วัดกันฉากต่อฉากใครดีใครแย่ Resident Evil 3 Remake การกลับมาของ Jill Valentineผมอาจจะรีวิวเกมนี้ช้าไปหน่อย เพราะมัวแต่เพลิดเพลินกับการกลับไปดื่มด่ำ Resident Evil 2 Remake แต่ในที่สุดก็พร้อมสำหรับการ รีวิวเกม Resident Evil ภาคล่าสุดกันเสียที สำหรับผู้อ่านที่ไม่คุ้นเคยกับเกมนี้ Resident Evil คือเกม Survival Horror Franchise ชื่อก้องจากค่ายเกม Capcom นั่นเอง ตัวเกมว่าด้วยเหตุการณ์ไวรัสระบาดที่ส่งผลให้ผู้คนในเมืองสมมติในสหรัฐอเมริกาที่มีชื่อว่า Raccoon City ติดเชื้อและกลายเป็นซอมบี้ ถ้าจะเท้าความกันตั้งแต่ภาคแรกแบบเร็วๆ ก็คือ ไวรัสเริ่มแพร่ออกจากสถานีวิจัยลับใต้ดินนอกเมืองบริเวณหุบเขา Arklay ก่อนที่จะแพร่ผ่านหนูในท่อระบายน้ำและกระจายไปในสถานีตำรวจแห่งเมืองแรคคูน (R.P.D.) เป็นสถานที่หลักในภาคที่สอง และกระจายไปทั่วทั้งเมืองในภาคที่สามนี้เอง ต้นฉบับเป็นแบบไหน?ตัวเกมภาคนี้ถูก remake จากเกมในชื่อเดียวกันบนเครื่องเล่น PlayStation ในปี 1999 ซึ่งเรียกได้ว่าโด่งดังมากๆ ในสมัยนั้น โดยตัวเกมต้นฉบับนั้น มีระบบมุมมองการเล่นแบบ กล้องวงจรปิด คือจะเป็นฉากนิ่งๆ แล้วให้เราเดินไปมาผ่านมุมมองต่างๆ ซึ่งความที่ภาพนั้นไม่ชัดนัก ทำให้เราต้องใช้จินตนาการนิดหน่อยในการทำให้มันน่ากลัวและมันก็ได้ผลสำเร็จเสียด้วย เมื่อบวกรวมเข้ากับ เสียงเพลงประกอบ ไม่ว่าจะเป็นดนตรีในฉากต่างๆ ที่ใครที่คุ้นเคยจะต้องบอกว่ามันน่าวังเวงมากๆ โดยเฉพาะเพลงบรรเลงในสถานีตำรวจที่ฟังกี่ครั้งก็ขนพองสยองเกล้าจริงๆRemake หล่ะแตกต่างอย่างไร (ขออนุญาตใส่ สปอยล์ตัวหนาๆ สำหรับคนที่ยังไม่ได้เล่นและไม่อยากเสียอรรถรสในการเล่น) ระบบการเล่นตัวระบบการเล่นแน่นอนหล่ะว่า เปลี่ยนไปตามยุคสมัย ด้วยมุมมองแบบ third person หรือ มุมมองข้ามหัวไหล่ แบบเดียวกับที่เกมในยุคนี้นิยมกัน รวมถึงไตรภาคที่สองของ Franchise ชุดนี้ (ภาค 4 5 6) มุมมองนี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นใช้ทักษะ เล็งยิง ใส่ซอมบี้ที่หัว ลำตัว หรือขา เพื่อหวังผลในรูปแบบต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าความสนุกจากการใช้ทักษะในการประเมินว่า กระสุนที่มีกับการเล็งหัวเพื่อหวังผลให้ติด critical จนซอมบี้หัวแตกเป็นแตงโมแล้วตายในนัดเดียว หรือยิงขาเพื่อให้ขาขาดหรือหยุดไปชั่วขณะเพื่อหนี อันไหนจะคุ้มค่ากว่ากัน นอกจากนี้สิ่งที่ภาคนี้ใส่มาเพิ่มก็คือ ระบบการ dodge ที่เราจะสามารถกดปุ่ม space bar ในจังหวะที่เหมาะสมขณะที่ศัตรูกำลังมุ่งเข้ามาทำร้าย เพื่อหลบหลีกและสวนกลับได้ ซึ่งถือเป็นระบบที่ช่วยให้ผู้เล่นผ่านเกมไปได้ง่ายขึ้นอย่างมาก เมื่อเทียบกับภาคสอง ที่วิธีเดียวที่คุณจะ dodge ได้ คือการ พุ่งเข้าใส่ซอมบี้แล้วหันหลังกลับอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นเทคนิคที่ยากและชวนเสียวไส้กว่ามากๆ ผมเลยให้คำนิยามของเกมภาคนี้ว่าเป็น Action Horror มากกว่าที่จะเป็นแบบ Survival Horror แบบภาคต้นฉบับหรือภาครีเมคภาคสองที่ใช้ระบบเดียวกัน เนื้อเรื่องส่วนนี้น่าจะเป็นส่วนที่แฟนๆ เกมเกิดข้อกังขาในภาคนี้มากที่สุดว่ามันเป็นเกมที่ดีรึเปล่านะ ผมคงจะต้องขอย่อยเป็นข้อๆ ไป เพราะความเปลี่ยนแปลงทางเนื้อหานั้น เยอะมากซะจน บางส่วนผมก็ชอบในความเปลี่ยนแปลง ขณะที่บางส่วนนั้นเป็นสิ่งที่ผมรอคอยแต่กลับไม่มีให้ได้สัมผัส การเปิดเกมที่น่าตื่นเต้น ต้นฉบับนั้นเราจะได้เห็น Jill ตัวละครหลัก พุ่งตัวหนีออกมาจากอพาร์ทเม้นท์ที่กำลังระเบิด และเราก็เริ่มเกมในทันที แต่กับการรีเมคครั้งนี้ ตัวเกมเล่นใหญ่มากด้วยการเริ่มเกมในอพาร์ทเม้นท์ของจิลเอง และพบกับการเผชิญหน้ากับ Nemesis ศัตรูที่เป็นบอสใหญ่ของเกมกันตั้งแต่เปิดเกม โดยเราจะต้องหนีหัวซุกหัวซุนกันตั้งแต่เปิดเกม ซึ่งส่วนนี้ผมให้คะแนนเต็มในการนำเสนอฉากเปิดเรื่องไปเลยการชดเชยความรู้สึกผิดให้ตัวละคร Brad ในช่วงต้นเกมนั้นเราจะได้รับความช่วยเหลือจากตัวละครเพื่อนในกรมตำรวจเดียวกันที่ชื่อ Brad ซึ่งเขาจะยอมสละชีวิตตัวเองเพื่อให้เราหนีออกไปจากบาร์ ซึ่งในภาคต้นฉบับนั้น ตัวละคร Brad กำลังถูกซอมบี้กัดอยู่ในบาร์ และเราจะได้ช่วยเหลือเขา ก่อนที่เขาจะตายด้วยน้ำมือ Nemesis อย่างสยดสยองบริเวณหน้าสถานีตำรวจ ตัวละครตัวนี้ถูกนิยามให้เป็นตัวละครที่ขี้ขลาดตัวหนึ่งในเกม โดยในภาคแรกเขาได้ขับเฮลิคอปเตอร์หนีจิลและกลุ่ม S.T.A.R.S.ไป อันเป็นบ่อเกิดของภาคแรก และในภาคต้นฉบับนี้นั้น นอกจากการหนีซอมบี้ไปมาระหว่างที่เราเดินสำรวจในเมืองแล้ว ก็คือการตายอย่างน่าอนาถเท่านั้นการปรับการเดินทางในสถานีตำรวจ ในภาคต้นฉบับนั้นการเดินทางในสถานีตำรวจถือเป็นไฮไลท์หนึ่งที่สนุกมากกับการได้กลับไปเยี่ยมเยือนสถานที่ในภาค 2 แต่ในภาครีเมคนั้น ส่วนนี้ถูกมอบให้เป็นหน้าที่ของ Carlos ตัวละครนำชายของเกม และเรายังได้พบ Brad ที่มีสภาพเป็นซอมบี้ที่นี่ให้เราได้ยิงเล่นอีกด้วย แถมเรายังได้เจอกับ Marvin ตัวละครในภาคสองที่ถูกซอมบี้กัดบาดเจ็บสาหัสตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งในที่สุดเราก็รู้ว่า ซอมบี้ที่กัดเขาจนทำให้เขาตายในเวลาต่อมาก็คือ Brad นั่นเอง ยังดีที่ฉบับรีเมคไม่ได้ตัดในส่วนนี้ออกไปซะทีเดียว แต่เราก็อดเจอกับฉาก jump scare เด็ดดวงอันหนึ่งที่ Nemesis บุกทะลุหน้าต่างเข้ามาพร้อม ปืนระเบิดในมือไปประตูสู่ City Hall ถูกปิดลง ในช่วงต้นเกมของภาคต้นฉบับเราจะต้องตามหาเพชร 2 เม็ดเพื่อใช้เปิดประตูเข้าไปใน Raccoon City Hall เพื่อไปยังรถไฟที่ใช้ออกนอกเมืองได้ ในภาคนี้เลือกที่จะเปลี่ยน logic แปลกๆ นี้ด้วยการนำเพชร 3 เม็ดมาใส่เพื่อรับ item พิเศษแทน ตรงนี้ผมว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีนะการตามหาอุปกรณ์ซ่อมรถไฟ ถ้ามองย้อนกลับไปในภาคต้นฉบับที่คุณจะต้องตามหา ฟิวส์ น้ำมันเครื่อง สายไฟ เพื่อซ่อมรถไฟทั้งขบวน ออกจะเป็นเรื่องแปลกทีเดียว ซึ่งทางผู้พัฒนาคงเล็งเห็นตรงนี้ และได้เปลี่ยนวิธีการดังกล่าวไปเป็น การเดินไปเปิดไฟของเมือง แล้วเดินไปสับรางรถไฟเพื่อให้รถไฟเดินเครื่องอีกครั้งแทน ตรงนี้ผมถือว่าทำได้ไม่แย่เลยในการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้นจริงๆ แทนที่จะไปไล่ทั่วเมืองเพื่อหาของสองสามอย่างเพื่อหนีจากเมืองนรกนี้ แต่นั่นก็ทำให้ฉาก ระเบิดปั้มน้ำมันและเหตุการณ์ในร้านเภสัชกร ถูกตัดไปDrain Deimos กับความหลอนที่เพิ่มขึ้นเป็นกอง สำหรับภาครีเมค ในการสับสวิตช์ไฟเพื่อทำให้ไฟฟ้าในเมืองทำงานอีกครั้งนั้น เราจำเป็นต้องไปบุกรังของ Monster ตัวนี้ ที่ในภาคต้นฉบับนั้นไม่มีที่มาที่ไป เพียงแค่อาศัยในโรงไฟฟ้าให้เรายิงเล่นเท่านั้น แต่รอบนี้มาเป็นรังที่เราจะต้องวิ่งเข้าไปสับสวิตช์และหนีออกมา แถมความสามารถในการปล่อยปรสิตเข้าร่างของมันก็น่ากลัวไม่หยอกเลย เป็นการพัฒนาศัตรูที่น่ากลัวและใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากๆร้านอาหารและสำนักพิมพ์ที่หายไป ร้านอาหารและสำนักพิมพ์คือหนึ่งในลูกเล่นที่ภาคต้นฉบับสร้าง route เส้นทางสองทางไว้ให้ผู้เล่นเลือกเพื่อดำเนินเรื่อง ในภาครีเมคส่วนนี้ไม่ได้ถูกตัดออกไปซะทีเดียว เรายังได้เห็นร้านอาหารที่แปรสภาพเป็นร้านโดนัทแทน แต่มันไม่ได้มีผลต่อเนื้อเรื่องให้น่าจดจำเหมือนต้นฉบับสักเท่าไหร่การตายของนายทหาร ตัวละครวายร้ายอย่าง Nikolai ของภาคนี้ถูกทำให้น่ากลัวขึ้นด้วยฉากการปะทะกันครั้งแรกที่เปิดด้วยการยิงหัวนายทหารที่บาดเจ็บ ซึ่งในภาคต้นฉบับนั้น Carlos จะต้องเป็นผู้ปลิดชีพนายทหารคนนี้ นับว่าเป็นอีกหนึ่งฉากที่ทำให้เรารับรู้ถึงความร้ายกาจของตัวละครนี้ได้เป็นอย่างดีNemesis และปืนไฟของเขา อันนี้เป็นส่วนเสริมที่เรียกได้ว่าสร้างความสนุกให้เกมมากกับการเผชิญหน้ากับ Nemesis พร้อมปืนไฟ ที่เราจะต้องเอาชนะให้ได้เท่านั้น นอกจากนี้ Nemesis และ ปืนระเบิดของเขา ก็ยังคงอยู่ให้เราได้หลบกันอย่างสนุกสนานอีกด้วย เรียกได้ว่าช่วงต้นเกมที่เป็นการไล่ล่าระหว่าง Nemesis และ Jill นั้น ดีและน่าลุ้นน่าติดตามเป็นอย่างมาก ตอนเล่นนี่ตื่นเต้นมากๆ แต่จุดเสียตรงนี้เลยก็คือ แค่เพียงระเบิดไม่กี่ลูกเราก็สามารถล้มเจ้าตัวยักษ์นี้ได้แล้ว ทำให้การพบเจอหลายๆ ครั้งนั้นไม่ทำให้น่ากลัวเท่ากับต้นฉบับที่เรามีเพียงปืนที่ต้องตัดสินใจและการหนีเท่านั้นที่จะช่วยชีวิตของเราได้การหายตัวไปของหนอนยักษ์ดำดิน ศัตรูที่มีชื่อเสียงอีกตัวของเกมนี้อย่าง หนอนยักษ์หรือ Grave Digger ถูกตัดออกจากเกมไปอย่างน่าเสียดาย แต่มันถูกแทนที่ด้วย Hunter Gamma ศัตรูสุดสยองแห่งท่อระบายน้ำ ที่ถ้าดูลักษณะโดยรวมแล้วก็คล้ายๆ กับเจ้าหนอนยักษ์อยู่ แถมน่ากลัวกว่าด้วยนี่สิ เพราะมันสามารถลากเราไปกินและทำให้ตายได้ในครั้งเดียวที่พลาด ซึ่งจากการหายไปของหนอน ทำให้เราไม่มีโอกาสได้ไปเยือนสุสานของเมืองในเกมนี้ เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ถูกตัดออกไปอย่างน่าเสียดาย และทดแทนด้วยการเดินทางในท่อระบายน้ำแทนนั่นเองไฮไลท์ หอนาฬิกา ส่วนนี้ถูกตัดไปแบบไม่ควรทำอย่างยิ่งเพราะเนื้อเรื่องอันน่าสนใจและการไขปริศนาหลายๆ อย่างเกิดขึ้นที่นี่ในต้นฉบับ สำหรับรีเมคส่วนนี้ถูกย่อให้เหลือเป็นภาพไกลๆ ให้เราได้ชมวิวทิวทัศน์เท่านั้น และการเผชิญหน้ากับ Nemesis ในส่วนนี้ก็ให้อารมณ์ที่แตกต่างกัน ขณะที่ต้นฉบับให้เราได้สู้กับ Nemesis ในร่างสองที่มีหนวดงอกเพิ่มออกมาเท่านั้น ในภาครีเมค Nemesis กลายสภาพเป็นสัตว์ร้ายสี่ขาเต็มตัว แต่การต่อสู้กับมันและเทคนิครวมถึงการใช้ปืนก็สร้างความแตกต่างและน่าสนุกให้การเล่นเป็นอย่างดี แต่พอเนื้อหาในส่วนหอนาฬิกาถูกตัดไป ทำให้เกมสั้นลงอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียวฉากโรงพยาบาล สิ่งที่ภาคต้นฉบับมี Logic ที่แปลกก็คือ ตอนที่ Jill ติดเชื้อและ Carlos จะต้องไปหาวัคซีนมาช่วยนั้น Carlos เลือกที่จะทิ้ง Jill ไว้ในโบสถ์!! แล้วตัวเองไปหายารักษาในโรงพยาบาล!! Logic นี้ถูกแก้ไขแล้วด้วยการให้ Jill ได้พักฟื้นในโรงพยาบาลพร้อมกับที่ Carlos มีภารกิจในการช่วยเหลือหมอผู้มีวัคซีน นอกจากนี้ยังมีการไถ่บาปให้ตัวละครอีกหนึ่งตัวนั่นคือ Tyrell ที่ในภาคต้นฉบับ เขาถูกหลอกให้เปิดเซฟและระเบิดตายหรือถูกยิงตายด้วยฝีมือของ Nikolai ในภาครีเมคนี้ถูกแก้ไขให้เป็นผู้ช่วยที่ดีของ Carlos ไป อีกอย่างคือ ในภาคต้นฉบับนั้น Nikolai จะทำการระเบิดโรงพยาบาลทิ้งเพื่อกลบหลักฐาน แต่ในฉบับรีเมค การระเบิดโรงพยาบาลเป็นหน้าที่ของ Carlos ที่ทำไปเพื่อปิดทางเข้าดักไม่ให้ซอมบี้เข้ามาในโรงพยาบาลแทน เป็นการเปลี่ยนการเล่นใหญ่ให้มีประสิทธิภาพอีกอย่างของเกมHunter Beta ที่มีลูกเล่น ต้นฉบับ Hunter Beta ก็คือ Hunter มันทำได้ทุกอย่างเหมือน Hunter ปกติ เพียงแต่มีรูปร่างเหมือนกบ เมื่อการรีเมคสามารถใส่รายละเอียดได้มากขึ้น นั่นทำให้มันกลายเป็น Hunter เวอร์ชั่นที่อัพเกรดขึ้นด้วย โดยมันจะมีเกราะบนหัวที่เราจะต้องยิงให้แตกถึงจะสามารถทำให้มันตายได้ ความว่องไวและกรงเล็บที่ฆ่าเราตายได้ในครั้งเดียวยังคงอยู่และมันทำให้เราฆ่ามันได้อย่างยากลำบากเอามากๆฐานวิจัยลับย้ายที่ ในภาคต้นฉบับเราจะต้องเดินทางไปยังฐานวิจัยลับที่ตั้งตระหง่านอยู่ใกล้ๆ โรงพยาบาล ซึ่งต้องผ่านทั้งสวน บึง และสุสาน แบบครบครัน พร้อมกับการเผชิญหน้าหนอนยักษ์ ในภาครีเมค จัดการให้ฐานลับไปอยู่ใต้ดินของโรงพยาบาลให้เรียบร้อยเลย แล้วค่อยเพิ่มปริศนาในฐานลับเพิ่มแทน เราจะพลาดการเผชิญหน้ากับ Nemesis ครั้งสุดท้ายบนสะพานไป เพราะการย้ายฐานลับในครั้งนี้การต่อสู้อันเร้าใจในห้องกำจัดขยะ ทั้งสองเวอร์ชั่นมีในส่วนนี้ แม้ว่าจะแตกต่างกันตรงที่ ต้นฉบับออกจะน่าขยะแขยงกว่า แต่ห้องกำจัดขยะที่จะทำการปล่อยกรดมาทำลายทุกอย่างในห้องนั้นยังคงอยู่ เราจะได้เผชิญหน้ากับ Nemesis อีกครั้งในห้องนี้ โดยเวอร์ชั่นต้นฉบับจะเป็นการต่อสู้กับร่างแส้ที่จัดการง่ายๆ ด้วยการล่อไปชนกรดที่จะทำให้แส้บางส่วนในร่างหลุดล่อนไป สะใจคนเล่นยิ่งนัก ส่วนเวอร์ชั่นรีเมค เราจะได้เผชิญกับ Nemesis ในร่างสัตว์ร้ายสี่ขาที่ใช้ลูกเล่นเดียวกับตอนสู้ที่หอนาฬิกาในการจัดการ แต่ส่วนที่ตัดออกไปก็คือ ความตายของ Nikolai ที่เขาจะต้องตายอย่างสยดสยองด้วยฝีมือ Nemesis ที่หน้าทางเข้าห้องกำจัดขยะความตายอีกรูปแบบของ Nikolai หากคุณเลือกทางเลือกที่แตกต่างไปในเกมภาคต้นฉบับ คุณจะได้พบกับการตายของ Nikolai ที่สะใจกว่า นั่นคือ คุณสามารถใช้ Rocket Launcher ยิงโป้งใส่เฮลิคอปเตอร์ที่ Nikolai กำลังพยายามยิงคุณอยู่ให้ระเบิดตูมได้ ซึ่งแน่นอนว่า รีเมคตัดส่วนนี้ออกไปอย่างสิ้นเชิง ไม่มีโอกาสที่คุณจะได้ทำแบบนี้อีกการเผชิญหน้ากับ Nemesis ร่างสุดท้าย ภาคต้นฉบับเราจะได้ใช้ปืนความแรงสูงในการจัดการโดยจะต้องดันแท่นพลังงาน 3 แท่นให้เข้าที่เพื่อใช้งานปืน ซึ่งในภาครีเมคก็ทำแบบเดียวกัน ที่แตกต่างคือ ความใหญ่โตมโหฬารของบอสในภาครีเมคที่ดูมั่วๆ ไปหน่อย แถมท้ายๆ ก็เหมือน alien ซะไม่มี ขณะที่ก็ต้องยอมรับว่า บอสในภาคต้นฉบับก็ไม่ค่อยเป็นรูปเป็นร่างเท่าไหร่อยู่เหมือนกัน ส่วนนี้ผมเลยให้บอสภาครีเมคที่มีลูกเล่นในการสู้ยากกว่าชนะไป ในตอนสุดท้ายก่อนบอสตาย มีฉากสะใจสุดท้ายที่ต่างกันด้วย นั่นคือ ในภาคต้นฉบับ เราจะยิงบอสให้ตายคาที่ด้วยปืน Magnum ขณะที่รีเมค เอาปืนใหญ่ยัดปากแล้วยิงเละเป็นโจ๊ก !!ฉากจบกับการเผชิญหน้ากับ Nikolai ต้นฉบับมีสองทางคือ Carlos มารับด้วยเฮลิคอปเตอร์ หรือไม่ก็ตัวละคร Barry จากภาคแรกมาช่วย สำหรับรีเมคมีการเพิ่มดราม่าให้มี Nikolai พยายามหนีขึ้นเฮลิคอปเตอร์และทิ้งเราให้ตาย แต่จะกลับกัน เราจะหนีออกไปได้พร้อมเฮลิคอปเตอร์และทิ้ง Nikolai ไว้บนตึกรอคอยให้ระเบิดนิวเคลียร์ลงมาทำลายเมืองจนราบคาบแทน นี่ก็คือการเปรียบเทียบเกมต้นฉบับกับภาครีเมคที่ผมสังเกตได้ในฐานะแฟนเดนตายของเกมนี้ อย่างไรก็ตามภาพรวมเกมนี้สนุกมาก แต่ระยะการเล่นนั้นสั้นมาก ผมใช้เวลารวมทั้งหมด 36 ชั่วโมงในการตามเก็บ Achievement ทั้งหมดในเกมซึ่งถือว่าสั้นมาก เมื่อเทียบกับ Remake ภาค 2 ที่ปัจจุบันใช้เวลาไปแล้วกว่า 67 ชั่วโมงในการเล่น แต่ก็ยังเก็บไม่ครบ ด้วยราคาแล้วก็ยังถือว่าไม่คุ้มค่าเท่าไหร่ (1,809 บาท) แม้จะแถมเกมออนไลน์แนว Dead by Daylight อย่าง Resident Evil Resistance มาด้วยก็ตาม เมื่อเทียบกับภาคสองที่ตอนนี้ราคาลงไปเหลือ 799 บาทแล้ว ถือว่าสั้นไปมาก แต่ในฐานะแฟนเกม ก็คุ้มค่าแล้วที่ได้เห็นตัวละครจากรูปแบบเหลี่ยมๆ กลายมาเป็นแอนิเมชั่นภาพสวย เป็นอีกเกมหนึ่งที่สาวก Resident Evil ห้ามพลาดเด็ดขาด แต่ถ้าจะให้คุ้มก็รอมันลดราคาลงสักหน่อยละกันเนอะ ฮ่าๆ เครดิตรูปภาพจากเกม มาจาก Screenshot โดยผู้เขียนภาพบางส่วนจาก Resident Evil