Special Short CommentTwenty Five Twenty One (2022) Ep.7-8คำเตือน หากท่านยังไม่ได้ดูกรุณาอย่าเพิ่งอ่านบทความนี้ เพราะเผยเนื้อหาสำคัญปกติแล้วผู้เขียนมักจะไม่ค่อยเขียนอะไรทะลุกลางปล้องหลังจากชมซีรีส์จบระหว่างตอน ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่ค่อยดูออนแอร์สดแต่จะยิงยาวแล้วค่อยมาเขียนยาวๆแบบ Full Review อย่างที่ท่านเคยอ่านกัน แต่สำหรับเรื่องนี้ขออนุญาตเป็นข้อยกเว้นเพราะเมื่อได้ดูตอนที่เจ็ดจบลงด้วยอารมณ์แบบหนึ่ง แต่พอมาดูตอนที่แปดกลับมีอารมณ์อีกแบบหนึ่ง (ซึ่งผู้เขียนจะดูเรื่องนี้รวดเดียวสองตอนทุกคืนวันอาทิตย์) ทำให้อดทึ่งไม่ได้ในการเขียนบทละครของจุงจีอยอน (Mr. Sunshine (2018)) เพราะมองเห็นความฉลาด เข้าใจ รู้รอบด้าน และทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ทำให้สัมผัสที่ได้รับจากการชมมีความคมคายที่แนบเนียน จนทำให้มองเห็นด้วยตาสัมผัสได้ด้วยใจ ตัวซีรีส์นั้นจะเป็นแนวไหนไม่สำคัญแต่สารที่จะสื่อนั้นต้องสัมผัสได้ เช่นสองตอนล่าสุดชี้ชัดให้เห็นเลยว่านี่คือการยืนอยู่ตรงข้ามกันของหนึ่งความฝันแต่ต่างแรงผลักดันของเด็กสาวสองคน หนึ่งคือนาฮีโด (คิมแทรี) และอีกหนึ่งคือโกยูริม (โบนา) ซึ่งตั้งแต่ต้นมาแล้วที่ผู้ชมเห็นว่านาฮีโดมองโกยูริมเป็นแรงบันดาลใจเสมอ จนเมื่อแรงบันดาลใจนั้นสะท้อนกลับมาในเชิงลบก็กลายเป็นความท้าทาย เป็นความฝันความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาตัวเองเพื่อเป็นคู่ต่อสู้กับแรงบันดาลใจนั้น จึงไม่ต่างจากการที่นาฮีโดมองโกยูริมผ่านกระจกใสที่แม้จะมองเห็นด้านตรงข้ามแต่ก็มีเงาของตัวเองมาทาบทับ แต่สิ่งที่ผลักดันอยู่หลังเด็กสาวสองคนหนึ่งความฝันกลับต่างกันอย่างสิ้นเชิงนาฮีโดคือคนที่มีฝันเพื่อตัวเองเพราะรักและสนุกกับกีฬาฟันดาบแต่โกยูริมคือคนที่มีฝันเพื่อครอบครัวที่อยู่เบื้องหลัง ความต่างจึงอยู่ที่อุณหภูมิของหัวใจในเรื่องครอบครัวแต่จุดตัดสินแพ้ชนะของทั้งคู่กลับเป็นแก่นแท้ของการเล่นกีฬา เมื่อกีฬาฟันดาบคือกีฬาที่ต้องตัดสินด้วยความเร็ว เมื่อคู่ต่อสู้สูสีกันความต่างของเรื่องความกดดัน ความมั่นใน และความสนุกที่ได้เล่นกีฬาจึงเป็นปัจจัยตัดสิน และเดิมพันเหรียญทองของนาฮีโดและโกยูริมมีพื้นฐานที่ต่างกัน เมื่อคนหนึ่งชนะคนหนึ่งแพ้การไม่ยอมรับคำตัดสินจึงตามมา เพราะหนึ่งคือดาวจรัสแสงแห่งวงการฟันดาบที่เป็นความหวังของสมาคม อีกหนึ่งคือตัวป่วนที่มาขัดขวางที่ไม่มีใครเหลียวแลแม้แต่โค้ช เมื่อสู้ชีวิตแล้วชีวิตมันสู้กลับ สัมผัสแรกเมื่อความรู้สึกที่ทุกสายตามองนาฮีโดนั่นคือนาฮีโดผิดอะไร? เมื่อกว่าที่เธอจะมาถึงจุดนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง การซ้อมหนัก การถูกหยามว่าหยุดการพัฒนา หรือกระทั่งบอกว่าไม่มีพรสวรรค์ ที่คำพูดเหล่านั้นยังออกมาจากปากคนที่เธอต้องการกำลังใจที่สุดคือแม่ แต่การพัฒนาไม่ได้เป็นเนินเขาแต่เป็นขั้นบันได นาฮีโดจึงคว้าเหรีญทองไปได้แต่กลายเป็นเธอขโมยมันจากดาวที่ทุกคนคาดหวัง ทุกสิ่งที่กระหน่ำมาหาเธอจึงเป็นเรื่องเจ็บปวดสำหรับเด็กสาววัยยังไม่ยี่สิบ ทุกการกระทำใดของนาฮีโดจึงไม่ผิดเพราะคนที่รู้ตัวดีที่สุดว่า กว่าจะมาถึงจุดสูงสุดมีหลายอย่างที่ต้องแลกอย่างน้อยก็คือความอดทนและพยายามก็คือตัวนาฮีโดเอง แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเจ็บปวดยุติธรรมหรือแต่เมื่อลองมองในมุมโกยูริมในเวลาต่อมาจึงสัมผัสถึงความเข้าใจเมื่อเธอดาวเด่นคือความหวังของคนในชาติ โกยูริมหวังให้ครอบครัวมีชีวิตที่ดีขึ้นจากการเล่นกีฬาเพราะเธอมาจากพื้นฐานครอบครัวที่ยากจนและทางบ้านมีปัญหาจากภาวะเศรฐกิจของประเทศ นั่นคือสิ่งที่ผลักดันความฝันของโกยูริมแต่สิ่งที่ตามมาคือความหนักในสิ่งที่ต้องแบก เมื่อเธอคือนักกีฬาความหวังจึงต้องแบกความคาดหวังของคนจำนวนมหาศาลรวมถึงความหวังของตัวเองจากพื้นฐานครอบครัว จึงมองว่าสิ่งที่โกยูริมต้องแลกมาอาจไม่เหมือนกับนาฮีโดแต่ก็ไม่ตาง การเล่นกีฬาของเธอจึงเต็มไปด้วยความตึงเพราะแพ้ไม่ได้ ยิ่งถูกกระหน่ำชุดความคิดให้ว่าถ้าพลาดเหรียญทองโลกของเธอจะล่มสลายการกระทำของโกยูริมถ้ามองจากจุดนี้จึงไม่ผิดแล้วใครผิด? กระแสสังคมที่โหมกระหน่ำใส่นาฮีโดอย่างอยุติธรรม หรือสื่อมวลชนที่ขายข่าวแบบขยี้จนชีวิตเด็กสักคนจวนสูญสิ้น หากโทษสังคมก็อาจไม่ใช่เพราะในสภาวการณ์ที่ประชาชนยุคนั้นต้องเจอหลังวิกฤติ IMF ที่ชีวิตเหลือความชุ่มชื่นในหัวใจเพียงน้อยนิด จึงไม่แปลกที่ความหวังในบางสิ่งจะกลายมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวและเรื่องนี้ก็คือกีฬา เมื่อสังคมที่ง่อนแง่นไร้แสงสว่างทางเศรษฐกิจสิ่งที่ปลอบประโลมอาจเป็นฮีโร่ที่ได้เห็นมาตลอดว่าคือความหวัง แต่เมื่อความหวังถูกพรากไปโดยใครที่ไหนไม่รู้ก็มิต่างจากโลกสลาย และสื่อมวลชนก็มีหน้าที่เสนอข่าวในยุคที่อินเตอร์เน็ตการสืบค้นยังไม่แพร่หลาย การเสนอข่าวแบบนั้นมันคือเรื่องปกติที่คนที่โตทันยุคนั้นจะทราบดีสังคมและสื่อก็อาจไม่ผิด แต่ที่ผิดเต็มประตูคือยุคสมัยที่ขโมยหลายสิ่งจากบางคนแล้วให้รางวัลกับบางคนอย่างอยุติธรรมหรือไม่ ปฏิเสธลงหรือไม่ว่ายุคสมัยแห่งความแร้นแค้นลำบากได้หล่อหลอมกระแสสังคมที่เชิดชูฮีโร่เพราะชีวิตจริงดูไม่มีความหวัง ยุคสมัยที่สื่อต้องเสนอข่าวตามกระแสสังคมเพื่อขายข่าวให้ได้เพราะมันคือการคงอยู่ และการตามกระแสก็อาจไม่ต่างจากการปลอบโยนสังคมจากทุกข์เข็ญ ยุคสมัยที่ขโมยฐานะทางครอบครัวของโกยูริมให้กลายเป็นยิ่งยากลำบากและเพิ่มแรงกดดันที่มหาศาลให้สองบ่าเด็กอย่างเธอ ยุคสมัยที่ขโมยคาวามรักในการฟันดาบจากนาฮีโดจนต้องดิ้นรนไปอยู่ในจุดที่ต้องเผชิญหน้ากับแรงบันดาลใจเพียงหนึ่งเดียว จนกระทั่งต้องมาเจอกับการสู้กลับของชีวิต เพราะนาฮีโดคือเหยื่อ แต่โกยูริมก็คือเหยื่อ ประชานชนที่สร้างกระแสสังคมก็คือเหยื่อ สื่อมวลชนก็คือเหยื่อ เหยื่อแห่งยุคสมัยที่ยากลำบากไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แต่การใช้ชีวิตผ่านช่วงนั้นมาได้ด้วยดีหรือด้วยรอยแผลก็กลายเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่เรื่องนี้กำลังบอกกับพวกเรา เพราะไม่ว่ายังไงคนที่เคยผ่านยุคนั้นมาก็จะรู้ว่าทุกคนคือ "เหยื่อ" แห่งยุคสมัย ยุคสมัยที่กำหนดให้ทุกคนเป็นเหยื่อ จึงเป็นความคมคายเฉียบแหลมในการบอกเล่าเรื่องราวออกมา ที่เปิดด้วยอารมณ์หนึ่งแล้วอธิบายด้วยอารมณ์อีกแบบหนึ่ง และมองเห็นการทุ่มเททำงานหนักด้วยรายละเอียดของกฎกติกามารยาทของกีฬาฟันดาบที่น้อยคนนักจะรู้หรือสนใจ ทำให้สองตอนล่าสุดกลายเป็นปักกลางใจผู้ชมในวัยอย่างผู้เขียนที่เคยเป็นเหยื่อแห่งยุคสมัยนั้นมาแล้วคารวะในความคมคายโดย ดูไปบ่นไปNETFLIXขอบคุณภาพประกอบภาพปก / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5 จาก Facebook tvN Dramaเกาะติดซีรีส์เรื่องใหม่ ๆ ได้ที่ App TrueID โหลดฟรี !