อดีตซูเปอร์แมน "แบรนดอน รูธ" ยังคาใจถึงวันนี้ Superman Returns ไร้โอกาสมีภาคต่อ
ข่าวสารวงการหนัง Superman Returns
"Superman Returns" หนึ่งในหนังที่พยายามให้กำเนิดและชุบชีวิตซูเปอร์แมนขึ้นมาใหม่ และได้แจ้งเกิดให้กับนักแสดงหนุ่มหล่อ "แบรนดอน รูธ" แม้จะได้รับคำวิจารณ์ที่ไม่ได้ย่ำแย่อะไร ได้คะแนนเฉลี่ย 75 เปอร์เซ็นต์ บนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes แต่หนังกลับไม่ประสบความสำเร็จทางรายได้สักเท่าไหร่ ทำให้ไม่มีโอกาสได้เห็น แบรนดอน กลับมาสวมผ้าคลุมแดงอีกครั้ง
เนื่องจาก วอร์เนอร์ บราเธอร์ส ได้ตัดสินใจพักโครงการสร้างภาคต่อ ก่อนที่อีก 5-6 ปีต่อมาจะรีบูทซูเปอร์แมนขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ซึ่งก็คือ "Man of Steel" ที่นำแสดงโดย "เฮนรี คาวิลล์" ถือว่าทิ้งเคว้งโครงการซูเปอร์แมนไม่ได้รีเทิร์นกลับมาอีก ล่าสุด แบรนดอน รูธ ได้มีโอกาสพูดคุยในรายการ "Inside of You" ของพิธีกร 'ไมเคิล โรเซนบอม' และได้เปิดใจย้อนไปถึงผลงานในอดีตของเขา และหนึ่งในนั้นที่ยังคงค้างคาใจอยู่ก็คือการไม่ได้รับบทซูเปอร์ฮีโร่ในตำนานต่อ
"ถ้าให้ผมพูดถึงการได้รับบท ซูเปอร์แมน ของผมใน Superman Return ทำไมถึงไม่ได้ไปต่อ ทั้งที่จริงๆ ผมและคนอื่นๆ ก็ยังคิดว่าน่าจะได้ไปต่ออยู่ แต่ในท้ายที่สุดผมก็ต้องปล่อยวางกับหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น หนังไม่มีโอกาสได้สร้างภาคต่อ ทั้งที่คำวิจารณ์โดยรวมก็ไม่ได้ย่ำแย่อะไร ผู้คนชอบหนังเรื่องนี้"
แบรนดอน กล่าวเสริมว่า "แต่ก็นั่นแหละ หนังทำเงินได้เกือบๆ 400 ล้านเหรียญทั่วโลก ก็ยังคงไม่เพียงพอที่จะได้ไปต่อ และหนังก็ถูกพัฒนาต่อค่อนข้างช้าด้วย ผ่านไป 2-3 ปี ผมก็พยายามทำทุกอย่างเท่าที่ผมจะที่ทำได้"
นอกจากนี้ แบรนดอน ยังยอมรับว่า ในตอนนั้นเขายังต้องเผชิญกับประเด็นวิจารณ์ต่างๆ นานาเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของเขาในฐานะซูเปอร์แมน ที่หลายคนเปรียบเทียบเขากับต้นฉบับอย่าง "คริสโตเฟอร์ รีฟส์" และบอกว่าการทำงานกับ "ไบรอัน ซิงเกอร์" ตอนนั้นก็ค่อนข้างยากเหมือนกัน แม้ว่าผู้กำกับจะสอนและดีกับเขามากๆ ก็ตาม
แต่ถึงแม้ว่า แบรนดอน รูธ จะไม่มีโอกาสได้ไปต่อในฐานะฮีโร่บนจอใหญ่ แต่ตอนนี้เขาก็ถือว่าประสบความสำเร็จด้วยดีในฐานะฮีโร่จอเล็ก เพราะเขาได้ร่วมแสดงในทีวีซีรีส์ชื่อดังหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น Arrow, The Flash, Legends of Tomorrow หรือรับเชิญใน Supergirl และ Batwoman ก็ถือว่าเขาโลดแล่นไปได้ดีกับวงการทีวีในปัจจุบัน
อ่านข่าว: เปิดโผโปรเจคหนังใหม่จักรวาล "ดีซี คอมิกส์" ปักหมุด-อัปเดตทุกเรื่องเอาไว้ที่นี่
Source: SlashFilm
----------------------------------------------------