iHostage ทาง Netflix หยิบยกเอาเหตุการณ์ขู่วางระเบิดในร้าน Apple store ใจกลางกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ มาตีแผ่ผ่านมุมมองของภาพยนตร์เพื่อสะท้อนความกลัว ความหวัง และสัญชาตญาณเอาชีวิตรอดในสถานการณ์ที่ใครต่างก็คาดไม่ถึง เรื่องราวเนื้อหาจะเป็นอย่างไร สนุกจริงไหม? มาดูรีวิวหนัง iHostage ไปพร้อมๆ กันได้เลย รับชมหนังซีรีส์ระดับพรีเมียม กดสมัคร TrueID+ ดูได้ทุกที่ 24ชม. คลิก!! รายละเอียด หนัง iHostage มาใหม่ปี 2025 ทาง Netflix ชื่อเรื่อง: iHostage ประเภท: ระทึกขวัญ / สร้างจากเรื่องจริง ผู้กำกับ: Bobby Boermans นักแสดงนำ: Soufiane Moussouli รับบท Ammar Ajar / Admir Sehovic รับบท Ilian / Loes Haverkort รับบท Lynn / Emmanuel Ohene Boafo รับบท Mingus ความยาว: 1 ชั่วโมง 40 นาที ฉายทาง: Netflix (18 เมษายน 2025) แรงบันดาลใจ: เหตุการณ์จับตัวประกันที่ Apple Store อัมสเตอร์ดัม 2022 เรื่องย่อ หนัง iHostage มาใหม่ปี 2025 ทาง Netflix กลางวันแสกๆ ณ ร้าน Apple Store ในย่าน Leidseplein ประเทศเนเธอร์แลนด์ Ilian (รับบทโดย Admir Sehovic) ชายวัยกลางคนชาวบัลแกเรียที่เดินทางเข้าร้าน Apple Store เพื่อซื้อหูฟังคู่ใหม่หลังจากที่เขาทำหูฟังหาย แต่แล้วจู่ๆ ตัวเขาและคนอีกกว่า 40 ชีวิตในร้านแห่งนี้ต้องประสบกับชะตากรรมอันแสนโชคร้ายเมื่อ Ammar Ajar (รับบทโดย Soufiane Moussouli) บุกเข้ามาในร้านพร้อมยกอาวุธขู่ให้ทุกคนยอมอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา ก่อนที่ชายก่อการร้ายจะตัดสินใจเลือก llian เพื่อเป็นตัวประกันไว้ต่อรองกับทีมตำรวจที่จะต้องเดินทางเข้ามาเพื่อควบคุมสถานการณ์ภายในไม่ช้า Ammar บอกความต้องการว่าเขาอยากคุยกับนักเจรจาเพื่อบอกข้อเรียกร้องในครั้งนี้ ทำให้เขาได้คุยกับ Lynn (รับบทโดย Loes Haverkort) นักเจรจามืออาชีพ และเรียกร้องขอเงินค่าไถ่ 200 ล้านยูโรในรูปแบบคริปโตแบบที่ไม่ทิ้งร่องรอยหลักฐานตามตัวเขาได้ เหตุการณ์อันแสนว้าวุ่นที่ต้องแข่งกับเวลาจึงเริ่มต้นขึ้น สถานการณ์เต็มไปด้วยความตึงเครียด Lynn ต้องพยายามเกลี่ยกล่อมเพื่อดึงความสนใจ ในขณะที่ทีมตำรวจบุกเข้าให้ความช่วยเหลือกับผู้ประสบภัยที่ชั้นบน แต่แล้วเมื่อเข้าสู่ช่วงสำคัญ Ilian ตัดสินใจหลบหนีเอาชีวิตรอดสถานการณ์จึงพลิกผัน แผนอาชญากรรมครั้งนี้จะจบลงอย่างไร? มีการสูญเสียเกิดขึ้นหรือไม่ ติดตามคำตอบได้ใน iHostage ทาง Netflix รีวิว หนัง iHostage สร้างจากเหตุการณ์จริงปี 2022 เริ่มต้นอย่างหงส์..ตอนลงแอบขัดใจ ย้ำอีกทีว่ารีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนตัวของเราแบคนเดี๊ยวคนเดียวเลยเจ้าค่ะ (555+) อย่างไรก็แล้วแต่อยากให้เพื่อนๆ ได้ลองไปดูกันสักหน่อย เรากดดูเรื่องนี้เพราะเห็นว่าขึ้นภาพยนตร์ยอดฮิตของไทยในตอนนี้ ประกอบกับชื่อ ihostage ที่ดูแปลกตาดี ซึ่งชื่อนี้เขาก็มีความหมายนะ เพราะว่าคำ hostage แปลว่าตัวประกัน ส่วนคำว่า i ก็มาจากการตั้งชื่อเลียนแบบผลิตภัณฑ์ของบ้านแอปเปิ้ลที่จะขึ้นด้วย i ทั้งหมด เอ้อ..เก๋ดี อีกอย่างก็คือเรื่องราวสร้างมาจากเหตุการณ์อาชญากรรมที่เคยเกิดขึ้นจริงๆ ในปี 2022 เลยอยากเข้ามาร่วมลุ้นระทึกไปด้วย ที่ว่าเปิดตัวสวย คือ เกริ่นนำเนื้อเรื่องมาได้น่าสนใจ mood and tone มาแนวของหนังอาชาญกรรมดีๆ ที่ดูสนุก เหตุการณ์ไหลมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาเข้าสู่ช่วงอาชญากรรมในร้าน Apple Store จุดที่ชอบคือเนื้อเรื่องช่วงต้นไม่ย้วยเกิน เข้ามาไม่กี่นาทีก็เข้าเส้นเรื่องหลักโดยไม่ต้องรอนาน พล็อตเรื่องจะดำเนินไปในแนวของการจับตัวประกัน และขอคุยกับนักเจรจาเพื่อแจ้งความต้องการที่แท้จริงผู้ร้าย เส้นเรื่องมีการโชว์กึ๋นของนักเจรจาที่เขามีคำถามเชิงจิตวิทยา และคำถามเพื่อเปลี่ยนประเด็นความสนใจให้เราได้รับชม มีฉากการทำงานของตำรวจและหน่วยงานต่างๆ ของเนเธอร์แลนด์ที่ถูกถ่ายทอดออกมาในหนัง แต่เราว่าส่วนนี้ยังทำได้ไม่สุดเท่าไหร่นัก เหมือนจะโชว์ power การทำงานที่เหมือนเหยียบคันเร่งมาแล้วแต่ก็มาผ่อนเอาตอนกลางๆ มันเเลยไม่ impact มากนัก ส่วนบทของผู้ร้าย เหมือนหนังเรื่องนี้จะสื่อในแนวที่ว่าเขาไม่ใช่คนที่จะร้าย เลือดเย็น หรือฆ่าคนได้แบบไม่แคร์อะไร ถ้าเราดูจะเห็นได้ว่าเขาช่วยเหลือตัวประกัน หยิบน้ำ หยิบยาให้กิน เวลาที่ Ilian ร้องขอสิ่งไหน ผู้ร้ายก็อาจจะมีความเหี้ยมบ้างแต่ก็จะเห็นว่าเขาคล้อยตามและทำตามสิ่งที่ตัวประกันร้องขอเสมอ พอเดินเรื่องมาในแนวๆ คนร้ายที่มีหัวใจเราก็แอบหวังว่าตอนจบจะมี conflict อะไรให้เราได้ดูแน่ๆ แต่พอดูไปจนถึงตอนจบก็ต้องพบว่าเนื้อเรื่องกลับเดินไปเป็นเส้นตรง ตรงแด่วไม่มีพลิกแพลงอะไรเลยจนรู้สึกว่ามันขาดอารมณ์ของความตื่นเต้นไปเยอะโขเลยทีเดียว ตัวละครที่มีบทมากสุดคือ ผู้ก่อการร้าย ตัวประกันหลัก นักเจรจาผู้หญิง และผู้ที่หลบซ่อนในห้องทำงานของพนักงานอีก 4 คน ส่วนตัวละครอื่นๆ อย่างหัวหน้าหน่วยข่าวกรอง หัวหน้าทีมตำรวจ ตำรวจหนุ่มที่ต้องทิ้งครอบครัวมาเพื่อทำภารกิจด่วน รวมถึงตำรวจ 2 คนแรกที่อยู่ในเหตุการณ์ ดูแล้วแอบคิดว่าต้องเป็นองค์ประกอบสำคัญของเรื่อง กลายเป็นว่าแอร์ไทม์ระหว่างเรื่องหายไปเยอะมาก จนบางคนก็แอบสงสัยว่าใส่เขามาทำไมกันนะ (ฮาา) คือเขามีบทตอนต้นเรื่อง พอเข้ากลางเรื่องถึงช่วงท้ายของเรื่องบางตัวละครกลับหายไปเลย จนทำให้เรางงว่าแล้วเราต้อง Focus กับตัวละครเหล่านั้นไหมนะ เอาใหม่อีกที! เรื่อง production เรื่องฉาก ตอนแรกก็แอบคิดว่าเขาไปถ่ายที่ Location จริงเลยหรือเปล่า แต่ก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ และเมื่อพอได้ศึกษาข้อมูลพบว่าเขาสร้างร้านจำลองที่ดูเหมือนจริงขึ้นมาเลยต่างหาก และอาจมีการใช้ CGI ร่วมด้วยในบางส่วน เลยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมงานฉากถึงเนียนตาได้แบบสุดๆ ขนาดนี้ ทำมาได้สมจริงมากเลยทีเดียว ตอนจบที่จบแบบไม่มีพลิกแพลงเท่าไหร่นัก .. ทำให้เราร้องอ้าว .. จบแล้วเหรอ จบแล้วจริงเหรอหลายครั้งมาก อาจจะเป็นเพราะผู้กำกับตัดสินใจเดินเรื่องตามเหตุการณ์จริงเป็นส่วนมาก พอเอามาเซ็ตฉากเป็นหนังตามเนื้อหาจริงๆ โดยไม่มีการเพิ่มความ Wow เข้าไปเลย ทุกอย่างมันเลยดูแผ่วไปหน่อย คือในเหตุการณ์จริงแน่นอนว่าทุกคนต้องเครียดอยู่แล้ว แต่พอเป็นหนังแล้วมันไม่มีเรื่องมา conflict ไม่มีบู๊เดือดๆ มันเลยทำให้กราฟมันเป็นเส้นนิ่งๆ ไม่มีช่วงที่ทำให้เรารู้สึกกดดันร่วมเท่าไหร่นัก ย้ำอีกครั้งว่านี่เป็นแค่เพียงความเห็นส่วนตัวจากผู้เขียนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น เพื่อนๆ ดูเรื่อง iHostage แล้วคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง อย่าลืมมาแชร์กันได้น้า ภาพหน้าปก 1 จาก Netflix NL ภาพในเนื้อหา 1 2,4,5 3,7,8 6 จาก Netflix NL เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !