เคาะรายได้หนัง “Captain America: Brave New World” เบรกไปนาน..ยังไหวอยู่ไหม?
ในปีนี้ จักรวาลหนังมาร์เวล จะใส่เกียร์เดินหน้าสานต่อเส้นเรื่องลำดับต่อไปของพวกเขาอีกครั้ง หลังจากที่พักเบรกเหมือนพักดูโฆษณากันไปยาว ๆ นับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ก็ปาไปราว ๆ 4-5 ปีเลยก็ว่าได้ กลับมาหนนี้ประเดิมด้วย “Captain America: Brave New World” การจุดไฟสตาร์ทครั้งใหม่ของกัปตัน ที่จะมาพร้อมกับกัปตันคนใหม่ที่หน้าคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ทว่าอาถรรพ์หนังฮีโรจะแผลงฤทธิ์ต่อไปหรือไม่?
Captain America: Brave New World จะเป็น 1 ใน 3 ผลงานหนังของมาร์เวลประจำปี 2025 ที่บัดนี้จะโฟกัสที่ตัวละคร แซม วิลสัน ที่ก้าวขึ้นมารับบทบาทเป็น กัปตันอเมริกาคนใหม่ พร้อมกับเปิดตัววายร้ายตนใหม่กับโฉมของฮัลค์แดง ที่หนังเรื่องนี้จะได้ฤกษ์เปิดตัวฉายในช่วงสุดสัปดาห์วันหยุดยาวครั้งต่อไปของอเมริกา นั่นก็คือวันหยุดรำลึกถึงประธานาธิบดีคนแรก หรือ Presidents Day นั่นเอง
เว็บไซต์ BoxofficePro ได้ทำการวิเคราะห์ตัวเลขรายได้เปิดตัวของ Captain America ภาค 4 เรื่องนี้ออกมาแล้ว โดยเชื่อว่าหนังจะสามารถออกสตาร์ท 3 วันแรกปกติได้ที่ราว ๆ 70-85 ล้านเหรียญ และรายได้ 4 วันแรก เมื่อรวมกับวันหยุดยาวต่อเนื่องในวันจันทร์ น่าจะทำเงินไปได้ 80-95 ล้านเหรียญ โดยประมาณ ที่นับว่าตัวเลขคาดการณ์ออกมานั้น ยังต้องรอลุ้นแบบใจตุ๊มต่อมกันต่อไป
สำหรับหนัง Captain America ภาคนี้จะเป็นเรื่องก่อนหน้าก่อนที่จะทำการปิดจักรวาลหนังมาร์เวล เฟสที่ 5 โดยที่มี “Thunderbolts*” เรื่องที่จะฉายเปิดซัมเมอร์นี้เป็นเรื่องสุดท้ายของเฟส แล้วจะเริ่มต้นเปิดเฟสที่ 6 อย่างเป็นทางการใน “The Fantastic Four: First Steps” ในเดือนกรกฎาคมนี้นั่นเอง นี่จึงน่าจะเป็นอีกเสน่ห์ที่แฟน ๆ เดนตายของจักรวาลนี้รอคอยที่จะได้เห็นการเชื่อมต่อระหว่างทั้งสองเฟสที่กำลังจะเกิดขึ้น
ขณะที่ยอดตัวเลขข้อมูลที่มีการประมวลผลหลังจากเปิดขายตั๋วหนังล่วงหน้าไปเมื่อสัปดาห์ก่อน บ่งชี้ได้ว่า Captain America: Brave New World ยังมีโอกาสที่จะเป็นหนังที่จะเปิดตัวแตะระดับร้อยล้านเหรียญเรื่องแรกของปีนี้ได้อยู่ เพียงแต่ทว่าต้องรอลุ้นแรงสนับสนุนจากกระแสคำรีวิวของหนัง และแรงขับเคลื่อนของหนังเรื่องนี้ เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในช่วงยุคนี้ภาวะถดถอยของกลุ่มหนังฮีโร่ก็ค่อนข้างเอาแน่เอานอนไม่ได้เช่นกัน
หากย้อนดูสถิติรายได้ของหนังชุด Captain America ภาคที่ผ่าน ๆ มา ภาคแรกถือว่าเปิดตัวได้น้อยที่สุดที่ 65 ล้านเหรียญ ในปี 2011 ซึ่งแน่นอนว่าตอนนั้นเพิ่งจะเริ่มถูกผนึกให้เป็นจักรวาลหนังมาร์เวลช่วงแรก ๆ อยู่เลย ตามมาด้วยภาคที่ 2 ที่ร้อนแรงขึ้น เปิดตัวที่ 95 ล้านเหรียญ และแน่นอนกับภาคที่ 3 ที่เป็นหนังเส้นเรื่องจุดแตกหักที่สำคัญ เปิดตัวรับซัมเมอร์ตอนนั้นได้กระหึ่มเกือบ 180 ล้านเหรียญ
ดังนั้น Captain America: Brave New World ก็อาจจะมองได้ว่าเป็นการย้อนกลับสู่เบสิคอีกครั้ง เพราะถึงแม้ว่าหนังจะได้ทีมนักแสดงตัวเป้ง ๆ อย่าง แอนโทนี แม็คกี กลับมาอีกครั้ง ร่วมด้วย “แฮร์ริสัน ฟอร์ด”, “จิอันคาร์โล เอสโปซิโต”, “ทิม เบลค นีลสัน” หรือ “ลีฟ ไทเลอร์” แต่ผู้นำของเรื่องได้ถูกเปลี่ยนตัวละครไป ก็อาจจะเป็นจุดที่ทำให้คนดูเกิดความลังเล ราวกับว่าต้องมาเริ่มตั้งต้นใหม่อีกครั้ง
ส่วนมาร์เวลเรื่องอื่น ๆ ที่เคยเปิดตัวระดับ 70-80 ล้านเหรียญ ก็เคยมี “Eternals” (71.2 ล้านเหรียญ), “Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings” (75.8 ล้านเหรียญ) หรือ “Black Widow” (80.3 ล้านเหรียญ) อาจจะเป็นกลุ่มหนังที่ไม่ได้เปรี้ยงปร้างทางด้านรายได้มากนัก แต่ต้องไม่ลืมว่าหนังเรื่องนี้เข้าฉายตั้งแต่ช่วงต้นปี ความร้อนแรงของบ็อกซ์ออฟฟิศยังไม่เทียบเท่ากับช่วงซัมเมอร์ไปจนถึงสิ้นปี
ดังนั้นคงจะต้องมาลุ้นต่อไปว่า Captain America: Brave New World จะเป็นการเรียกคืนศรัทธาให้กับแฟน ๆ หนังฮีโร่ได้อีกครั้งหรือไม่ เพราะถ้าไม่เหมารวมกับ “Deadpool and Wolverine” ที่ปังสุด ๆ เมื่อปีก่อน การวนกลับมาสู่เส้นเรื่องจักรวาลหลักของมาร์เวล ก็แทบจะยังไม่มีหนังเรื่องนี้ทำผลลัพธ์ได้เข้าเกณฑ์ได้เลย นับตั้งแต่โควิดมาสั่นคลอนทุกสิ่งอย่างไป แม้แต่นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญฮอลลีวูด ก็ยังไม่ค่อยมั่นใจว่าหนังจะประสบความสำเร็จได้แบบทศวรรษก่อนเช่นกัน
Captain America: Brave New World มีคิวฉายในเมืองไทยช่วงวันหยุดเช่นกัน ตั้งแต่วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์นี้ ในโรงภาพยนตร์
-------------------------------------
>> ดูหนังออนไลน์ได้ที่ Movie.TrueID <<
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรูไอดีสามารถเข้าไปได้ที่ TrueID Help Center เป็นช่องทางใหม่ที่ให้ข้อมูลและการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นเกี่ยวกับทรูไอดี คลิกเลย >> https://bit.ly/3xEgdAa