สวัสดีจ้าทุกคน...ผู้เขียนจะรีวิวภาพยนตร์อีกแล้ว ซึ่งเคยอ่านรีวิว Misery ของผู้เขียนมาบ้างแล้ว ต้องบอกเลยว่านี่ก็เป็นรีวิวที่ท้าทายความสามารถในการเขียนอย่างมาก โดยปกติผู้เขียนจะรีวิวหนังและซีรีส์ที่ถูกจริต แต่นี่ก็เป็นความท้าทายอีกเรื่องนั่นก็คือ การรีวิวภาพยนตร์เรื่อง The Thing (2011) ที่เป็นแนววิทยาศาสตร์ หรือแนวไซไฟ (Science Fiction : Sci-Fi) The Thing จัดได้ว่าเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้ทำรายได้สูงจนติด Top เหมือนเรื่องอื่นที่คอไซไฟถูกจริต แต่เรื่องการวางโครงเรื่องตัวละคร การเพิ่ม Dialogue ของสัตว์ประหลาด และ CG ต้องยอมรับเลยว่า...ทำให้ระทึก ชวนแหวะได้อีก พอดูจบปุ๊บทานข้าวมื้อถัดไปไม่ได้เลยทีเดียวCredit pic : The Thing (Official Page)แต่ที่ผู้เขียนชอบดูก็คงจะเป็นสกิลความฉลาดของตัวสัตว์ประหลาดนี่แหล่ะ ไม่ได้ตั้งใจดูคนเท่าไหร่ เพราะเหมือนมีนางเอกกับตัวละครเก่าในปี 1982 มาร่วมฉากเป็นตัวแบกเรื่องมากกว่า ส่วนฉากไล่ล่า ฉากกลายพันธุ์ในเรื่องนี่ขอเอ่ยในย่อหน้าถัดไปละกัน จะเห็นได้ว่าเรื่องนี้มีฉายอยู่ 2 เวอร์ชั่น ซึ่งไม่ได้มาปัดฝุ่นใหม่เหมือน Reboot แต่มันมีความกลับไปกลับมาระหว่างปี 1982 กับ 2011 ประมาณว่าปีล่าสุดคือภาคแรกของ The Thing และปี 1982 คือภาคสองของ The Thing อีกที หากดูของปี 2011 จบต้องย้อนไปดูของปี 1982 กันเลยล่ะ เพราะเนื้อเรื่องพามึนงงพอสมควรCredit pic : The Thing (Official Page)ด้วยความที่เป็นสัตว์ประหลาดนอกโลกหรือที่เรียกกันว่า "เอเลี่ยน" มีความฉลาดเป็นกรด นอกจากจะชอบอากาศหนาวเหน็บบนโลกได้แล้ว ยังสามารถกลืนร่างหนึ่งให้เป็นอีกร่างหนึ่งได้ สังเกตได้จากฉากที่ตรวจสอบซากที่เครื่องบินตก และเห็นซากแปลก ๆ ซากหนึ่งจนทำการตัดชิ้นเนื้อ (Biopsy) จนรู้ว่ามีร่างมนุษย์ทับซ้อนในเนื้อเยื่ออีกชั้นหนึ่ง จนรู้เลยว่ามีตัวอะไรก็ไม่รู้กลืนร่างคนนั้น และสามารถกลืนแล้วเป็นร่างต้นเดิมได้ แต่ตัวต้นแบบตายแล้ว นี่คือมีความชวนอาเจียนมากเลยนะ มันคือตัวเอเลี่ยนพันธุ์นรกที่กลืนมนุษย์ชัด ๆ เลยCredit pic : The Thing (Official Page)ตัวนางเอกชื่อว่า "Kate Lloyd" เป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มาสำรวจค้นคว้า จนเจอเรื่องประหลาด แม้กระทั่งต้องมาต่อสู้กับเอเลี่ยนเขมือบคนที่แฝงมาในรูปแบบ "ปรสิต" แล้วต้องมาระแวงกันเองว่าใครเป็นตัวจริง ใครเป็นตัวปลอม แต่สิ่งที่พวกมันกลัวคือไฟ เพราะมันไม่ชอบความร้อน หรือโดนความร้อนมาก ๆ มันก็ตายได้เช่นกันเพราะทนพิษบาดแผล (ไฟไหม้) ไม่ไหว กว่าจะรอดมาได้ก็เสียคนรอบข้างไปเยอะเหมือนกัน จะบอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ไม่พ้นตัวละครในปี 1982 ที่เข้ามาร่วมด้วย เช่น กลุ่มคนที่ถือปืนไฟ และนางเอกช่างสังเกตมาก ตอนจบบอกได้เลยว่ามีความพีคกว่าที่คิดไว้ และค่อนข้างหักมุมบางจุด Credit pic : The Thing (Official Page)ถ้าไม่ดูที่รายได้ของภาพยนตร์ กับคะแนน Rotten Tomatoes เพียง 35% จากนักวิจารณ์ภาพยนตร์ เรื่อง The Thing ปี 2011 ก็เป็นภาพยนตร์ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดอีกเรื่อง ใครเป็นคอไซไฟไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง ในช่วงที่ใครหลายคนอยู่กับเหย้าเฝ้ากับเรือน แนะนำภาพยนตร์เรื่องนี้เลย ซึ่งบอกเลยว่าระทึกมาก และผู้เขียนขอแนะนำอีกอย่างคือ...กรุณาทานข้าวให้ผ่านไป 1 ชั่วโมงก่อนแล้วค่อยมาดู เพราะแต่ละฉากชวนอาเจียน ขนพองสยองเกล้ากว่าฉากในภาพยนตร์ผีมาก ไม่ว่าฉากกลายพันธุ์ ฉากเขมือบคนเลือดสาด หรือฉากปรสิตกลืนมนุษย์ ต้องบอกเลยว่าใครใจแข็งมาดูเรื่องนี้ได้เลย ผู้เขียนเองกว่าจะใจแข็งก็ต้องค่อย ๆ ดูอย่างละเอียด บางทีก็เปราะบางเกินที่จะดู ผู้เขียนคงต้องขอจบบทความรีวิวเพียงเท่านี้ ไปรีวิวบทความอื่นต่อ คงต้องขอกล่าวคำว่า...สวัสดีจ้า :)Credit pic ภาพปก : The Thing (Official Page)