รีเซต

อีฟ-กมลชนก เลิก! สามีเกาหลี หอบลูกกลับไทย เปิดใจหมดทุกคำถาม ในรายการ คนดังนั่งเคลียร์

อีฟ-กมลชนก เลิก! สามีเกาหลี  หอบลูกกลับไทย เปิดใจหมดทุกคำถาม ในรายการ คนดังนั่งเคลียร์
27 มีนาคม 2558 ( 17:08 )
8.1K

          ทิ้งวงการบันเทิงไปใช้ชีวิตกับสามีอยู่ต่างประเทศร่วม 7 ปี มาวันนี้ “อีฟ-กมลชนก เวโรจน์” (อดีต)ดาราสาวชื่อดัง หอบลูกกลับเมืองไทย ลือกันหนาหูว่าเจ้าตัวและ “สามีชาวเกาหลี” แยกกันอยู่กว่า 6 เดือน ด้วยสาเหตุที่ว่าคุณสามีไม่มีเวลาให้ ไร้วิสัยความเป็นพ่อ ข่าวนี้จริงหรือไม่ รายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ทาง “ช่อง 2” บันเทิง..ถึงรส ถึงคุณ มีคำตอบ

แยกกันอยู่กับสามีชาวเกาหลีแล้ว ?

           “แฟนอีฟเป็นเกาหลี แต่เกิดที่อเมริกา”

แยกกันประมาณ 6 เดือน ยังอยู่ที่อเมริกา ?

           “ค่ะ ยังอยู่ค่ะ ยังอยู่ในเมืองเดียวกัน ยังเจอกันบ้าง”

กลับเมืองไทยนานแค่ไหนแล้ว ?

           “ยังไม่ถึงอาทิตย์เลยค่ะ ประมาณ 4 วัน”


คุณพ่อคุณแม่ว่าไง ?

            “ไม่ได้ว่ายังไง เขาก็รู้มาตลอดเหตุการณ์ต่างๆ เราก็โทรมา คิดถึงบ้าน ตอนลูกคนที่ 2 คลอดมาประมาณ 6 เดือนแล้วเราแยกทางกับแฟน เราก็เลยเรียกคุณแม่ไปช่วยเลี้ยงลูกที่โน่น(หัวเราะ) ไม่งั้นก็คงจะหนักเหมือนกัน เพราะมีน้อง 2 คน”

ได้ยินว่าสามีมาง้อ ง้อยังไง ?

            “ก็เหมือนกับว่าเขาคิดได้แล้ว เขารู้สึกว่าเขาตื่นมาไม่เห็นหน้าลูก หน้าภรรยา เขารู้สึกเหมือนเขาขาดอะไรไป เขาก็จะปรับปรุงตัวใหม่ ก็พูดแบบนี้มาแล้วหลายครั้งตอนนี้เราไม่ฟังแล้ว เราให้เขาโชว์ให้เราเห็นก่อนดีกว่า”

มีแนวโน้มจะใจอ่อนไหม ? 

           “ลูกเรายังยัง ลูกเรา 2 คน เราจะต้องดูเขาเป็นคนแรกอยู่แล้วหมายถึงว่าเปิดโอกาส เขาเป็นพ่อของลูก ก็ไม่อยากให้ลูกไม่มีพ่อ”

มีเรื่องผู้หญิงไหม หรือแค่ไม่มีเวลาให้อย่างเดียว ?

           “ผู้ชายคนนี้ไม่เจ้าชู้เลย ไม่หวานเลย ไม่สวีตเลย เขาเป็นคนดีค่ะ แต่ว่าติดเรื่องติดเพื่อน แล้วเรามีลูกแล้ว มันไม่ใช่แค่อยู่จะไปเที่ยว ยูติดเพื่อน มันต้องมากกว่านั้น มันต้องคิดถึงอนาคต คิดถึงครอบครัว หรือว่าแบบคิดถึงอะไรยาวๆ แต่เหมือนเขาคิดแค่วันนี้พรุ่งนี้ อาทิตย์หน้า แค่นี้ คืออีฟไม่อยากพูดอะไรในทางที่ไม่ดีกับเขามาก เพราะอย่างน้อยเขาก็เป็นพ่อของลูกเราตั้ง 2 คน”

เป็นปัญหาสะสม ?

            “ประมาณนั้น แต่เขามาเป็นหนักๆ มากๆ ช่วงที่คลอดลูกคนที่ 2 แล้วก็ไม่ค่อยมีเวลา ตื่นมาออกไปทำงานเลย กลับบ้านทีเช้า มันไม่ใช่วิสัยของคนที่เป็นพ่อที่ควรจะทำ”


ลูกๆ ว่ายังไงบ้าง ?

            “เราเศร้ามาก เพราะว่าลุกเราเห็น ทุกครั้งเขาจะนัดมาเจอมาทานข้าว ทุกครั้งที่เขากลับลูกร้องไห้ แต่คนเล็กยังไม่ค่อยรู้เท่าไหร่ เขาก็อ้อนพ่อเขาเป็นเรื่องปกติ แต่คนโตจะร้องไห้ บางทีก็แดดี้อยู่ไหน”

เขารู้ไหมว่าลูกร้องไห้ ?

           “รู้ ทุกครั้งที่เขาเดินหันหลัง เขาก็จะรู้สึกไม่ดีว่าว่าทำไม แต่เราก็ไม่รู้ความคิดเขาว่าเขาจะรู้สึกแย่แค่ไหน อันนี้ไม่รู้จริงๆ”

แล้วเราบอกลูกว่าอะไร ?

            “แดดดี้ไปทำงาน แล้วเวลาใครถามเขาก็จะบอกว่าแดดี้เขาไปทำงาน”

ค่าเลี้ยงดูเขาส่งไหม ?

             “ค่ะ มีบ้าง”

เรื่องเงินส่วนใหญ่เราดูแล สามีช่วยมากแค่ไหน ?

            “เรื่องเงินต้องช่วยบ้าง เพราะที่โน้นมันเป็นกฎหมาย ถ้าเขาไม่ช่วย เขาก็ติดคุกได้ มันเป็นเรื่องที่เขาต้องทำ ตัวเอาเองเขาก็ช่วย แต่ว่าอาจจะไม่ค่อยตรงเวลา(หัวเราะ) ซึ่งเราก็ทำไม โตหน่อยได้ไหม คือแบบเหมือนเราเห็นวัยรุ่นที่นี่ เขาก็จะแบบพอโตขึ้นพวกเราก็จะอยากมีบ้าน อยากมีรถ แต่ที่โน้นไม่ค่อยเป็นแบบนั้นเท่าไหร่ ถ้าคิดคิดได้ก็คิดได้ แต่ถ้าคิดไม่ได้ก็จะไม่ได้เลย จะทำงานหาเงินไปวันๆ”

กลับมาครั้งนี้ตั้งใจมาอยู่ถาวร ?

           “ตอนนี้กลับมาทำเรื่องบริษัท ก็คงจะไปๆ มาๆ มากกว่า เพราะว่าอยู่ได้ทีละ 6 เดือน”

เรื่องที่เรียนลูก ?

           “คือใจอยากให้เรียนภาษาไทยที่นี่ก่อน เพราะภาษาไทยรู้สึกว่ายากกว่าภาษาอังกฤษ ภาษาอังกฤษโตแล้วก็ยังไปเรียนทัน แต่ว่าก็ยังไม่รู้ ถ้าเอาลูกมาเรียนที่นี่ อีฟต้องอยู่ที่นี่ บางทีคุณแม่ก็บอกเอาน้องทิ้งไว้นี่ก่อนไป แล้วไปเคลียร์ทางกับคุณพ่อเขาให้เรียบร้อย แต่ไม่ได้(หัวเราะ) ชีวิตนี้ติดลูก ต้องอยู่กับลูก”

ความเป็นไปได้ที่จะหย่า ?

            “ตอนนี้ก็ 50 50 ตอนแรกตัดสินใจว่าหย่า แต่อาทิตย์ก่อนที่เราจะมาเมืองไทย เขากลับมาง้อ ก็เลยทำใจลำบาก เพราะว่าลูกยังเล็ก”

ยังรักเขาไหม ?

            “ยังรักเขามาก ที่สุด ไม่งั้นไม่มีลูกด้วยกันถึง 2 คน แต่ถ้ารักแต่ว่าอนาคตเรามองไม่เห็นเนี่ย เราก็เหนื่อย”

            บทสัมภาษณ์แบบเต็มๆ ได้ในรายการ “คนดังนั่งเคลียร์” ได้ทางช่อง 2 ทุกวันจันทร์-ศุกร์เวลา 10.30/14.00/20.00น. เสาร์-อาทิตย์10.30/14.30/19.30 และติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.facebook.com/thaich2



ติดตามข่าวสารบันเทิงทีวีได้อีกช่องทาง
     Facebook.com/TVSociety