม่มีศัตรู เรารักสงบ แล้วเขาก็รู้สึกว่าบ้านเราสงบจริง ไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เขาก็ยิ่งผ่อนคลาย
เห็นว่าเรื่องนี้ตร.มีส่วนเข้าไปช่วย?
หมอสอง : หลังเจรจา และได้รับการปล่อยตัวออกมา ก็ต้องขอกราบขอบพระคุณผู้มีพระคุณหลายๆ ท่าน ท่านสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผบ.ตร. ท่านเขมรินทร์ พอทราบเรื่องก็ดูแลให้ผมบินกลับมาอย่างปลอดภัย และท่านก็มีพระคุณมากๆ ท่านน่ารักมากๆ อุปทูตที่ดูแลแถบนั้นก็ช่วยเหลือ เพราะพาสปอร์ตผมก็หาย วีซ่าก็ไม่มี ก็กลับมาได้อย่างปลอดภัย รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่ช่วย แต่เราไม่ได้ทราบและไม่ได้พูดถึง
บริษัททัวร์ว่าไงบ้าง?
หมอสอง : ยังไม่ได้คุยกัน แต่เขาบอกว่าเขาจะเข้ามาพบ เมื่อวานผมก็ไปผ่าตัดแล้ว เราอั้นมาเกือบ 2 เดือน คนไข้ก็รีเควสมาก ก็เริ่มรันคิวผ่าตัด เมื่อวานก็เริ่มลุยครับ วันนี้ผมมาเคลียร์ให้ชัดเจนว่าเกิดแบบนี้ เพื่อป้องกันข้อมูลที่อาจเกิดความคลาดเคลื่อนและแหล่งข่าวที่ไม่ชัดเจนแล้วทำให้เกิดความเสียหาย เรื่องความปลอดภัยของผมเองด้วย หลายๆ อย่าง หวังว่าเรื่องราวของผมจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจ บางทีไว้ใจบริษัททัวร์มากก็ไม่เพียงพอผมพลาดเองที่ไม่ได้เสิร์จ แต่ยอมรับว่าทุกวันผมเอาแต่ผ่าตัด หาเงินได้ก็เอาไปให้เขาจัดการให้ผม แต่บางทีเราไม่ได้เสิร์จเอง ถ้าเสิร์จเองเราก็จะทราบเลยว่าแถบนี้อันตราย เราก็จะไม่ไป เพราะเราเน้นย้ำเสมอเรื่องการเดินทาง
อยากฝากอะไรคนที่อาจไปเที่ยว เรื่องแบบนี้วันนึงอาจเกิดขึ้นกับเราก็ได้?
หมอสอง : จริงๆ เรื่องการลักพาตัวสำหรับผม มันไกลตัวมาก ไม่น่าเกิดกับเรา แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว และเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ถ้าจะไปแถบแอฟริกา ก็เลือกดีๆ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไป เพราะไม่ปลอดภัยเลย อย่างโซมาเลีย เวลาเราไปก็ต้องมีทหารนำหน้า เวลาไปเที่ยวเช็กให้ดี ประเทศเจริญแล้วก็ตามก็จะมีโจรมาขโมยกระเป๋าเราบนรถไฟฟ้า แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้รับจากตรงนี้ ช่วงที่อยู่ในนั้นทุกข์ทรมานมากๆ ผมก็นั่งสมาธิ ไหว้แผ่เมตตาตลอดเวลา และทำให้เรารู้จักคุณค่าของชีวิต ไม่ต้องรอให้เกิดเหตุการณ์แบบผม ถึงมารักครอบครัว ทำดีกับครอบครัว ทำดีกับครอบครัวตั้งแต่วันนี้เลยครับ ทุกลมหายใจมีค่าเสมอ
จะไปอีกมั้ย?
หมอสอง : (หัวเราะ) ช่วงนี้ต้องพักก่อน
เหมือนเกิดใหม่?
หมอสอง : ใช่ครับ
เฟร้นฟราย : ใช่ค่ะ เหมือนเกิดใหม่จริง ๆ
ยังคุยกับพี่อาร์ตว่า 50-50 อาจโดนยิง คิดว่าจ่ายตังค์ไปอาจยิงทิ้งเลย ไม่ได้กลับมา?
หมอสอง : ผมก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน เสี่ยงมากๆ เลยครับ
แต่ที่แน่ๆ มีคู่ใจที่มีสติ ถ้าไม่มีเฟร้นฟรายอาจไม่ได้กลับ?
หมอสอง : ใช่ เขาดำเนินการตามที่เราแนะนำทุกอย่าง ลำบากมากในการสื่อสารแต่ก็พยายามทำจนสำเร็จได้
เฟร้นฟราย : ขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจให้พี่สอง เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดขึ้น ก็เป็นอุทาหรณ์ที่นำมาบอกเล่ากัน เพราะการท่องเที่ยวมันก็จะมีเรื่องอะไรที่เราต้องระมัดระวัง ส่วนถามว่าทำไมถึงมีสติ เรื่องนี้ทำให้โตขึ้น มีสติมากขึ้น พยายามคิดไปในทางที่ดีก่อน แล้วก็จัดการให้พาพี่เขากลับมาให้เร็วที่สุด ให้เขาเสี่ยงน้อยที่สุด ปลอดภัยให้มากที่สุด ก็ขอบคุณทุกๆ กำลังใจที่ส่งมาให้พี่สองนะคะ
คุณเก็บโดยไม่ได้แพร่งพราย ไม่งั้นหมอสองอาจโดนหนักกว่านี้หรือไม่ได้กลับมา?
หมอสอง : ใช่ เขาบอกว่าถ้าไม่ทำตามตรงนั้น ทุกอย่างก็จะหยุดเลย เขาบอกแบบนี้เลย ผมก็ขอบพระคุณมากๆ กำลังใจส่งมาเยอะมากทุกช่องทาง ขออนุญาตผ่านรายการพี่หนุ่ม ขอบคุณมากๆ ที่ให้กำลังใจ เราใจชื้นมาก
กลับมาแล้วหอมกันหรือยัง?
หมอสอง : อันนี้คงไม่ใช่ (หัวเราะ)
รับขวัญกันหรือยัง?
หมอสอง : ก็มีให้กำลังใจกัน
ถามว่าหอมกัน?
หมอสอง : (หัวเราะ) ก็มีบ้างครับ