ประวัติ ร็อคกี้ สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ จากดาราเป็นพ่อค้า โดนเพื่อนโกง
ประวัติ ร็อคกี้ สุรบดินทร์
สุรบดินทร์ สมบัติเจริญ ชื่อเล่น ร็อคกี้ เกิดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2525 เป็นนักจัดรายการวิทยุและนักแสดงชาวไทยเกิดที่กรุงเทพมหานคร มีชื่อเสียงจากละครเรื่อง นายร้อยสอยดาว และ รักได้ไหม...ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
เป็นนักจัดรายการวิทยุและนักแสดงชาวไทยเกิดที่กรุงเทพมหานครเป็นบุตรของนายสุรชัย สมบัติเจริญ และ นางอัฐพรพิมพ์ สมบัติเจริญ มีพี่น้องร่วมกัน 4 คน คือ สิตาภา สมบัติเจริญ (แพตตี้), ชินาภา สมบัติเจริญ (พีช) และ กมลชนก สมบัติเจริญ (ดิ๊ง) และเป็นหลานชายของสุรพล สมบัติเจริญ
เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงสุรบดินทร์เคยเป็นนักจัดรายการวิทยุและเป็นศิลปินมีผลงานที่เคยสร้างชื่อเสียงหลายๆอย่างในการก้าวสู่การเป็นนักแสดงในสังกัดสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เช่น ผลงานละครเรื่อง ลูกหนี้ทีเด็ด, ฟ้า หิน ดิน ทราย, พลิกดินสู่ดาว, นายตำรวจตรวจหัวใจ, คาดเชือก เป็นต้นต่อมาเขามีผลงานละครอีกมากมากมาย
ผลงาน
ละครโทรทัศน์
ละครโทรทัศน์ (ทั้งหมดออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7)
- ปี 2546 นายร้อยสอยดาว รับบทพาณิชย์ มิตรบันเทิง
- ปี 2546 ศิลปินเถื่อน รับบทอาร์ต
- ปี 2547 รักได้ไหม ถ้าหัวใจไม่เพี้ยน รับบทพีรพล
- ปี 2547 ลูกหนี้ทีเด็ด รับบทเจนจัด
- ปี 2549 พลิกดินสู่ดาว รับบทลายไท
- ปี 2549 ตะวันรุ่ง...ที่ทุ่งกระทิง รับบทกระทงทอง
- ปี 2550 ฟ้า หิน ดิน ทราย รับบทสุขุม
- ปี 2551 พลิกฟ้าล่าตะวัน รับบทไข่เป็ด
- ปี 2553 คุณชายตำระเบิด รับบทนับหนึ่ง
- ปี 2554 เหนือมนุษย์ รับบทอู๊ด
- ปี 2554 นายตำรวจตรวจหัวใจ รับบทสิบเอกอรุณ
- ปี 2555 มนต์รักแก้บน รับบทก๊อก
- ปี 2555 อุบัติเหตุ รับบทวิเศษ
- ปี 2556 อาญารัก รับบทเจ้าแทน
- ปี 2556 หมอรัก...หมอเพลง รับบทมัคทายกโทน
- ปี 2556 แม่ค้า รับบทสวิต
- ปี 2558 คาดเชือก รับบทพุด
- ปี 2559 ลูกเขยมะไฟ แม่ยายมะดัน รับบทอนันต์
- ปี 2559 หอเฮ้วขนหัวลุก รับบทจุ้น
- ปี 2559 เจ้าบ่าวกลัวฝน รับบทเกริกพล
- ปี 2560 ว่าความตามรัก รับบทหมูแฮม
- ปี 2561 รักหวานบ้านวุ่น รับบทเบล
- ปี 2562 สี่ไม้คาน รับบทประกอบ
ละครโทรทัศน์ออกอากาศทางช่อง 8
- ปี 2562 บุษบาเปื้อนฝุ่น บทบาทพงษ์
ละครโทรทัศน์ออกอากาศทางช่องวัน
- ปี 2561 บาปรัก บทบาททนายเอก
ละครโทรทัศน์ออกอากาศทางช่อง 3
- ปี 2566 สะใภ้สายสตรอง บทบาทกี้
ขอขอบคุณรูปจากเฟซบุ๊ก : ร๊อคกี้ เอฟวี่ติง