รีวิว Unforgettable Love รักนี้ไม่ลืมเลือน (2021) ซีรีส์ที่มีความหวานละมุน ชวนอบอุ่นหัวใจ อย่างที่เข้าใจกันว่าสถาณการณ์โควิดในบ้านเรายังไม่ดีขึ้น ในช่วงที่กักตัวแบบนี้ ทำให้หลายคนมีความเครียดสะสม การหาซีรีส์หรือหนังสักเรื่องดูคลายเครียดย่อมเป็นทางเลือกที่ดี วันนี้เราขอแนะนำซีรีส์เบาๆ สบายๆ สักเรื่องเพื่อให้คุณเก็บไว้พิจารณา อย่างซีรีส์จีนรักนี้ไม่ลืมเลือน (Unforgettable Love) ที่กำลังออนแอร์ทาง MG TV และ iQIYI อยู่ในตอนนี้รายละเอียดซีรีส์- ชื่อจีน : 贺先生的恋恋不忘- ชื่ออื่นๆ : Unforgettable Love, รักนี้ไม่ลืมเลือน- ประเภท : โรแมนติก, ดราม่า, คอมเมดี้- จำนวนตอน : 25 ตอน (กำลังออนแอร์)- ออกอากาศวัน : เสาร์-อาทิตย์- ผู้กำกับ : Li Yu Lei- นักแสดงนำ : เว่ยเจ๋อหมิง, หูอี้เสวียน รักนี้ไม่ลืมเลือน (Unforgettable Love) เป็นซีรีส์ที่ดูง่าย สบายๆไม่เคร่งเครียด เนื้อหาผ่อนคลายสมอง ที่มีทั้งความน่ารัก ความฟิน ดราม่าพอประมาณให้มีอะไรน่าสนใจ ดูแล้วครบรสจบในเรื่องเดียว เนื้อหาเล่าเรื่องราวของฉินอวี่เยว่ นักจิตวิทยาเด็ก กับเฮ่อเฉียวเยี่ยน CEO หนุ่มมาดเนี้ยบ ผู้บริหารเฮ่อกรุ๊ป เขาเป็นจอมเผด็จการที่มีความเป๊ะทุกระเบียบนิ้ว มาพร้อมกับลูกชายตัวน้อยแสนน่ารัก ที่ทั้งแสบซนแก่นเซี้ยวที่สุดนักแสดงนำ เฮ่อเฉียวเยี่ยน (รับบทโดย เว่ยเจ๋อหมิง) CEO ของเฮ่อกรุ๊ป เขามีความเป็นอัจฉริยะ ชอบการคำนวณและพิสูจน์หาคำตอบด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล มีความเป๊ะตั้งแต่หัวจรดเท้า เขามีลูกชายตัวน้อยที่เป็นดั่งแก้วตาดวงใจ เพื่อลูกชายแล้วเขายอมทุ่มเงินมากมายมหาศาลเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ฉินอี่เยว่ (รับบทโดย หูอี้เสวียน) นักจิตวิทยาเด็กของโรงพยาบาลหย่าเต๋อ เธอเป็นคนจิตใจดีงาม มุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนอย่างตั้งใจ อุดมการณ์แน่วแน่ เป็นคนไม่นิ่งเฉยกับความเดือดร้อนของผู้อื่น หากเห็นว่ามีคนกำลังตกอยู่อันตราย เธอพร้อมจะช่วยเหลือโดยไม่เกรงกลัวสิ่งใด แต่ก็ไม่ได้จิตใจดีจนมองว่าน่ารำคาญ ช่วยเหลือไปหมดทุกคน เฮ่อเหวยเฟย หรือเสี่ยวเป่า (รับบทโดย ซุนซื่อเฉิง) คุณชายน้อยเฮ่อ ลูกชายเพียงคนเดียวของเฮ่อเฉียวเยี่ยน CEO ของเฮ่อกรุ๊ป น้องได้รับความกระทบกระเทือนทางจิตใจตั้งแต่เด็ก ทำให้เสี่ยวเป่าไม่พูด และต้องไปหาจิตแพทย์เด็กอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่มีใครสามารถทนความแสบซนของเจ้าตัวได้นาน มากสุดแค่ประมาณ 10 วัน จนมาเจอกับฉินอวี่เยว่ เสี่ยวเป่าชอบฉินอวี่เยว่มาก และอยากได้เป็นหม่ามี๊ เพราะงั้นคุณพ่อลูกหนึ่งอย่างเฮ่อเฉียวเยี่ยนจึงต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกชายได้ในสิ่งที่ต้องการ เริ่มต้นเรื่องราวด้วยการที่ฉินอวี่เยว่รู้ว่าแฟนเก่าที่เพิ่งเลิกลาไปได้รับรางวัลวิทยานิพนธ์ ที่เธอต้องอดหลับอดนอนเขียนมันขึ้นมาเป็นส่วนใหญ่ ด้วยความที่พวกเขาจบกันไม่ดี ฉินอวี่เยว่จึงไม่มีทางยอมให้อีกคนได้รับรางวัลไป ในวันนั้นเธอดื่มจนเมาและบุกเข้าไปในงานมอบรางวัลที่มีเฮ่อเฉียวเยี่ยนเป็นประธาน บังเอิญได้เจอกับเสี่ยวเป่าที่หนีปะป๊ามา กำลังถูกพนักงานวิ่งไล่ เพราะดันไปทำป้ายภาพของเฮ่อเฉียวเยี่ยนล้ม ระหว่างทางมีรถเข็นวิ่งมาจนเกือบชนเสี่ยวเป่า ฉินอวี่เยว่ที่เห็นพอดีจึงเข้าไปช่วยไว้ ด้วยความน่ารักและจิตใจดีของฉินอวี่เยว่ ทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่เสี่ยวเป่ามีปฏิกิริยากับคนแปลกหน้า เธอจึงได้มอบตุ๊กตาฟักทองและผ้าเช็ดหน้าเป็นของขวัญให้เสี่ยวเป่าที่เป็นเด็กดียอมคืนป้ายภาพคืนให้กับพนักงาน เมื่อจากกันเหล้าที่ดื่มไปเริ่มออกฤทธิ์ ทำให้ฉินอวี่เยว่เมาจนเบลอเห็นเฮ่อเฉียวเยี่ยนเป็นแฟนเก่าของเธอ เธอเข้าไปทุบตีเขาอย่างแรง รวมทั้งด่าทอและพูดเรื่องของวิทยานิพนธ์ให้อีกฝ่ายฟังจนหมด โดยที่ไม่รู้เลยว่านั่นไม่ใช่แฟนเก่าของเธอ แต่เป็นประธานของเฮ่อกรุ๊ปผู้ที่จะมอบรางวัลในวันนี้ ผ่านไปสักพักฉินอวี่เยว่เริ่มได้สติ เมื่อพบว่าคนที่เธอกำลังกล่าวหาไม่ใช่แฟนเก่า เธอถึงได้ขอโทษเขา แต่โชคร้ายที่ผมของเธอดันไปติดกับเข็มกลัดบนเนคไทของเฮ่อเฉียวเยี่ยน ทำให้ท่าทางของทั้งคู่นั้นสื่อไปทางล่อแหลม และเหตุการณ์ทั้งหมดก็ถูกถ่ายทอดผ่านไลฟ์สด จนทำให้เป็นข่าวดังในเวลาต่อมา ผ่านเหตุการณ์บังเอิญเจอกันของพวกเขาทั้งสามคน ถึงเวลาที่ต้องเลือกนักจิตวิทยาเด็กของเสี่ยวเป่าคนใหม่ มีประวัติของฉินอวี่เยว่รวมอยู่ด้วย และเฮ่อเฉียวเยี่ยนก็ตัดเธอทิ้งอย่างรวดเร็ว เขาได้เลือกหมออีกคน แต่เมื่อเสี่ยวเป่าได้รับการรักษากลับพบว่าเขาไม่ชอบและกรีดร้อง ฉินอวี่เยว่ที่บังเอิญผ่านมา จึงได้เข้าไปช่วยไว้ทำให้เสี่ยวเป่าสงบ เมื่อเวลาผ่านไปจนต้องกลับบ้าน เสี่ยวเป่าจึงขอให้เฮ่อเฉียวเยี่ยนจ้างฉินอวี่เยว่มาเป็นคุณหมอประจำตัวของตน งานนี้จึงทำให้คุณพ่อคิดหนัก เพราะเขาไม่อยากเลือกเธอเลย แต่ก็แพ้ให้กับการประท้วงของลูกชาย จนต้องหาหนทางมากมายเพื่อนำตัวฉินอวี่เยว่มาให้ได้ โดยมีเวินกู้ คุณชายเวินกรุ๊ปผู้เป็นเพื่อนสนิทและเสี่ยวเป่าคอยช่วยเหลือ ระหว่างการดำเนินการให้ฉินอวี่เยว่มาเป็นหมอประจำตัว (หรือหม่ามี๊) ของของลูกชาย บังเอิญเขาได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวในความสัมพันธ์อันยุ่งเหยิงของฉินอวี่เยว่ จนต้องแสดงละครฉากใหญ่ อย่างการขอฉินอวี่เยว่แต่งงานในงานเลี้ยงตึกใหม่ของโรงพยาบาลที่เขาเป็นคนมอบเงินบริจาค โดยแลกกับการที่ฉินอวี่เย่มาเป็นหม่ามี๊ช่วยดูแลเสี่ยวเป่า จนทำให้เรื่องราวของทั้งสองโด่งดังมากในโลกโซเชียล และด้วยเหตุนี้ทำให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาเริ่มขึ้นมาแบบไม่ทันตั้งตัว มาร่วมลุ้นเพื่อให้ความรักปลอมๆของทั้งคู่กลายเป็นความรักจริงๆได้ในซีรีส์รักนี้ไม่ลืมเลือน มีซับไทยทาง iQIYI ค่ะ ตัวอย่างซีรีส์ EP 1 ความรู้สึกหลังดู หากจะมองที่เนื้อหาของเรื่อง ต้องบอกว่าไม่ได้หวือหวาหรือมีความแปลกใหม่ ซีรีส์แนวนี้สามรถเห็นกันอยู่หลายเรื่อง สามารถเดาทางการดำเนินของเรื่องต่อไปได้ มีปมพอให้เนื้อหาไม่ดูน่าเบื่อเกินไปและมีอะไรให้ลุ้นอยู่บ้าง ทำให้เนื้อเรื่องครบรสไม่ได้มีเพียงด้านสุขอย่างเดียวแต่มีด้านเศร้าและปัญหาสอดแทรกเข้ามาด้วย ความพิเศษของเรื่องคงเป็นการสะท้อนความสัมพันธ์ที่หลากหลายมากขึ้น ไม่เฉพาะแค่ความสัมพันธ์ของพระเอกและนางเอกเท่านั้น แต่ยังมีความสัมพันธ์ระหว่างนางเอกและลูกชายของพระเอก มิตรภาพของเพื่อนสนิท การแก้ไขปัญหาของตัวละคร อย่างนางเอกคือถึงแม้จะสื่อว่าเป็นคนจิตใจดี อ่อนโยน แต่เธอก็มีการตัดสินใจอย่างเด็ดขาด ไม่ร้องไห้ฟูมฟายที่แฟนนอกใจ และไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาที่ตนเผชิญ กล้าหาญทำในสิ่งที่ตนคิดว่าถูกต้อง เป็นแนวทางของผู้หญิงยุคใหม่เลยทีเดียว 'อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ' ส่วนพระเอกเมื่อเรามองภายนอก หลายคนก็คงจะอิจฉาในวาสนาของเขา เพราะช่างเป็นคนที่สมบูรณ์แบบในทุกด้านจริงๆ เขาเพียบพร้อมไปหมด จนทำให้เขามีนิสัยเผด็จการ ทุกอย่างต้องเป๊ะเป็นระเบียบไปด้วย ชอบพิสูจน์และหาคำตอบต่างๆด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งนิสัยแบบนี้มันก็ดีกับการทำงาน แต่เอาไปใช้ในเรื่องความสัมพันธ์ก็เห็นว่าไม่เหมาะ แต่ถ้ามองลึกลงไปจะพบว่าเขาเป็นคนน่ารัก ภายใต้หน้ากากที่เรียบนิ่ง ได้แอบซ่อนความเหงาของเขาเอาไว้ การมีใครสักคนอยู่เคียงข้างและช่วยเลี้ยงดูลูกชายไปด้วยกัน นั่นคงจะเป็นความต้องการภายในใจของเขา อย่างที่เห็นว่าเมื่อเขาได้เจอกับนางเอก แววตาของเขาก็สดใสและดูมีความสุขมากขึ้น อย่างใน EP 1 เราชอบนิสัยของพระเอกและนางเอกมาก พระเอกเมื่อได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับวิทยานิพนธ์ เขาก็ไม่ได้นิ่งเฉยและมอบรางวัลนั้นไป แต่กลับเลือกที่จะไม่มอบ เพราะทุกอย่างยังไม่ชัดเจน ส่วนนางเอกเราชอบตรงที่เป็นคนมองความจริง ใจเย็น ไม่เหวี่ยงวีน เมื่อผิดก็ยอมรับผิด และสามารถแก้ปัญหาได้อย่างฉลาด ที่จะไม่พูดถึงเลยไม่ได้คือเคมีระหว่างพระเอกและนางเอก ทั้งสองคือเคมีเข้ากันมาก นางเอกน่ารักสดใส มองเพลิน ยิ้มทีโลกละลาย ส่วนพระเอกหล่อเหล่า มาดนิ่ง สุดเนี้ยบ ยิ่งตอนสวมชุดสูทเต็มยศคือหล่อมาก แต่พออยู่ด้วยกันคือมันดูลงตัวไปหมด เป็นอะไรที่ดูลงตัว ทำให้เราดูแล้วไม่ติดขัด หรืออึดอัดใจใดๆ แต่ก็แอบมีติดขัดอยู่เล็กน้อยกับฉากเลิฟซีนของทั้งสอง คือแบบจะกอดก็ไม่กอด จะจูบก็ไม่จูบสักที ต้องมีเสี่ยวเป่าน้อยคอยเป็นตัวกลางให้ แต่ถ้ามองอีกมุมนึงมันก็เป็นความสัมพันธ์แบบน่ารักค่อยๆเป็นค่อยๆไปอยู่นะ แค่เขายิ้มให้กัน มองตากัน แตะนิดแตะหน่อย บางทีเราก็ฟินแล้วค่ะ (เริ่มปลงและเฝ้ารอคอยฉากเลิฟซีนที่แท้จริงมาก) ไม่เพียงแต่ความฟินระหว่างพระเอกนางเอก แต่เราชอบความรู้สึกที่พวกเขาอยู่ด้วยกันสามคนด้วย มันเป็นความรู้สึกแบบครอบครัวสุขสันต์พ่อแม่ลูก ดูแล้วชวนละมุนอบอุ่นหัวใจมาก แม้นางเอกจะไม่ใช่แม่แท้ๆแต่เธอก็แสดงออกให้เห็นว่าเธอรักและหวังดีต่อเสี่ยวเป่าจริงๆ ส่วนน้องเสี่ยวเป่าก็คือน่ารักมาก แม้น้องจะไม่พูดอะไรเลย แต่น้องก็แสดงออกทุกอย่างผ่านสีหน้า พูดอยู่คำเดียวคือ 'หม่ามี๊' และหวงหม่ามี๊มาก เห็นแล้วชวนให้รู้สึกเอ็นดูกับความน่ารักของน้องมาก อีกอย่างที่ชอบของเป็นซาวน์เสียง ทางผู้กำกับมักจะมีเสียงน้องแมว เป็นเสียงประจำตัวของเสี่ยวเป่า ซึ่งมันทำให้น้องเป็นแมวน้อยที่ดูแสบซน และน่าเอ็นดูมาก แต่น้องก็แสบเแบบรู้จักกาลเทศะ ไม่เล่นเกินไปจนมองว่าเป็นเด็กก้าวร้าว ดูแล้วน่าหยิกมากกว่าน่าตีเลยค่ะ อีกอย่างคือน้องเป็นเด็กฉลาดมาก น้องจดจำฉินอวี่เยว่ที่เคยช่วยน้องตอนยังเด็กมากได้ ทำให้น้องรู้สึกสนิทและชอบฉินอวี่เยว่มาก และน้องก็เป็นกามเทพตัวน้อยให้ปะป๊าและหม่าม๊าได้ใกล้ชิดกัน บางครั้งก็มีแอบทำหน้าที่เป็นตัวกลาง คอยกั้นขวางผู้ชายคนอื่นที่เข้าใกล้หม่ามี๊ (เราแอบตลกตอนน้องถ่ายรูปไปฟ้องปะป๊าด้วยค่ะ เป็นเด็กแสบจริงๆ) และการที่มีเด็กน้อยคอยเป็นตัวกลาง ทำให้ความรักของพระนางดูน่ารักมาก สำหรับใครที่ชอบดูเด็กๆ เรื่องนี้ต้องบอกว่ามีให้เห็นเด็กน้อยแสนซนหลายคนเลย เพราะมักจะมีฉากเกี่ยวกับโรงพยาบาลบ่อยครั้ง ทำให้เราสนุกสนานและมีความสุขไปกับความน่ารักของน้องๆ ยิ่งถ้าใครเครียดๆมานะ แค่เห็นความน่ารักของน้องก็หายเครียดไปเลยค่ะ ตรงนี้สะท้อนได้อย่างหนึ่ง ว่าถึงแม้จะเป็นเด็กแต่การเข้ารับการปรึกษานักจิตวิทยาเด็กก็ไม่ใช่เรื่องแปลก (นี่แอบอยากให้ประเทศเราเปิดกว้างในเรื่องนี้บ้าง) เพราะบางครั้งเด็กก็มีปัญหาและความเครียดของตัวเองที่ไม่อยากให้ผู้ปกครองรับรู้ และผู้ปกครองก็อาจไม่มีเวลาว่างมากพอในการอบรมสั่งสอนเด็ก การที่เข้ารับการปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญย่อมดีกว่าการปล่อยเลยไป ซึ่งอาจจะกลายเป็นปัญหายุ่งยากในอนาคต อีกหนึ่งความประทับใจคงเป็นความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อน ซึ่งเราชอบมิตรภาพตรงนี้มาก แม้เพื่อนไม่มาก แต่มิตรภาพและความหวังดีนั้นเป็นของจริง อย่างเพื่อนนางเอกที่ยอมแก้ต่างให้ฉินอวี่เยว่ จนตัวเธอต้องออกจากงาน แต่เธอก็ไม่ได้โทษนางเอกในเรื่องนี้ กลับมีมุมมองว่าสิ่งที่เธอทำนั้นถูกต้องแล้ว การที่มีเพื่อนที่ดีต่อเราขนาดนี้ ถือเป็นความโชคดีจริงๆ องค์ประกอบภาพ แสง สี ทำออกมาได้ดี เนื้อหาเป็นไปอย่างต่อเนื่อง มีการสลับไปยังอดีตบ้างแต่ก็ไม่ได้ชวนสับสน หรือไม่เข้าใจ ภาพละมุนไม่ดูปวดตา คอสตูมก็ดีงาม แสดงถึงลักษณะนิสัยผ่านการแต่งตัวของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี อย่างพระเอกก็คือมาในชุดสูทเต็มตัวคือหล่อมาก บอสน้อยของเราก็ไม่น่อยหน้า แต่ละชุดน่ารักน่าเอ็นดูสุดๆ ชอบตอนเปิดเรื่องมาก เป็นฉากของคู่พ่อลูก ความเป๊ะของพวกเขา และการแต่งตัวที่พร้อมกัน มันทำให้ซีรีส์ดูซอฟท์ลง เป็นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกที่อบอุ่นละมุน ชวนเอ็นดูมาก (ขอแอบสปอยนิดนึงว่าพวกเขาไม่ใช่พ่อลูกกันจริงๆ แต่จะเป็นใครยังไง ต้องไปติดตามชมและร่วมหาคำตอบได้ในซีรีส์เลยค่ะ) สำหรับวันนี้เราก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ สำหรับใครที่อยากรับชมซีรีส์เรื่องนี้ สามารถดูได้ทาง iQIYI (ดำเนินมาถึง 12 ตอนแล้ว) ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่าน เจอกันบทความหน้า ขอให้มีความสุขโชคดีตลอดไปค่ะขอบคุณภาพจาก : 贺先生的恋恋不忘เครดิตภาพหน้าปก : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 เครดิตภาพประกอบ : ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 / ภาพที่ 6 / ภาพที่ 7 / ภาพที่ 8 / ภาพที่ 9 / ภาพที่ 10 / ภาพที่ 11 / ภาพที่ 12 / ภาพที่ 13 🎬 ดูซีรีส์แล้วอินยิ่งต้องมาแชร์ประสบการณ์ความฟินกับ TrueID Entertainment 📺✨อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!