นับว่าเป็นอนิเมะที่มีพล็อตเรื่องที่น่าสนใจอย่างมาสำหรับเรื่องนี้อย่าง ดอกเตอร์สโตน หรือ ดร.สโตน เจ้าแห่งวิทยาศาสตร์กู้คืนอารยธรรมโลก เป็นอนิเมะที่ผู้เขียนทิ้งช่วงไว้นานพอควรกว่าจะได้มาดู เพราะส่วนหนึ่งผู้เขียนได้อ่านมังงะมาก่อนหน้านั้นแล้ว ที่เขียนโดย อาจารย์ ริอิจิโระ อินางาคิ วาดภาพโดย อาจารย์ โบอิจิ ที่มีวางขาย 6 มีนาคม พ.ศ. 2560 – 7 มีนาคม พ.ศ. 2565 ที่ไทยก็มีสำนักพิมพ์อย่าง สยามอินเตอร์คอมิกส์ ที่มีฉบับรวมเล่มออกมามากถึง 25 เล่ม ผู้เขียนก็ได้ซื้อมาเก็บและอ่านจนจบ ต่อมาไม่น่าก็ได้ข่าวว่า ดอกเตอร์สโตน จะทำเป็นอนิเมะซึ่งมันก็ทำให้ผู้เขียนสนใจผู้เขียนสนใจว่าค่ายไหนจะรับทำซึงก็คือ ทีเอ็มเอสเอ็นเตอร์เทนเมนต์ ที่มีผลงานมาแล้วมากมายอย่าง ยอดนักสืบจิ๋วโคนัน / แฮมทาโร่ แก๊งจิ๋วผจญภัย ที่ได้ทีมสร้างผู้กำกับมากฝีมืออย่าง คุณ ชินยะ อิโนะ มารับหน้าที่กำกับเรื่องนี้ทีมพากย์ไทย Dr. STONE ได้แก่คุณ ณ ปุญญ์ ขวัญกมล ขาวไพศาล หรือ ขวัญกมล บุญจับ (TrueID) พากย์เป็น ยูสึริฮะ , ซุยกะคุณ เติ้ล พรเทพ บุญเวียนวงษ์ (True ID) พากย์เป็น อิชิงามิ เซ็นคูคุณ อ๋อง อังกูร กฤษณ์อังกูร (True ID) พากย์เป็น โครมคุณ อ๋อ ยุติธร เอี่ยมอร่าม (TrueID) พากย์เป็น อาซากิริ เก็นคุณ ต่าง ภูเบศ พัฒน์ปรีชา (TrueID) พากย์เป็น โอกิ ไทจูคุณ อ๋อ ธนกฤต เจนคลองธรรม (TrueID) พากย์เป็น ชิชิโอะ ซึคาสะ(ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก End Credits ท้ายเรื่อง)การชมอนิเมะผู้เขียนเป็นคนเดียวหรือเปล่าชอบชมพากย์ไทย ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นความคุณเคยที่เคยได้รับชมมานานหรือบางที่อาจจะมีความตื่นเต้นกับการที่ได้ยินเสียงไทยจากตัวละครที่เราชอบก็เป็นได้ อนิเมะเรื่องนี้ก็เช่นกันที่ได้ทีมพากย์ฝีมือดีมาพากย์ได้อย่างไม่เคอะเขิน พากย์ได้ดีทุกตัวละครกันเลยจริงๆน้ำเสียงที่ใช้ก็สมบทบาทและเข้าท่าเข้าทาง อย่าง คุณ อ๋อง อังกูร กฤษณ์อังกูร ที่พากย์เป็น โครม ก็นำน้ำเสียงมาใช้และลีลาแนวการใช้น้ำเสียงแบบคนตื่นเต้นกับการได้เห็นอะไรใหม่ๆครั้งแรกได้อย่างตรงไปตรงมาและแฝงด้วยลีลาความขี้เล่นลงไปนิดๆ คุณ เติ้ล พรเทพ บุญเวียนวงษ์ ที่พากย์เป็น อิชิงามิ เซ็นคู ก็ใส่น้ำเสียงเป็นคนที่มีความหัวแข็งหยิ่งนิดๆหัวขบถหน่อยๆลงไปในการพากย์ในครั้งนี้มันเลยทำให้ตัวละครตัวนี้ดูมีมิติและน่าค้นหา เอาเป็นว่ารวมๆงานพากย์ไทยคือดีต้องดูเล่าย่อๆเรื่องราวมันเริ่มขึ้นเมื่อแสงสีเขียววาบขึ้นบนท้องฟ้าทำให้ทำให้มนุษย์เกิดปฏิกิริยากลายเป็นหิน อิชิงามิ เซ็นคู เด็กหนุ่มผู้ที่ไม่ยอมให้สติของตัวเองหลับและหลุดไปในความมืด จึงได้ทำการนับทุกวินาทีจนในที่สุดเขาก็ตื่นขึ้นมาท่ามกลางโลกที่ภูมิประเทศได้เปลี่ยนแปลงไปหมด การกลายเป็นหินของเขากินเวลาไปประมาณ 3700 และประชากรมนุษย์ทั้งหมดยังคงเป็นหินอยู่ อิชิงามิ เซ็นคู เป็นคนที่ชื่นชอบวิทยาศาสตร์อยู่แล้วเลยทำให้เขาตั้งปฏิญาณ ว่าจะใช้วิทยาศาสตร์สร้างโลกนี้ขึ้นมา เขาที่ตื่นมาคนเดียวจะทำอย่างไรในโลกใบนี้ต้องติดตาม“กล้องพร้อม นักแสดงพร้อม เทปเดิน…ซีน 1 คัท 1 เทค 1…แอ็กชัน” 1 ซีน (Scene) คือ “ฉาก” ว่าด้วยเรื่องของฉาก / ต้องยอมรับว่าก็จะมาดูอนิเมะก็อ่านมาอย่างหนักหน่วงมามากเช่นกันกับเรื่องนี้ แต่ได้มาเห็นความสวยงามของฉากที่มีสีสันขึ้นมันก็ทำให้เราได้ตื่นเต้นไปกับเรื่องนี้ได้พอสมควร อนิเมะที่มีความชัดเจนการใช้ลายเส้นใหญ่ในการร่างกรอบนอกและลงลายละเอียดด้านในตัวละครมันทำให้ส่วนภาพดูมีมิติมากขึ้นและลาบละเอียดที่สวยงามและเด่นชัดมากขึ้น ธีมหลังก็ทำออกมาได้ดีมากสำหรับโลกที่ไม่ได้ล้มสะลาย แต่เป็นโลกที่ถูกทิ้งให้ล้างมากกว่าฉากต่างๆเราเลยจะเห็นมันเป็นป่าสะส่วนใหญ่เพราะแกนโลกเอียงด้วยมันเลยทำให้สภาพอากาศและสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลง ฉากต่างๆของเนื้อเรื่องก็ทำออกมาได้อย่างน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นฉากชิงไหวชิงพริบการเอาตัวรอดการร่วมมือระหว่าผองเพื่อนและการกลบเหลี่ยมของตัวละครอย่าง อิชิงามิ เซ็นคู กับ ชิชิโอะ ซึคาสะ และการใส่ฉากเบาๆของหมู่บ้าน อิชิงามิ การตื่นเต้นตกใจของ โอกิ ไทจู มันก็ทำให้เรื่องนี้ดูครบรสขึ้นมา2 คัท (Cut) คือ “มุม”ว่าด้วยเรื่องของบท / บทอนิเมะเรื่องนี้กับพล็อตเรื่องที่น่าสนใจมากๆ การกลายเป็นหินโดยที่ไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร การใช้วิทยาศาสตร์เพื่อกอบกู้โลกขึ้นมา หรือแม้แต่การเดินทางไปหาคำตอบของต้นต่อทั้งหมดของเหตุการณ์ ในความเป็นอนิเมะแฟนตาซีเข้าไปหน่อยๆมันก็ทำให้อนิเมะดูน่าสนใจขึ้นมามากเลยทีเดียว อนิเมะเรื่องนี้บทค่อนข้างที่จะไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้างในบางฉากบางตอน หรือจะเป็นเพราะว่าเป็นแนววิทยาศาสตร์ผสมแฟนตาซีเลยทำให้มันกลายเป็นบทอนิเมะที่ดูเบามากๆ เบาจนบางที่ไม่มีความตื่นเต้นเลยก็มี เดาทางบทก็ง่ายไม่ซับซ้อนอะไรมากมายแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความสนุกและความน่าสนใจของวิทยาศาสตร์ ผู้เขียนนึกถึงมังงะเรื่องหนึ่งของเกาหลีใต้อย่าง ครอบครัวตึ๋งหนืด ที่สอดแทรกความรู้ต่างๆของ เศรษฐศาสตร์, ความรู้ทั่วไป และวิทยาศาสตร์ เอามาเปรียบเทียบกันมันก็มีส่วนคล้ายๆเรื่องนี้อยู่นะ สรุปง่ายๆอนิเมะเรื่องนี้บทค่อนข้างที่จะเบาแต่ก็แฝงไปด้วยอะไรหลายๆอย่างที่เต็มไปด้วยชุดความรู้แบบเข้าใจง่าย 3 เทค (Take) คือ “จำนวนครั้งที่เล่น”ว่าด้วยเรื่องของตัวละคร / ตัวละครในเรื่องนี้ค่อนข้างที่จะโหวกเหวกโวยวายกันอยู่บ้าง ตัวละครต่างๆของเรื่องนี้ไม่ได้มีความเด่นชัดมากพอในเรื่องของการเติบโต แต่ก็สามารถหยิบจับประโยชน์ต่างๆจากสิ่งรอบตัวมาใช้ เช่นเช็นคู ที่เป็นผู้ที่ชื่นชอบวิทยาศาสตร์ก็ใช้ทุนเดิมของตัวเองเดินหน้าตัวละคร หรือ ซึคาสะ ที่มีความแข็งแกร่งเป็นต้นทุนและความเป็นคนที่โด่งดังอยู่แล้วก็ใช้เรื่องพวกนี้ดันตัวเองขึ้นมาและกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มอีกกลุ่มหนึ่ง แต่ก็ยังพอมีตัวละครที่ใช้เส้นบางๆนี้ในการเติบโตอย่าง โครม ที่ตื่นเต้นกับวิทยาศาสตร์และหยิบจับมันมาใช้ได้อย่างน่าสนใจอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เอาง่ายๆเลยตัวละครจากเรื่องนี้ทั้งหมดมีความเป็นตัวของตัวเองอยู่พอสมควรแต่บางตัวก็น่าสนใจเป็นพิเศษในเรื่องของตัวละคร ทั้งความเด่นชัดที่ค่อยๆชัดเจนขึ้นเรื่อยๆและการชิงไหวชิงพริบก็ยังน่าสนใจไม่แพ้กัน4 Slate คือ ป้ายที่เขียนบอก ซีน คัท เทคว่าด้วยเรื่องของความหมาย / การล้มสลายของมนุษย์ในเรื่องนี้มีประเด็นตกผลึกที่น่าสนใจอยู่สองอย่างคืออย่างแรกการคืนร่างให้กับทุกคนบนโลกให้กลับมา สองคือการทำลายโลกเก่าและสร้างโลกใหม่ขึ้นมา มันเป็นประเด็นที่น่าสนใจในทั้งคู่ การสร้างโลกใหม่พี่มีแต่เด็กหนุ่มของ ชิชิโอะ ซึคาสะ ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างมาเหมือนกันกับแนวคิดนี้ แต่การที่จะทิ้งมนุษยชาติไว้ข้างหลังก็เป็นเรื่องที่ไม่น่ายอมรับเช่นกัน เลยกลายเป็นประเด็นถกถามที่น่าสนใจมากที่สุดในเรื่อง แต่ถึงอย่างไรอนิเมะก็เลือกที่จะเล่าความหมายนี้ให้มีความเด่นเท่ากันเลยกลายเป็นเรื่องยากที่จะตัดสินใจเชียร์ข้างใดข้างหนึ่งเพราะกลไกของมนุษย์นั้นซับซ้อนโดยเฉพาะชุดความคิดที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลา 5 “คัท !!!!”ดร.สโตน เจ้าแห่งวิทยาศาสตร์กู้คืนอารยธรรมโลก เป็นอนิเมะน้ำดีเรื่องหนึ่งต้องบอกว่าดีจริงๆนะในแง่ของ เปิดเรื่องได้ดี พล็อตเรื่องสุดต๊าซ ตัวครคาแรกเตอร์ทุกตัวโดดเด่นและจำง่ายไม่ซับซ้อน เล่าทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ที่เข้าใจยาก กลายเป็นเรื่องง่ายอย่างชาญฉลาด ทำให้คนที่บอกว่ายากเข้าใจได้ง่ายในมากี่นาที รู้สึกตื่นเต้นและชวนให้เราเหล่าคนดูสงสัยเสมอ แม้สิ่งเหล่านั้นจะเป็นของง่าย ๆ ที่พบเห็นได้ทั่วไปก็ตามแต่ แต่ก็ยังมีการทำตัวเว่อร์ๆของตัวละครที่มีมาให้เราเห็นอยู่ตลอดเลยกลายเป็นว่าเรื่องราวที่เข้มข้นมันดูเบาลงในทันที (เอาง่ายๆก็คือหมดความตื่นเต้นนั้นแหละ) งานภาพยังไม่ได้โดดเด่นนัก แต่ก็ทำให้เราเห็นลายละเอียดที่ชัดเจนมากขึ้น ธีมหลังและธีมหลักก็ทำออกมาได้โดดเด่นและน่าสนใจ Mood and Tone ที่เข้าท่าเข้าทางแม้จะไม่โดดเด่นเหมือนเรื่องอื่นแต่ก็ไม่ได้น้อยหน้าเรื่องอื่นเลย ชอบประโยคนี้ จาก Dr. Stone ตอนแรก "ฉันจะเอาชนะแฟนตาซีด้วยวิทยาศาสตร์" อิชิงามิ เซ็นคูอ่านรีวิวแล้วอยากดูการ์ตูนออนไลน์ Dr. Stone ซีซั่น 1 ทั้ง 24 ตอน คลิก(สิ่งหนึ่งที่คนดูอย่างผู้เขียนเห็นคือความตั้งใจของทีมผู้กำกับทีมนักแสดง คะแนนเต็มแบบไหนอย่างไรไม่ควรนำมาตัดสิน กับเรื่องของภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม "คะแนนของคุณไม่ใช่คะแนนของใคร ที่สำคัญกำลังใจย่อมดีกว่าการตัดสินด้วยคะแนน" ผู้เขียนจะย้ำอยู่เสมอ สิบปากว่าไม่เท่าตาคุณเห็น ต้องชมเองให้ได้เท่านั้น)อ่านรีวิวซีซั่นที่สองเพิ่มเติมได้ที่ - Dr. STONE : Stone Wars ดอกเตอร์สโตน สโตนวอร์ส หรือ ดร.สโตน สโตนวอร์ส บทสรุปสงครามแย่งชิงถ้ำปาฏิหารย์ อนิเมะโลกยุคหินที่พาเราเหล่าคนดูไปต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดและหาคำตอบไปพร้อมๆกับตัวละคร#จิปาถะและอรรถรสขอบคุณภาพประกอบจาก Dr. STONE - ปก / 1 / 2 / 3 / 4 / 5ขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก End Credits ท้ายเรื่อง และการเป็นแฟนเดนตายผู้กำกับภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักเขียนบทภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกม นักแสดงทุกท่านทีมสร้างภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมทุกคนและบริษัทและค่ายผู้ผลิตภาพยนตร์ , อนิเมะ , ซีรีส์ , แอนิเมชัน และเกมคอมมูนิตี้โลกคนรักหนัง ห้องหวีดซีรีส์ดังออกใหม่มาแรง ป้ายยาหนังดีหนังโดน