มันเป็นอะไรที่แปลกใหม่มาก การทำอัลบั้มนี้บีบให้พวกเราต้องออกจากกรอบเดิมๆเพื่อที่จะสร้างผลงานจากจุดที่เรากำลังยืนอยู่ให้ส่งถึงคนฟังและทำให้พวกเขารู้สึกดีลูค เฮมมิ่งส์ นักร้องนำของวง 5 Seconds Of Summer กล่าว อัลบั้ม CALM ที่เพิ่งจะวางจำหน่ายและปล่อยออกมาให้พวกเราได้ฟังเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2020 ที่ผ่านมาเป็นผลงานของวงดนตรีป๊อปร็อกชื่อดังอย่าง 5 Seconds Of Summer (หรือชื่อย่อ 5SOS) ซึ่งผลงานเก่าๆของพวกเขาก็มีอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว รวมทั้งงานเพลงที่ได้ร่วมแต่งและบรรเลงกับศิลปินชื่อดังคนอื่นๆ เช่น The Chainsmokers ในเพลง Who do you love จนมาถึงปีนี้ ที่พวกเขาได้ปล่อยอัลบั้มเพลงใหม่โดยใช้เวลากว่า 1 ปีในการเรียบเรียงเพลงทั้ง 12 เพลงแล้วนำเสนอแก่ผู้ที่หลงใหลในเสียงเพลงทั่วโลก โดยในระหว่างที่กำลังเรียบเรียงและประพันธ์เพลงให้ครบทั้ง 12 เพลงนั้น 5SOS ก็ได้อัพโหลดมิวสิควิดีโอออกมาทั้งหมด 5 วิดีโอด้วยกันเพื่อเป็นการโปรโมทอัลบั้มที่พวกเขากำลังเตรียมความพร้อมที่จะจำหน่ายอย่างเสร็จสมบูรณ์สำหรับการรีวิวนั้น ขรจะรีวิวเป็น Track by Track หรือการรีวิวรายเพลงทั้งหมดในอัลบั้ม และความเห็นส่วนใหญ่นำมาจากความรู้สึกส่วนตัว ขรค่อนข้างชอบเพลงในอัลบั้ม CALM เลยทีเดียวถึงแม้ว่าฟังครั้งแรกจะเกิดความรู้สึกที่ไม่ติดหูสักเท่าไหร่ก็ตาม แต่โดยรวมนั้นถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของหนุ่ม ๆ 5SOS อีกผลงานหนึ่งเลยก็ว่าได้ Red Desert - โดยส่วนมาก ศิลปินมักจะนำเพลงแรกมาเป็นอินโทรเปิดเรื่องราวที่ผู้ฟังจะได้รับในอัลบั้ม แต่สำหรับเพลงนี้นั้น เป็นการเปิดตัวแนวเพลงที่ได้เปลี่ยนไปของ 5SOS จากอัลบั้มก่อนหน้าอย่าง Youngblood ถึงแม้ว่าแนวเพลงจะยังคงเป็นป๊อปร็อกอยู่แต่เพลง Red Desert ได้นำเสนอเทคนิคในการบรรเลงเพลงที่แปลกใหม่อย่างเช่น การประสานเสียง หรือการใช้เสียงBeatที่ไม่เคยพบจากอัลบั้มเก่า ๆ ของพวกเขาจนขรเองถึงกับแอบตกใจเล็ก ๆ เรียกได้ว่าเป็นการเปิดตัวอัลบั้มที่ 4 ได้ดีเลยทีเดียวNo Shame - เพลงนี้ขรเรียกได้เต็มปากเลยว่าเป็นเพลงเรียกแฟน ๆ หน้าเก่าให้กลับมาสนใจวงนี้อีกครั้ง (หลังจากที่แฟนคลับกลุ่มหนึ่งได้เลิกติดตาม 5SOS เพราะแนวเพลงที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงของอัลบั้ม Youngblood) ซึ่งเพลงนี้ได้เปิดตัวด้วยการปล่อย MV ลงในแพลตฟอร์มขนาดใหญ่อย่าง Youtube (รับชมและฟังได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=69glFaMhGgc) No Shame เป็นเพลงที่ติดหูมากสำหรับขร ทั้งยังมีกลิ่นอายของร็อกและพังก์ที่แทรกขึ้นมาเล็ก ๆ เหมือนแนวเพลงช่วงปี 2014-2015 ขรคิดว่านี่แหละคือจุดเด่นที่เรียกตัวแฟนคลับหน้าเก่าให้กลับมาติดตามพวกเขาอีกครั้ง โดยเนื้อหาใน MV และเนื้อเพลงนั้นก็น่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งการนำเสนอ มุมมอง และดนตรีที่ทำเอาผู้ฟังเข้าถึงเพลงนี้ได้อย่างง่ายดาย 10 10 10 เลยจริง ๆOld Me - ทุกคนมักจะมีเพลงที่ฟังแล้วทำให้รู้สึกถึงความ Nostalgic หรือหวนนึกถึงวันเก่า ๆ 5SOS หยิบความรู้สึกนั้นมาเรียบเรียงเป็นเพลงขึ้นมาใหม่ได้ดีเลยทีเดียว สำหรับขรที่เป็นแฟนวงนี้มานานพอตัวอยู่เหมือนกันถึงกับไม่ต้องฟังเพลง She Looks So Perfect ก็ทำเอานึกถึงสมัยรู้จักวงนี้ใหม่ ๆได้จากการฟัง Old Me และเพลงนี้ยังเป็นอีกเพลงที่มี MV เป็นของตัวเองใน Youtube (รับชมและฟังได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=i0jZJtE1KhU) Easier - สำหรับแฟน ๆ ที่ติดตาม 5SOS อยู่แล้ว ก็คงจะทราบกันดีว่าเพลงนี้เป็นเพลงแรกที่ได้รับการโปรโมทตั้งแต่ช่วงต้นปี 2019 เลยทีเดียว ซึ่งเมื่อเปิดเพลงนี้ได้ทำการเปิดตัวพร้อมกับ MV (รับชมและฟังได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=b1dFSWLJ9wY) ก็ทำฐานแฟน ๆ ตกใจกันอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าแนวเพลงจะเปลี่ยนไปจากเดิมตั้งแต่อัลบั้ม Youngblood แต่พวกเขาก็ยังสามารถเพิ่มลูกเล่นเข้าไปให้แนวเพลงดูแตกต่างออกไปได้อีก รวมทั้งการเปิดตัวเทคนิคการไฮโน้ตของลูค เฮมมิ่งส์ นักร้องนำของวง ที่ทำเอาเจ้าตัวโดนแซวว่าเหมือนศิลปินชายชื่อดังอย่าง ชาร์ลี พุธ ไปช่วงหนึ่ง จนชาร์ลีตัวจริงเสียงจริงได้เข้ามาร่วมทำเพลงนี้ฉบับ Remix ด้วยซะเลย Teeth - เพลงนี้ได้ถูกนำไปประกอบซีรี่ส์ชื่อดังบนแพลตฟอร์ม Netflix อย่าง 13 Reasons why Season 3 ซึ่งเหมือนว่า 5SOS ตั้งใจจะแต่งเพลงนี้ขึ้นมาเพื่อนำไปใช้ในซีรี่ส์เรื่องนี้อยู่แล้ว เป็นเพลงที่ 2 ที่ได้รับการโปรโมทพร้อมกับปล่อย MV (รับชมและฟังได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=JWeJHN5P-E8) โดยเนื้อหาในวิดีโอนั้นมีความลึกซึ้งชวนฟังไปวิเคราะห์ไปเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นเพลงที่ได้รับการโปรโมทต่อจาก Easier ซึ่งมีการใช้เทคนิคค่อนข้างจะต่างกัน จึงทำให้เกิดความรู้สึกที่ว่าอัลบั้มนี้มีความหลากหลายและไม่เหมือนเอาเพลง ๆ เดียวมาแต่งใหม่ไปมา แต่เป็นการสร้างสวรรค์ผลงานชิ้นใหม่แบบชิ้นต่อชิ้น จุดที่ทำให้ขรถึงกับตาโตตอนฟังก็คือช่วงท้ายที่ได้ใส่ลีลาการเล่นกีตาร์ของไมเคิล คลิฟฟอร์ด มือกีตาร์ของวงลงไปชูความโดดเด่นของเพลงให้ออกมาสมบูรณ์แบบWildflower - เพลงล่าสุดที่ได้รับการวางจำหน่ายพร้อมปล่อย MV (รับชมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=YgzhJcBnKOg) แถมยังมีการปล่อยวิดีโอเนื้อเพลงออกมาก่อนหน้าวันวางจำหน่ายอัลบั้มฉบับสมบูรณ์เพียงแค่ 2 วัน เรียกได้ว่าเป็นการเรียกน้ำย่อยแฟนคลับที่ดีเลยทีเดียว โดยเพลงนี้ขับร้องนำโดยคาลัม ฮูด มือเบสของวง และลูค เฮมมิ่งส์เป็นเพียงผู้ร้องประสานเท่านั้น ซึ่งไม่ได้ทำให้คุณภาพของเพลงพวกเขาตกลงเลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกประทับใจในความสามารถของหนุ่ม ๆ เพิ่มขึ้นมากกว่า 5SOS ได้นำการประสานเสียงชูขึ้นมาในเพลงนี้รวมทั้งการใช้เทคนิคที่ทำให้นึกถึงดนตรียุค 90sBest Years - ใครเป็นขาป๊อปก็คงจะชอบเพลงนี้เป็นพิเศษ โดยระดับเสียงของเพลงมีความเสมอเท่ากันทั้งเพลงซึ่งทำให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลายจนกระทั่งช่วงท้ายที่ได้เริ่มใส่ความดุดันลงไปเป็นจุดพีคของเพลง รวมเข้ากับเนื้อหาที่มีความโรแมนติกเหมาะสำหรับส่งต่อให้แก่คนรักเป็นอย่างมากNot In The Same Way - เป็นเพลงที่แฟน ๆ ต่างพูดกันเป็นเสียงเดียวว่า นี่เป็นเพลงอกหักที่ชวนให้ลุกขึ้นมาเต้นมากกว่าจะมานั่งฟังแล้วเอาหน้าซุกหมอนร้องไห้ จังหวะ ทำนอง และเทคนิคประสานเสียงของเพลงนี้นั้นถูกนำเสนอมาได้เป็นอย่างดีและลื่นไหลอย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะจังหวะของกลองที่เป็นจุดเด่นซึ่งคอยนำช่วงขึ้นลงและช่วงพีคของเพลง ต้องชื่นชมความสามารถของแอชตัน เออร์วิน มือกลองของวงจริงๆLover Of Mine - ตอนที่ขรได้ฟังครั้งแรก ขรคิดว่าจะเป็นเพลงที่มีทำนองระดับเดียวกันทั้งเพลงเหมือน Lie To Me จากอัลบั้ม Youngblood แต่เมื่อเข้าท่อน Pre-Chorus ก็ได้ทำให้รู้ว่าขรคิดผิดมหันต์เลย แต่ความตกใจที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจากความรู้สึกผิดหวังแต่เป็นความประทับใจในตัวเพลงที่ดีเกินคาด เนื้อเพลงติดหูชวนให้ฮัมตามและเสียงดนตรีอ่อน ๆ นั้นเข้ากันได้อย่างลงตัว แถมสำเนียงภาษาอังกฤษของลูค เฮมมิ่งส์ยังไพเราะมาก ๆ ในเพลงนี้อีกด้วย โดยเพลงนี้ได้มีเบื้องหลังเล็ก ๆ นั่นก็คือลูคได้แต่งเพลงนี้ขึ้นกับแฟนสาวของเขา เซียร่า ดีตัน ทำเอาแฟนๆอินกับความรักของทั้งสองระหว่างฟังเพลงนี้ไปด้วยเลยThin White Lies - ช่วงอินโทรของเพลงมีการใช้ลำดับคอร์ดเดียวกับเพลง Old Me ในบางคอร์ด ขรได้ยินเสียงทำนองเบสของเพลงนี้แล้วรู้สึกชอบมาก ถึงแม้จะไม่เด่นเท่าในเพลง Teeth แต่ไลน์เบสในเพลงนี้เป็นทำนองที่ประสานเข้ากับจังหวะกลองที่ดีมากจนแทบจะคารวะการเรียบเรียงเพลงของหนุ่ม ๆ 5SOS และทีมงานLonely Heart - กลับมาที่การเน้นลูกเล่นประสานเสียงอีกครั้ง โดย 5SOS ได้นำมาใช้เต็ม ๆ ในเพลงนี้ แอบแปลกใจเล็ก ๆ ที่ถึงแม้ว่าจะมีการใช้เทคนิคนี้แทบจะทั้งเพลงแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัดว่ามันเยอะเกินไป และทำนองกีต้าร์ทั้งแบบอคูสติกและอิเล็กทรอนิกส์ก็ยังไพเราะเป็นอย่างมากไม่แพ้เพลงอื่น ๆ ที่ผ่านมาHigh - เสียงร้องของลูค เฮมมิ่งส์และดนตรีที่คลอเบา ๆ ในเพลงนี้ค่อนข้างที่จะดิบเลยทีเดียวราวกับว่าพวกเขาอัดผ่านไมค์สตูดิโอเทคเดียวจบ เป็นเพลงที่ไม่มีเสียงกลองแต่ถูกแทนด้วยเสียงของคีย์บอร์ดแทน หากผู้ฟังได้ลองจับใจความเนื้อหาของเพลงนี้ดี ๆ จะรับรู้ได้ถึงความเศร้าที่ 5SOS ต้องการนำเสนอออกมา ทำเอาขรรู้สึกแปลกใจที่พวกเขาเลือกที่จะเอาเพลงเศร้ามาเป็นเพลงปิดของอัลบั้ม แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแย่เสียทีเดียวเพราะเกิดจากความรู้สึกส่วนตัวของขรเองโดยรวมแล้วอัลบั้ม CALM ถือเป็นอัลบั้มเพลงที่ขรยกให้ขึ้นอันดับสูง ๆ ในชาร์ตเพลงของปีนี้เลย เพราะเพลงส่วนใหญ่เกือบทั้งอัลบั้มนี้มีทำนองและกลิ่นอายที่เข้าถึงได้ทุกกลุ่มผู้ฟัง แถมยังมีเสน่ห์สไตล์ 5 Seconds Of Summer เล็ก ๆ ที่เรียกฐานแฟนเพลงหน้าเก่าของตัวเองให้กลับมาสนใจได้ ซึ่งก็ขอย้ำอีกครั้งว่าบทความรีวิวนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวทั้งหมดของขรเอง หากผู้อ่านต้องการสัมผัสความรู้สึกจากการฟังอัลบั้ม CALM ด้วยตนเอง สามารถฟังได้ที่Youtube / Spotify / iTunes ขอบคุณภาพจาก IG : 5sosภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3