เจ็บใจที่สุด! “น้ำตาล พิจักขณา” โดนมิจฉาชีพโกงที่พัก ด้าน “ไผ่ พาทิศ” โดนด้วย
เจ็บใจที่สุด! “น้ำตาล พิจักขณา” โดนมิจฉาชีพโกงที่พัก ด้าน “ไผ่ พาทิศ” โดนด้วย
โดนอีกหนึ่งรายนักแสดงสาว “น้ำตาล พิจักขณา” ที่โดนมิจฉาชีพตั้งเพจปลอมหลอกให้โอนเงินค่าที่พักใน จ.แม่ฮ่องสอน สูญเงินเกือบ 3 หมื่นบาท งานนี้ทำเอาสาว “น้ำตาล” ถึงขั้นหัวร้อนแบบเจ็บใจที่สุด
“โดนมิจฉาชีพโกงอยากจะบอกว่าเจ็บปวดใจมาก เท่าที่ได้ข่าวมาคือเขาโดนจับแล้ว คือตาลโดนมิจฉาชีพโกงที่แม่ฮ่องสอน ตอนนั้นมีงานแต่งงานเพื่อนที่แม่ฮ่องสอน แล้วเราก็ขึ้นไปบนปางอุ๋ง เลยขึ้นไปอีก ที่หมู่บ้านรักไทย ก็ไปโดนโกงที่นั่นเป็นเงินประมาณเกือบ 3 หมื่นบาท แต่พอไปถึงที่นั่นบ่าย 3-4 โมงเย็นไม่มีที่พักแล้ว เพราะว่าเราไปจองเพจปลอม ก็เลยถามเจ้าของรีสอร์ตว่าเราจะรู้ได้ไงว่าอันไหนเพจจริง เพจปลอม เขาบอกว่าเพจจริงโดนรีพอร์ต และเพจปลอมที่ตาลจองเขามีการไลฟ์สดด้วย เพราะตัวเขาเองไปเช่า แล้วไลฟ์สด เหมือนเป็นเจ้าของกิจการ เราก็เลยหลงเชื่อ มันแยบยลมากตอนนี้ อย่างมูลค่าความเสียหายเท่าที่ผ่านมามันหลายล้านมากๆ หลอกหลายคนมาก ถึงขั้นเจ้าของรีสอร์ตเขารู้จักกับที่พักเล็กๆ ที่ราคาไม่แรงมาก เอาไว้สำหรับคนที่โดนหลอกโดยเฉพาะ ซึ่งก็เป็นกลุ่มตาลเองที่ต้องไปนอน แล้ววันนั้นตาลร้องไห้เลยเพราะเหมือนกับว่าเราผ่านกันหลายโค้งมากจากเชียงใหม่เพื่อขึ้นไปถึงแม่ฮ่องสอนแล้วเพื่อนทุกคนไว้ใจให้ตาลเป็นคนจอง เพื่อนประมาณ 10 คนคือโดนหลอกหมด
เสียใจ เพื่อนทุกคนบอกว่าไม่เป็นไรได้ประสบการณ์ร่วมกัน แต่ว่าความรู้สึกของเรา ณ เวลานั้นมันเจ็บใจ เพราะเราก็อ่านมาเยอะและเราก็โดนเตือนมาเยอะ แล้วเราก็โทรไปฟ้องพ่อที่เป็นตำรวจ คือเราโทรไปบอกพ่อเรา ตอนนั้นเรากะว่าเราจะแจ้งความที่นั่น แต่ปรากฏว่าถ้าเกิดเราแจ้งความที่นั่นแล้วเกิดเรียกเรามาสอบปากคำเพิ่มเราก็ต้องบินไปที่แม่ฮ่องสอนอีก ก็เลยมาแจ้งความที่กรุงเทพฯ แล้วมันไม่ได้แจ้งความสักทีอันนี้คือข้อผิดพลาด ใครที่โดนมิจฉาชีพหลอกต้องไปแจ้งความ เพราะถ้าเขาถูกจับได้เราอาจจะได้อะไรคืนมาบ้าง แต่ว่าตาลเองไม่ได้ไปแจ้งความที่กรุงเทพฯ ก็เลยไม่ได้อะไร เพราะว่าทางเจ้าของรีสอร์ทเขาโทรมาบอกว่าตอนนี้จับได้แล้วนะ แล้วเป็นยังไงบ้าง แจ้งความหรือยัง เราก็บอกว่าเอ้า เสียดายมากๆ
เจ็บใจที่สุด แล้วคุณไผ่ พาทิศ เปิดร้านตู้ปลาก็เพิ่งโดนโกงเรื่องกล่องไป แล้วอันนี้คือเราจับตัวมิจฉาชีพได้เองด้วย ที่จังหวัดสุโขทัย ของคุณไผ่ก็หลักหมื่นเหมือนกันค่ะ อันนี้ก็แนบเนียนมาก เราก็ตามมาจนได้บัญชีมาได้อะไรหลายๆ อย่างมา เป็นนาตาซา โรมานอฟ น่ากลัวมาก กลัวผู้ชายแล้วตอนนี้ ก็คือนางก็ไล่ตามไปเรื่อยๆ เอาชื่อไปเสิร์ช แล้วก็ตามหา เอาเบอร์ไปเสิร์ช ดูกูเกิ้ลแมพแล้วก็ขยายทุกอย่าง ก็คือเรื่องไปถึงตำรวจ ก็มีข้อมูลเรียบร้อยหมดแล้ว
มันมาในทุกกลโกงมากๆ เลย และตาลก็รู้สึกว่าเราพยายามหาช่องทางปิดรูโหว่เวลามิจฉาชีพโกงเรา แต่มิจฉาชีพก็พยายามหาช่องทางมาโกงเราอีก มันก็เป็นเรื่องที่ยากมากๆ ตาลก็เข้าใจว่าตำรวจเขาก็มีหลายเคสที่เขาต้องตาม ดังนั้นอะไรที่เราตามได้ เราก็เอาข้อมูลไปยัดให้เขา แล้วให้เขาไปจับเลย สะใจดี”