เครดิตภาพ WarnerBrosเรื่องราวของเชื้อที่ถูกคิดค้นขึ้นมาเพื่อทำการรักษาโรคมะเร็ง แต่เมื่อได้ลองนำมาใช้ในการทดลองกับมนุษย์แล้ว ผลที่ได้ออกมากลับกลายล้มเหลวแถมไวรัสเกิดการแพร่เชื้อส่งไปยังผู้คนรอบข้าง ลามไปเรื่อยทั่วทั้งโลกจนไม่สามารถหยุดยั้งได้ทัน การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุจึงเป็นสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือที่นิวยอร์ค ต้นตอของไวรัส แต่ก็สายเกินไป ผลลัพธ์ในอีก 3 ปีต่อมา จึงเหลือเพียงแค่เศษซากของตึกรามบ้านช่อง พันโทโรเบิร์ต(Will Smith) ยอดนายทหาร ผู้เป็นมนุษย์คนสุดท้ายแห่งนิวยอร์คคนนี้ โรเบิร์ตก็ไม่ยอมปล่อยให้เมืองกลายเป็นที่รกร้าง เขาใช้ความรู้อันในด้านวิทยาศาสตร์ที่มีอยู่ พยายามดิ้นรนต่อสู้กับเชื้อร้ายด้วยการผลิตเซรุ่มที่จะใช้เปลี่ยนสภาพคนที่กลายพันธุ์ เรียกว่า Dark Seeker ให้กลับมาเป็นคนที่เรียกว่ามนุษย์ได้เช่นเดิม เครดิตภาพ Facebook Officialแต่การจะหาดาร์กซีกเกอร์มาทดลองยาของเขาก็ไม่ใช่ว่าจะง่าย แต่มันดันสวนทางกันเพราะพวกดาร์กซีกเกอร์ ออกหากินกลางคืน กลางวันหลับไหล ส่วนโรเบิร์ตก็ออกล่ากลางวันภาพยนตร์แนวโลกหายนะ แต่นอกจากความหายนะที่หนังพยายามสื่อ หนังก็มีปมดราม่าสอดแทรกเข้าไปด้วย และหนังไม่ได้เน้นไปที่แอ็คชั่นสุดโต่งแบบที่หลายคนคาดหวัง หนังเจาะไปที่ความอ้างว้างและโดดเดี่ยวและความน่าหวาดกลัวของสถานการณ์ หนังจึงดำเนินไปในเรื่อง Action Drama หนังดำเนินเรื่องได้อย่างน่าสนใจและน่าติดตาม มาเป็นสเต็ปเพื่อกระตุ้นความต้องการความอยากรู้ความสนใจของดู หนังน่าสนใจแม้ว่าจะไม่ได้มีความแปลกใหม่ของพล็อตเรื่อง พล็อตเก่าแต่เล่าเรื่องเก่งนี้มีชัยไปกว่าครึ่งจริง ๆ หนังใช้CG ในการเพิ่มฉากตึกร้างความน่ากลัวเข้าไปในบรรยากาศได้สมจริง ขอตินิดนึงที่เอฟเฟคต์ของผู้ติดเชื้อมันน่าจะเด่นได้มากกว่านี้เครดิตภาพ Facebook OfficialWill Smith คือนักแสดงนำของเรื่องผู้โดดเดี่ยว การเป็นนักแสดงนำเพียงคนเดียวคือเขาต้องแบกหนังไว้ทั้งเรื่องและก็ทำได้ดีมากซะด้วย เพราะบทบาทที่เขาเล่น บทดราม่า บทแอ็คชั่น ผสานกันได้อย่างลงตัวมาก ความมันส์ของภาพยนตร์เรื่องนี้คือตัวผู้ติดเชื้อของเรื่องนี้หรือ Dark Seeker ไม่ได้ซื่อบื้อ หรือ สมองตายด้านเหมือนหนังเรื่องอื่น ๆฉากแอ็คชั่นมีไม่บ่อยนัก แต่ว่าทุกซีนที่มีฉากแอ็คชั่น ยิ่งใหญ่อลังการ เหมือนมาน้อย ๆ แต่เน้นคุณภาพ แต่สิ่งที่ผมไม่ชอบคือการดำเนินเรื่องย้อนไปย้อนมา ตัดกลับไปกลับมาระหว่างเรื่องจริงกับความฝัน ที่จริง ๆ ก็ไม่ได้มีเยอะมาก พอจะให้อภัยกันได้ แต่ซีนกับสัตว์เลี้ยงน้องหมานั้นทำได้ดีมากเลย เครดิตภาพ Facebook Officialคะแนนเนื้อเรื่อง 7/10 หนังมีพล็อตเรื่องแบบเดิม ๆ แต่การดำเนินเรื่องไม่ได้น่าเบื่อไปซะทีเดียว หนังที่มีนักแสดงนำเพียงคนเดียว เป็นการวัดความสามารถของนักแสดงอีกบทหนึ่งและวิลก็ทำมันออกมาได้ดีมาก หนังเน้นไปในเชิงของผู้ติดเชื้อเรียกว่าดาร์กซีกเกอร์ หรือเข้าใจง่าย ๆ ก็เหมือนซอมบี้นั่นเองครับข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์1. ความเด็ดเดี่ยวของพระเอก ลองคิดตามนะครับ หากคุณเป็นเพียงมนุษย์เพียงคนเดียวที่อยู่ในรอดในเมืองใหญ่ ใช้ชีวิตท่ามกลางพวกกลายพันธุ์ เราคงต้องใจแข็งและเด็ดเดี่ยวไม่สติแตกเอาซะก่อน2. การเอาตัวรอด นี่คือส่วนที่ผมชอบที่สุดของหนังเรื่องนี้เลยดีกว่าครับ การเอาตัวรอดในบางฉากของหนัง แม้จะไม่ได้ถูกนำมาใช้ในชีวิตจริงได้ แต่ใครจะไปรู้ครับ หากมันเกิดขึ้นมาจริง ๆ คำไร้สาระอย่างจำมาจากหนัง คงมีประโยชน์ขึ้นมาทันทีถือว่าหนังทำได้ดีทีเดียวนะครับเกี่ยวกับโลกมนุษย์ที่แทบไม่มีมนุษย์เหลืออยู่ จากไวรัสสำหรับการรักษามะเร็ง กลายเป็นการกลายพันธุ์ของมนุษย์ หรือเรียกง่าย ๆ ว่าซอมบี้นั่นเองเครดิตภาพปก Facebook Official