"Mulan" พลิกทำเงินทั่วโลกได้มากกว่า "Tenet" จากรายงานอย่างไม่เป็นทางการ
ข่าวสารวงการหนัง
ถึงแม้ว่า "Mulan" จะไม่ได้มีโอกาสเข้าฉายตามโรงหนังทั่วโลก แต่จากข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการล่าสุดก็พบว่า หนังสามารถเก็บเงินได้มากกว่า "Tenet" หนังแอคชั่นฟอร์มใหญ่ของวอร์เนอร์ บราเธอร์ส ที่เข้าฉายไปก่อนหน้านั้น โดยได้เปรียบจากการออกฉายในรูปแบบออนไลน์สตรีมมิ่งที่เข้าถึงกลุ่มคนดูมากกว่า แม้ว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการตีตั๋วเข้าไปดูหนังที่โรงหนัง
เว็บไซต์ Yahoo! Finance ได้เปิดเผยข้อมูลตัวเลขจากวิเคราะห์ของ 7Park Data ที่ทำการสำรวจฟีดแบกหนังใหม่ของวอลต์ ดิสนีย์ อย่าง Mulan ที่ได้ทำการฉายผ่านบริการ Disney+ แม้ว่าทางดิสนีย์จะยังไม่ได้เปิดเผยข้อมูลตัวเลขที่แท้จริงออกมา แต่ปรากฏว่าการเปิดตัวฉายของ Mulan ในรูปแบบออนไลน์ถือว่าประสบความสำเร็จไปด้วยดี จากจำนวนผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 60 ล้านยูเซอร์ทั่วโลก
จากข้อมูลพบว่าในสหรัฐอเมริกามียอดผู้เข้าชมหนัง Mulan ที่เสียค่าใช้จ่ายเรื่องละ 29.99 เหรียญ ที่ราวๆ 50 เปอร์เซนต์ หมายความว่ามียอดคนดูไม่ต่ำกว่า 9 ล้านยูเซอร์ที่ทำการซื้อหนังเรื่องนี้เพียงดู และเมื่อทำการอัปเดตยอดรายได้ล่าสุด (ถึงวันที่ 12 กันยายน) พบว่า Mulan ทำรายได้รวมทั่วโลกไปได้มากกว่า 261 ล้านเหรียญ ทั้งในรูปแบบออนไลน์และฉายตามโรงภาพยนตร์ จากการฉายได้เกือบ 2 สัปดาห์
อย่างไรก็ตาม ตัวเลขรายได้ดังกล่าวถือว่ามากกว่า Tenet หนังของ "คริสโตเฟอร์ โนแลน" ที่ล่าสุดทำเงินทั่วโลกไปได้มากกว่า 207 ล้านเหรียญ หลังจากที่เข้าฉายไปได้ 3 สัปดาห์ ถึงแม้ว่า Mulan จะต้องเผชิญหน้ากับประเด็นดราม่าต่างๆ นานา โดยเฉพาะในตลาดหนังเมืองจีนที่หนังหวังจะประสบความสำเร็จให้ได้ แต่กลับได้ผลลัพธ์ตรงกันข้าม หลังเปิดตัวกับรายได้ที่ผิดคาด
ทั้งนี้ ตัวเลขดังกล่าวยังเป็นข้อมูลจากวิเคราะห์ของบริษัทเอกชน ทางดิสนีย์ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงเกี่ยวกับข้อมูลดังกล่าว รวมทั้งยังไม่ได้เปิดเผยรายได้ที่แท้จริงของหนังออกมา แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาของหนังทั้ง 2 เรื่องนี้ ก็ทำให้บรรดาสตูดิโอหนังใหญ่ๆ ต่างตื่นตัว เพราะต่างก็เจอผลกระทบด้านรายได้จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังทำให้หนังเก็บเงินได้ไม่เข้าเป้า ทำให้ต้องปรับแผนโปรแกรมฉายหนังไปชุดใหญ่ และหลายเรื่องต้องเลื่อนไปอยู่ปี 2021
--------------------------------------------------