ในยุคที่ทั้งโลกต้องอยู่นิ่งๆ เพราะโรคโควิด - 19 แบบนี้ ถ้าใครกำลังเบื่อกำลังเครียดจนต้องหาซีรีส์เกาหลีมาดู แต่จะดูเรื่องอะไรก็ยังคิดไม่ได้ หรือยังไม่มีซีรีส์ที่ถูกใจ ดูบางเรื่องไปแล้วยิ่งเครียดกว่าเดิมเหมือนกับตัวผู้เขียนแล้วล่ะก็… ขอให้ทุกคนลองพิจารณาเปิดใจกับซีรีส์เกาหลี 6 เรื่องต่อไปนี้ที่ผู้เขียนจะแนะนำให้คอซีรีส์ที่ชอบซีรีส์แนว Feel good ได้ลองไปหาดูกัน แต่ผู้เขียนขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะคะว่าซีรีส์ที่จะแนะนำต่อไปนี้ เป็น Feel good ที่แปลว่ารู้สึกดี ไม่ใช่แนวคอมเมดี้ตลกเอาฮานะคะ และไม่เน้นเรตติ้งด้วยนะ แค่ผู้เขียนชอบและอยากบอกต่อแค่นั้นเอง ผู้เขียนจะเน้นซีรีส์ที่ดำเนินเรื่องแบบค่อยๆเป็นค่อยๆไป เมโลดราม่าแรกๆบ้างแต่ไม่ถึงกับดราม่าหนัก พอดูไปเรื่อยๆเราจะรู้สึกดีรู้สึกซึ้งไปกับตัวละครหลักจนทำให้ทั้งยิ้มและเสียน้ำตาไปพร้อมๆกัน และส่วนสำคัญที่ทำให้ซีรีส์แต่ละเรื่อง Feel good ขึ้นไปอีก ก็คงเป็นดนตรี เพลงประกอบ พร้อมภาพและวิวในเรื่อง ที่มันทำให้ซีรีส์แต่ละเรื่องน่าดูเพิ่มขึ้น ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็ค่อนข้างประทับใจกับทุกเพลงทุกฉากในทุกตอนของแต่ละเรื่องมากเลยทีเดียว 1.She Would Never Know (ยังไม่จบ) เรื่องนี้เป็นเรื่องแนวพนักงานออฟฟิศ เล่าเรื่องราวความรักของรุ่นน้องพนักงานใหม่ที่แอบชอบรุ่นพี่ในทีมที่ดูแลเขามาตลอด เรื่องนี้ผู้เขียนเข้าไปดูเพราะพระเอก แต่ตอนนี้อยากให้ซีรีส์ฉายทุกวันเลย เพราะเนื้อเรื่องมันดีมาก มันไม่ปุบปับรับรักเลย แต่มันค่อยๆแสดงให้เห็นว่าความรักมันมีทั้งด้านดีและด้านเสีย คนที่เคยเจอด้านที่ไม่ดีมันก็ต้องใช้เวลาเพื่อทำความเข้าใจว่าแบบไหนคือความรักจริงๆ แต่แบบไหนนั้นผู้เขียนก็ยังไม่รู้เหมือนกันเพราะซีรีส์มันยังไม่จบเลย ไปดูพร้อมๆกันนี่แหละ 2.Run On เรื่องนี้เพิ่งจบไปเมื่อไม่นานนี้เอง เป็นเรื่องราวของความรักของนักกรีฑาหนุ่มกับนักแปลสาว คนสองคนที่อยู่คนละโลก คุยกันคนละเรื่อง สถานะที่แตกต่างแบบที่ไม่น่ามาเจอกันได้ แต่ก็ดันจูนกันเข้าซะงั้น เรื่องนี้ดูทีเซอร์แล้วถูกใจภาพในซีรีส์มากเลยตามดู อยากบอกว่าเรื่องนี้ผู้เขียนยกให้เป็นซีรีส์ Feel good ที่ดีที่สุดเลย เพราะแม้จะมีดราม่าเรื่องครอบครัวบ้าง แต่ในเรื่องความรักมันน่ารักมาก เนื้อเรื่องยิ่งดีแบบดีมาก ใครที่อยากได้กำลังใจแนะนำให้ดูเรื่องนี้เลย แล้วคุณจะสู้ไม่ถอย แต่ใครไม่มีคู่นี่อาจจะมีนอยด์บ้างนะ ไม่ใช่ซีรีส์แนวโรแมนติกฟินๆก็จริง แต่เพราะการมีคนคอยอยู่เคียงข้างมันย่อมดีกว่าการต้องอยู่ตัวคนเดียวเสมอ 3. A piece of your mind เป็นเรื่องราวความรักข้างเดียวของโปรแกรมเมอร์หนุ่มเชี่ยวชาญด้าน AI ที่มีสาววิศวกรด้านการบันทึกเสียงดนตรีคลาสสิคเข้ามาพัวพัน เรื่องนี้จบไปเมื่อปีที่แล้ว แต่ผู้เขียนก็ยังดูวนรอซีรีส์ที่ดีเท่าเรื่องนี้มาฉายอยู่ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียนดูบ่อยมาก ตอนดูครั้งแรกผู้เขียนเสียใจมากที่เรตติ้งไม่ดีแถมผู้กำกับยังตัดตอนจบให้เหลือน้อยลงอีกด้วย สำหรับผู้เขียนแล้วเรื่องนี้สร้างความประทับใจไว้เยอะมากเพลงประกอบทำนองช้าๆพร้อมเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปเรื่อยๆมันดีมากจนผู้เขียนน้ำตาไหลตามเกือบทุกตอน แต่ขอเตือนไว้เลยว่าเพราะมันซึ้งมากดั้งนั้นฉากหัวเราะแทบไม่มีเลยนะในเรื่องนี้ มีแค่ฉากฟินๆเบาๆน่ารักๆที่จะทำให้คนดูยิ้มตามเท่านั้นเอง ลองเปิดใจไปตามดูกันนะอยากให้ทุกคนดูเรื่องนี้จริงๆ 4.When the weather is fine เรื่องนี้เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกอบอุ่นหัวใจที่เล่าเรื่องราวของหญิงสาวผู้เหนื่อยหน่ายกับการใช้ชีวิตในกรุงโซล จึงย้ายกลับมาบ้านเกิดของตัวเอง แถมเธอยังได้เจอกับอดีตเพื่อนร่วมชั้นหนุ่มหล่อที่ยังคงทำงานอยู่ในบ้านเกิดตัวเองไม่ย้ายไปไหนอีกด้วย เรื่องนี้จบพร้อมๆกับเรื่องข้างบนเลย ช่วงนั้นซีรีส์แนวเบาสมองและเน้นภาพวิวในฉากสวยๆฉายเยอะมาก รวมถึงเรื่องนี้ถ้าพูดถึงฉากสวยๆต้องยกให้เรื่องนี้เลยเพราะตามเนื้อเรื่องจุดเริ่มต้นของทุกตัวละครคือบ้านเกิดที่อยู่นอกตัวเมืองหลวง ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีกลิ่นอายธรรมชาติค่อนข้างเยอะ วิวสวยๆในเรื่องก็เยอะมากเช่นกัน เป็นเรื่องที่แทบไม่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ใครที่ชอบ Feel ใช้ชีวิตเรียบง่ายต้องเรื่องนี้เลย ความธรรมชาติของตัวเอกจะทำให้คุณตกหลุมรักตัวละครนำแน่นอน แอบกระซิบว่าเรื่องนี้ช่วงหลังมีดราม่าปนบ้าง แต่ความฟินก็มีเยอะมากเหมือนกัน คุ้มค่ากับอารมณ์ที่พุ่งสูงก่อนจะกรี๊ดว่าฟินมากแน่นอน 5.Find Me in Your Memory เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคนสองคน คือผู้ประกาศข่าวหนุ่มที่เป็นโรค Hyperthymesia ที่สามารถจดจำสิ่งต่างๆได้มากกว่าคนทั่วไป และนักแสดงสาวที่เป็นโรคความจำสั้น แต่เพราะความทรงจำบางอย่างจึงทำให้เขาทั้งสองได้มารู้จักกัน เรื่องนี้จบไปนานพอสมควร ไม่ค่อยมีใครพูดถึงเท่าไรนัก ส่วนตัวผู้เขียนก็หาเจอเพราะตามผลงานของตัวนักแสดงนำฝ่ายหญิงอยู่ แต่พอได้ดูก็ติดกับตกหลุมรักไปเป็นที่เรียบร้อย เนื้อเรื่องที่ดูไม่ซับซ้อนแต่กลับมีอะไรซ่อนอยู่ทำให้เรื่องนี้น่าติดตามมากขึ้น ส่วนความ Feel good ก็คงเป็นความกวนแบบน่ารักๆของคู่นักแสดงสาวกับเมเนเจอร์เพื่อนรู้ใจของเธอที่เล่นเอายิ้มตามทุกฉาก บวกกับรายละเอียดคำพูดที่กินใจในหลายๆฉากของตัวละครมันน่าประทับใจมากสำหรับผู้เขียน ผู้เขียนจึงแนะนำเรื่องนี้ให้ไปดูกัน 6.Your House Helper เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของพนักงานหนุ่มที่รับทำความสะอาดบ้าน เขาเป็นพนักงานที่ไม่ได้แค่ทำความสะอาดบ้านเท่านั้นแต่ในบางครั้งเขายังช่วยทำความสะอาดจิตใจความรู้สึกของคนที่จ้างเขามาด้วย หนึ่งในนั้นก็รวมไปถึงสาวน้อยพนักงานฝึกหัดในออฟฟิศที่ทำงานอย่างหนักเพื่อหวังจะได้บรรจุเป็นพนักงานประจำด้วย มาที่เรื่องสุดท้าย เรื่องที่ไม่ได้เน้นแค่ความรักของตัวเอก แต่กลับดำเนินเรื่องถึงความสัมพันธ์ที่น่าจดจำของคนรอบตัวตัวเอกอีกด้วย นี่แหละคือจุดขายของเรื่องนี้ แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีอะไรซับซ้อนมากมาย แถมดำเนินเรื่องอย่างตรงไปตรงมา แต่ความรู้สึกของผู้เขียนที่นั่งดูกลับไม่คิดจะเลื่อนผ่านฉากไหนเลย มันดูได้เพลินมาก แทบไม่มีเนื้อหาให้เครียดเลย แต่ก็ไม่ใช่ซีรีส์แนวคอมเมดี้นะ มันเป็นเรื่องราวเบาสมองมากกว่า ใครที่ตามหาซีรีส์ในช่วงวัยทำงานที่ไม่เครียดมากอยากแนะนำให้ดูเรื่องนี้เลยขอบคุณภาพจาก JTBC Official She Would Never Know / Run On / When the weather is fineขอบคุณภาพจาก tvn Official A piece of your mind ขอบคุณภาพจาก mbc Official Find Me in Your Memory และขอบคุณภาพจาก KBS Official Your House Helperเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !