Movie Review12.12: The Day (2023)อีกครั้งที่เกาหลีหยิบเอาความจริงที่เจ็บปวดของชนชาติมาเล่าได้อย่างยอดเยี่ยมและบันเทิงด้วยความเข้มข้นขึงขังเร้าใจในทุกนาทีสำหรับหนังเรื่องต่อไปนี้มีที่มาจากการที่ผู้เขียนต้องหาภาพประกอบบทความทางโซเชียลมีเดียแล้วพลันไปเห็นภาพโปรโมทของหนังเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจเพราะเหมือนจะเป็นแนวสงคราม ด้วยความที่เห็นภาพนักแสดงระดับยอดฝีมืออย่างฮวังจองมินและจองอูซองในชุดทหารเกาหลีเผชิญหน้ากันในใจผู้เขียนก็นึกอยากดูขึ้นมาทันที เพราะดูทรงแล้วน่าจะเป็นสงครามพร้อมการเมืองในกองทัพที่แค่นักแสดงสองคนประชันบทบาทกันก็เห็นความเข้มข้นเชือดเฉือนลอยมาแล้วจึงอยากดูแต่ก็พอเข้าใจว่าน่าจะหาดูยากเพราะหนังไม่ได้เข้าฉายในบ้านเรา แล้วหนังเกาหลีใหม่หรือเก่าถ้าจะพอมีความหวังคงต้องหวังพึ่งทางค่ายสตรีมมิ่งสีเหลืองคือ viu ที่มักมีหนังเกาหลีที่ไม่ได้เข้าฉายในบ้านเรามาลงจอบ่อยๆ แน่นอนผู้เขียนที่ชอบดูคอนเทนต์เกาหลีจึงแวะเวียนมาหาหนังเกาหลีที่ว่าอยู่บ่อยๆจนกระทั่งมาเจอโดยที่ไม่รู้เลยว่าเข้ามาเมื่อไหร่แต่คงไม่นาน กับหนังที่ถ้าเป็นคอหนังทหารหนังสงครามชิงไหวชิงพริบต้องกระซิบว่า "อย่าเพิ่งตายถ้ายังไม่ได้ดู"หลังจากประธานาธิบดีถูกลอบสังหารพลตรีจอนดูกวัง (ฮวังจองมิน) ผู้บัญชาการการรักษาความปลอดภัยและป้องกันประเทศได้รับการแต่งตั้งให้เป็นประธานการสอบสวนร่วมในคดีลอบสังหารประธานาธิบดี แต่เสนาธิการทหารจองซังโฮ (อีซองมิน) ก็ระแวงในคามเป็นทหารการเมืองของจอนดูกวังจึงแต่งตั้งให้พลตรีอีแทชิน (จองอูซอง) มาเป็นผู้บันชาการกองพลรักษาเมืองหลวง แล้วเมื่อกลุ่มฮานาเฮวของจอนดูกวังที่รวบรวมเอานายทหารเข้าเป็นสมาคมลับเริ่มมีอำนาจขึ้นเรื่อยๆเสนาธิการจองซังโฮจึงจะย้ายจอนดูกวังออกไปอยู่ในพื้นที่ห่างไกล ทว่าจอนดูกวังรู้เรื่องก่อนเขาจึงหาเรื่องจับกุมเสนาธิการทหารที่เป็นผู้อำนวยการกฎอัยการศึกและนั่นเท่ากับเป็นการรัฐประหาร แล้วกำหนดการปฏิบัติการนั้นที่เรียกกันว่า "การก่อจลาจลทางทหาร 12.12" ในวันที่ 12 เดือนธนวาคมปี 1979 แต่แม้เหตุการณ์จะพลิกผันแต่จอนดูกวังยังคุมสถานการณ์ไว้ได้ถ้าไม่ใช่มีเพียงทหารสามนายที่ยืนหยัดต่อต้านการรัฐประหารโดยที่หัวหอกคืออีแทชินเอาเรื่องจริงมาเล่าได้อย่างยอดเยี่ยมขึงขังด้วยการชิงเหลี่ยมกันไปมาเหมือนเล่นหมากรุกหรือประชันกลศึกกัน ออกตัวชัดๆเลยว่านี่คือการอ้างอิงจากเหตุการณ์จริงนั่นคือนี่ก็คือเรื่องจริงที่ถูกแต่งเติมบางอย่างให้มีความเป็นภาพยนตร์ หนังจึงต้องออกมาดูสนุกบนเหตุการณ์ที่ชวนอึดอัดและแน่นอนต้องดูง่ายเพราะเห็นเจตนาชัดที่คล้ายจะมาย้ำเตือนบางอย่างกับคนในชาติเขา บทหนังทำได้ยอดเยี่ยมในการวางเรื่องที่ซับซ้อนหักเหลี่ยมชิงเหลี่ยมเฉือนคมกันไปมาผลัดกันได้เปรียบผลัดกันเพลี่ยงพล้ำไม่ต่างจากการเล่นหมากรุก บทหนังเล่าเรียงเวลาผ่านความซับซ้อนและพลิกผันด้วยชั้นเชิงง่ายๆคือการเล่นกับเงื่อนเวลาและสถานการณ์ที่ไม่เป็นใจ แถมด้วยบทสนทนาตรงๆไม่พยายามคมคายหรือมีอะไรเชิงลึกเพราะนี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงคนในชาติเขารู้ดีว่าเรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดยังไงในเวลาไม่กี่ชั่วโมงในค่ำคืนนั้น ส่วนผู้เขียนเองอาจโชคดีที่ไม่รู้เรื่องเหตุการณ์นั้นมากนักเลยกลายเป็นหนังที่ยากจะคาดเดาจนกระทั่งนาทีสุดท้ายหนังจึงออกมาบันเทิงอย่างเข้มขลังเข้มข้นเร้าใจลุ้นระทึกจนจิกหัวแม้เท้าแม้จะมีบทสรุปที่เจ็บปวด ถ้าว่ากันที่ความเป็นภาพยนตร์ที่คือหนังที่บันเทิงสุดฤทธิ์เพราะมาหมดทั้งความเข้มขลังเพราะนี่คือหนังการเมืองที่เข้าปกคลุมเครื่องแบบทหารทั้งยังมาในบรรยากาศที่มืดมนที่เข้าใจว่าจะสื่อถึงประเทศชาติเขาในเวลานั้น ทั้งยังเล่าเรื่องด้วยความเข้มข้นในเงื่อนเวลาที่จำกัดแล้วยังผลักหัวใจคนดูให้เลือกข้างไปเรียบร้อยว่าจะอยู่ข้างไหนเผด็จการที่ฝักใฝ่อำนาจหรือทหารอาชีพที่ทำหน้าที่จนนาทีสุดท้าย แน่นอนด้วยความที่หนังถูกใส่บางอย่างให้เป็นความบันเทิงคดีมากว่าจะเป็นความเรียบเรื่อยแบบสารคดีทำให้มีความพลิกผันไปมาครั้งแล้วครั้งเล่าจากการประชันกลศึกที่ผลัดกันปล่อยหมัด แล้วยิ่งเวลาเดินไปความรู้สึกคนดูจะเริ่มเหมือนกับทหารฝ่ายที่ปกป้องประเทศชาติด้วยความรู้สึกเริ่มเข้าตาจนทีละนิดแต่ยังหวังบางอย่าง ทว่านั่นคือในมุมของคนนอกอย่างผู้เขียนแต่บทสรุปมันถูกกำหนดไว้แล้วเพราะนี่คือเหตุการณ์จริงที่เจ็บปวดอีกครั้งที่เกาหลีเอาบาดแผลที่เจ็บปวดของชนชาติมาเล่าได้อย่างเข้าถึงง่ายและโดนใจเพราะแม้คนนอกยังรู้สึก ทุกครั้งที่เกาหลีเอาเรื่องแบบนี้มาเล่าจะเห็นถึงความเข้าใจง่ายดูง่ายแม้จะเป็นเรื่องที่มีมิติที่ซับซ้อนอย่าง 1987: When the Day Comes (2017) ที่เมื่อดูเรื่องนี้ไม่มีทางไม่คิดถึงที่เหมือนเป็นหนังภาคต่อด้วยซ้ำ เพราะประวัติศาสตร์ของชาติเขาได้ผ่านความเจ็บปวดและเสียสละมากมายยิ่งเหตุการณ์ 12.12 ของเรื่องนี้ยิ่งอาจมีหลายแง่มุมที่ถูกหลงลืมหรือมีคนที่เสียสละถูกหลงลืมไปบ้าง แต่ด้วยความที่เป็นคนนอกที่ดูโดยไม่รู้รายละเอียดในเหตุการณ์ความที่หนังเข้าถึงง่ายแบบนี้จึงทำให้ดูได้อย่างเข้าถึงและเข้าใจ แน่นอนผู้ชนะอาจไม่ใช่คนดีเสมอไปหนังจึงมีบทพูดที่เหมือนจงใจก่นด่าคนที่กระทำการอุกอาจเพื่อกินรวบแประเทศเขาแล้วนำพาประวัติศาสตร์ที่ยากจะลืมลงมาให้ เมื่อผู้แพ้อาจไม่ได้รับเหรียญตราใดๆแล้วหนังก็เหมือนจงใจจะประจานความชั่วช้าของกลุ่มคนที่เป็นปีศาจกัดกินประเทศเขาผ่านภาพถ่ายจริงๆในตอนท้ายการประชันกันทางการแสดงที่คุ้มเกินคุ้มไม่ใช่แค่สองนักแสดงนำแต่เป็นทุกภาคส่วนไม่เว้นแม้แต่นักแสดงรับเชิญ ยี่ห้อฮวังจองมินกับจองอูซองเชื่อขนมกินได้ในการแสดงเยี่ยมๆไม่ว่าจะเป็นบทแบบไหน สำหรับเรื่องนี้ที่เต็มไปด้วยความกดดันสองนักแสดงนำยังเชือดเฉือนฟาดฟันกันอย่างเมามันดูการแสดงอย่างคุ้มเกินคุ้มกันไป ซึ่งผู้เขียนสังเกตว่าเมื่อมีหนังที่เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ที่มาเพื่อย้ำเตือนความทรงจำของคนในชาติเขาแบบนี้มักจะมีนักแสดงชั้นนำมาร่วมจอคับคั่ง อย่างเรื่องนี้มีทั้งอีซังมิน,พัคแฮจุนและคิมซังคยุนที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีแล้วแสดงได้ไม่น้อยหน้าสองนักแสดงนำโดยเฉพาะรายหลังที่เรื่องนี้ซีเรียสเต็มที่จากที่เคยเห็นหน้าก็ฮาแล้วอย่างน่าทึ่ง ทั้งยังมีนักแสดงรับเชิญระดับจองแฮอินและอีจุนฮยอกที่เวลาบนจออาจไม่มากแต่ก็นับว่าได้ใจคนดูเพราะยังน่าเชื่อถือโดยเฉพาะจองแฮอิน รวมๆคือบทหนังที่เข้มข้นต้องการสื่อความรู้สึกแบบไหนออกมาก็รับได้หมดเพราะการแสดงดาหน้ามากันแบบเยี่ยมๆทั้งนั้นนับเป็นหนังสงครามแนวกลยุทธ์ชิงไหวชิงพริบกันอย่างสุดมันส์แม้จะไม่มีฉากรบแต่สนุกถึงใจจนลุกไปไหนไม่ได้เลย การันตีด้วยรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมรางวัลแดซัง Grand Prize (คิมซองซู),ภาพนตร์ยอดเยี่ยมและนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (ฮวังจองมิน) บนเวที 2024 (60th) BaekSang Arts Awards เพราะหนังมาดีทุกทางจะเป็นความบันเทิงหรือคุณภาพการสร้างแม้กระทั่งการแสดงเยี่ยมๆโดยเฉพาะความบันเทิงที่คือความสนุกที่ถึงใจถึงอารมณ์ของแท้ หรือจะว่านี่คือหนังสงครามก็ใช่เพราะเป็นหนังที่เล่าถึงการรบกับด้วยกลยุทธ์ทางการศึกที่ชิงไหวชิงพริบกันอย่างสุดมันส์ห้ำหั่นกันด้วยเกมกลที่บางทีเกียร์ติก็กินไม่ได้ จึงลุ้นระทึกเร้าใจในทุกนาทีทันทีที่เรื่องจุดติดเมื่อถึงเวลาที่ก็ใช้เวลาเกริ่นไม่นานแล้วหลังจากนั้นก็อัดความมันส์มาเต็มที่ทั้งที่แทบไม่มีฉากรบกันเลยคือมีน้อยมาก แม้ว่าจะออกตัวไว้แล้วว่ามีการเติมแต่งเรื่องราวบนเรื่องจริงบ้างแค่ขอโทษดูไม่ออกเลยคิดว่าเป็นภาพยนตร์ชั้นเยี่ยมที่ดูสนุกดูง่ายมากกว่าดูไปบ่นไปขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2,3,4,5,6,7,8 จาก Instagram plusm_entertainment ถ้าคุณชอบเรื่องนี้ คุณจะชอบเรื่องเหล่านี้ https://entertainment.trueid.net/detail/bm3l3PjXWwLJ https://entertainment.trueid.net/detail/8jxBGyZbPy4r จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !