'นุ๊ก สุทธิดา' โล่งหลัง 'ทนายอัจฉริยะ' ยื่นมือช่วยคดีเช่าบ้านหรู คู่กรณีโผล่ขอโทษ
‘นุ๊ก สุทธิดา’ โล่งหลัง ‘ทนายอัจฉริยะ’ ยื่นมือช่วยคดีเช่าบ้านหรู คู่กรณีโผล่ขอโทษ
หลังจาก นุ๊ก สุทธิดา นำบ้านให้เช่า แต่ปรากฏว่าบ้านหลังดังกล่าวถูกผู้เช่านำไปทำเป็นโรงงานผลิตถุงมือยางผิดกฏหมาย ขณะเดียวกันบ้านก็เสียหาย ซึ่งเจ้าตัวก็ได้เข้าแจ้งความไว้แล้วนั้น ล่าสุดวันนี้ (15 ก.พ.) นุกพร้อมด้วย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่มารับหน้าที่ทนายคนใหม่ ได้ร่วมกันให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีนี้ โดยนุกกล่าวว่าสำหรับเธอตอนนี้ทนายอัจฉริยะเป็นเหมือนพระเอกขี่ม้าขาว ที่เข้ามาช่วยในวันที่รู้สึกแย่ที่สุด ไม่มีใคร
กับคู่กรณีนุกบอกว่าหลังจากมีการประเมินความเสียหายแล้ว ก็ไม่ได้ติดต่อมาอีก
ทั้งนี้ทนายอัจฉริยะบอกว่าจะทำการฟ้องร้องคู่กรณีคนแม่ในข้อหาผิดสัญญาละเมิดให้นุกเสียหาย ส่วนคนลูกจะแจ้งอาญาในข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ซึ่งจะเป็นการฟ้องโดยตรง ไม่ใช่การแจ้งความ ขณะเดียวกันตนจะดำเนินคดีเรื่องค้ามนุษย์ ที่ทั้ง 2 คนร่วมมือกันบังคับคนงานให้เสพยาเสพติด และมีการบังคับใช้แรงงาน
“ตอนนี้เรากำลังขอให้อนุมัติหมายจับอยู่“
เรื่องที่มีการกล่าวอ้างถึงทหารอากาศ นุ๊กก็ว่า “นุ๊กได้เจอค่ะ การ์ดทหารอากาศ แล้วในสัญญาเช่าบ้านการ์ดทหารอากาศท่านหนึ่งก็เป็นคนเซ็นต์เป็นพยาน คุณพ่อนุกก็เป็นอดีตผู้ช่วย ผบ.ทอ. เขาก็ได้ทักนุกด้วยนะคะว่ารู้จักกับคุณพ่อซึ่งเราก็ได้เห็นหน้าอยู่” นุ๊กกล่าว
ทั้งยังบอกอีกว่าที่ผ่านมา เวลาคนในครอบครัวของคู่กรณีไปไหนจะมีการ์ดเดินรายล้อมอยู่ประมาณ 7-8 คน ซึ่งนั่นก็ทำให้รู้สึกกังวล
“หลายๆ อย่างนะคะ ในเรื่องของการแอบอ้าง นุกอัดไว้หมดในเรื่องคลิปเสียงไม่ว่าจะเป็นการแอบอ้างรู้จักกับนายตำรวจหลายๆคน หรือแม้แต่กับคุณอัจฉริยะเอง เมื่อวานเขาก็บอก นุกก็อัดเอาไว้ เพราะฉะนั้นทุกๆ อย่างมีหลักฐานหมด จริงๆ ไม่ใช่แค่ทหารอากาศ แต่ว่ามีหลายคน ทนาย นักการเมือง เยอะค่ะที่เขาแอบอ้าง อันนี้ก็เดี๋ยวให้คุณอัจฉริยะจัดการแล้วกันค่ะว่ารู้จักจริงไหม หรือว่าแค่แอบอ้างเฉยๆ“
ด้านทนายอัจฉริยะยืนยันว่าอีกฝ่ายไม่น่าจะมีอิทธิพล
“ไม่รู้จัก ไม่เคยเจอ ไม่เคยทานข้าว ผมยืนยันว่าเราจับอย่างเดียวนะครับ มีหน้าที่บังคับใช้กฏหมาย หมดยุคที่ประเทศไทยมีมาเฟียแล้ว ไม่มีแน่นอน แล้วผมมั่นใจว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาล, ผบ.ตร. ท่านคงไม่ปล่อยให้มีมาเฟียมารังแกคุณนุก ยืนยันได้ว่าไม่มีแน่นอน“
“ถ้าบอกว่ามาเฟียมาเจอกับผมดีกว่า แล้วจะได้รู้ว่าของจริงคืออะไร“
ทั้งนี้หลังจากนุ๊กและทนายอัจฉริยะให้สัมภาษณ์เสร็จ นายอธิป หรือ เพชร คู่กรณีที่เดินทางตามมาก็ให้สัมภาษณ์โดยว่า ขอโทษที่พูดจาด่าทอนุกออกสื่อ รวมถึงที่พูดจาไม่ดีในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันก็ขอโทษที่ทำบ้านเสียหาย
“ต้องขอโทษพี่นุ๊กด้วยครับ” เขาพูดพลางยกมือไหว้
จากนั้นบอกด้วย ว่าค่าเสียหายที่นุกเรียกมาคิดว่าเยอะเกินไป จึงจะใช้วิธีรับผิดชอบเรื่องซ่อมบ้านให้ทั้งหมด ส่วนจะเริ่มดำเนินการเมื่อไหร่ก็แล้วแต่นุกจะกำหนด ซึ่งตนพร้อมจะเซ็นสัญญาและทำตาม
เมื่อถามเรื่องที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่าฝั่งเขาจะมีการเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จนนุ๊กหาข้อสรุปไม่ได้ เขาก็ว่าเป็นเพราะก่อนหน้านี้เขากับแม่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จึงไม่ทราบว่าแม่คุยอะไรกับนุกไว้บ้าง เลยเกิดความ ไม่เข้าใจกัน
“ผมอยากจะบอกว่าถึงผู้เช่าจะเป็นคุณแม่ แต่ทั้งหมดอยากให้มาลงที่ผมคนเดียว เพราะว่าผมเป็นคนทำเสียหายไม่ใช่คุณแม่” เขาว่า
เรื่องการต่อเติมบ้าน เพชรบอก “ผมจะทำเป็นโมเดลโรงงาน ผมแจ้งพี่นุ๊ก ไลน์ไปหา บอกว่าขออนุญาตต่อเติม แต่ไม่ได้บอกว่าเยอะขนาดนี้ ผมก็ผิดที่ไม่ได้บอกครับ”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นุกบอกว่าเธอไม่ได้รับข้อความทางไลน์ เห็นก็แต่ภาพบางส่วน
“ไม่ได้มีไลน์มาขอต่อเติม แต่มีถ่ายรูปบ้านให้ดูบางส่วน ถ่ายเป็นสภาพบ้านเดิม”
“ในสัญญาระบุว่าเช่าเพื่ออยู่อาศัย และเป็นโฮมออฟฟิต แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะทำเป็นโรงงาน หรือประกอบกิจการอย่างนี้” นุ๊กบอก
เรื่องเสพยาในบ้าน เพชรยอมรับว่าเกิดขึ้นจริง
“อันนี้ผมยอมรับว่าเป็นข้อผิดพลาดของตัวผมเอง ทั้งผมและลูกน้อง ซึ่งเรื่องนี้ก็ได้มีการโดนคุมความประพฤติและใส่กำไลข้อเท้าอีเอ็ม”
ส่วนเรื่องอิทธิพลมืดที่นุ๊กกลัว เขาก็ว่าเขาไม่ได้มีอิทธิพลใดๆ “ผมเป็นแค่เด็กอายุ 25 ปีคนหนึ่ง แล้วผมก็โดนโกงมาเยอะมาก ถ้าผมมีอิทธิพลจริง คงไปตามเอาหนี้คืนแล้วครับ”
เมื่อถามถึงเรื่องที่นุ๊กจะดำเนินคดี เขาก็ยกมือไหว้ พร้อมกับว่า อยากขอความกรุณาในเรื่องนี้
“ขอความกรุณาพี่นุ๊ก เพชรขอโทษจริงๆ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเพชรด้วย ไม่มีผู้ใหญ่แนะนำ ด้วยอารมณ์ ด้วยอะไรก็แล้วแต่ เพชรอยากเข้าบ้านมาเอาเสื้อผ้า มาเอาอะไรหลายๆอย่าง ทั้งหมดชีวิตเพชรมันก็มีเท่านี้ครับ”
ส่วนเรื่องที่ว่ากันว่ามีการแอบอ้างนายทหารระดับสูง และยังสนิทกับตำรวจท้อง เขาก็ว่า “มีบ้างที่รู้จักกับตำรวจท้องที่แต่ไม่ได้มีสนิทอะไรขนาดนั้น”
ส่วนทหารก็เป็นคนที่ตนรู้จักมาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้มีอิทธิพลอะไร
ในส่วนของนุ๊ก เธอบอกว่าตอนนี้มอบหมายทุกอย่างให้ทนายอัจฉริยะในการดำเนินการ ซึ่งทนายอัจฉริยะก็บอกเลยว่าจะดำเนินคดี
“คำว่าขอโทษมันสายไปแล้วน้อง” ทนายอัจฉริยะบอก
ด้านเพชร เมื่อได้ยินทนายอัจฉริยะพูด เขาก็ว่า ยินดียอมรับในกรณีของบ้านเสียหายครับ แต่ในเรื่องคดีอื่นๆที่ทนายอัจฉริยะพูดจะขอสู้ทุกคดี
ทนายอัจฉริยะยังสอบถามเรื่องที่เพชรกล่าวอ้างว่ารู้จักและเคยไปกินข้าวกับตนด้วยว่ารู้จักและเคยไปกินข้าวกันมาเมื่อไหร่ ซึ่งเพชรบอกว่าขอหลังไมค์ ซึ่งทนายอัจฉริยะก็ขอให้พูดต่อหน้าสื่อ ซึ่งเขาก็ไม่ได้พูดอะไร อย่างไรก็ดีภายหลังทนายอัจฉริยะบอกว่า สอบถามแล้ว เขาบอกว่ากินตอนเด็ก
“ผมก็ยังงงเลย เด็กตอนไหน ผมอยู่ 54 แล้ว ถ้าเขากินกับผม สงสัยอายุเขา 10 ปีมั้ง คงไม่ใช่แล้ว เพราะว่าไม่มีอยู่แล้วให้นุ๊กสบายใจ”